รางวัลและเกียรติคุณ
มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณแก่บัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม และมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยม
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก "พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย"
มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกเห็นสมควรจัดสรรโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณกับใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาวิชาแพทยศาสตร์จากสถาบันการศึกษาแพทยศาสตร์ในประเทศไทย ในแต่ละปีการศึกษา อาศัยอำนาจตามมติที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในการประชุมสมัยวิสามัญ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ มีมติให้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ แก่บัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม กับใบประกาศเกียรติคุณ แก่บัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยม ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑. ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณแก่บัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยมกับใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยม พ.ศ.๒๕๖๒”
ข้อ ๒. ให้ยกเลิก “ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกว่าด้วยการให้รางวัลและการประกาศเกียรติคุณบัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเด่น พ.ศ.๒๕๖๐” และให้ใช้ระเบียบฉบับนี้แทน
ข้อ ๓. ระเบียบนี้ให้ใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๔. บรรดาระเบียบ คำสั่ง ประกาศ หรือมติอื่นใดในส่วนที่ได้กำหนดไว้แล้วซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๕. ในระเบียบนี้
“มูลนิธิ” หมายความว่า มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการมูลนิธิ
“ประธาน” หมายความว่า ประธานมูลนิธิ
“เลขานุการ” หมายความว่า เลขานุการมูลนิธิ
ข้อ ๖. ให้มีการจัดทำโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ สำหรับบัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม ปีละ ๑ รางวัล ของมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นทุกปี
ข้อ ๗. ให้มีการจัดทำใบประกาศเกียรติคุณ สำหรับบัณฑิตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยมตามจำนวนผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ของมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นทุกปี
ข้อ ๘. ผู้รับรางวัลต้องมีคุณสมบัติดังนี้
๘.๑ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ ๑ จากสถาบันการศึกษาแพทยศาสตร์ในประเทศไทย ในปีการศึกษานั้นๆ
๘.๒ มีผลการเรียนอยู่ในระดับดีมากอย่างสม่ำเสมอตลอดหลักสูตร จากสถาบันการศึกษาแพทยศาสตร์
๘.๓ ได้รับการเสนอชื่อจากคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันแพทยศาสตร์
ข้อ ๙. คณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาแพทยศาสตร์ เสนอชื่อผู้สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต ประจำปีการศึกษา ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนใน ข้อ ๘ และได้รับการพิจารณาเห็นสมควรได้รับรางวัลเพียง ๑ ชื่อ ไปยัง
มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
เลขที่ ๙๖๙ วัดปทุมวนาราม ถนนพระราม ๑
แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐
ก่อนวันที่ ๑๕ มิถุนายน ของทุกปี
ข้อ ๑๐. ในการเสนอชื่อผู้สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตตาม ข้อ ๙ จะต้องมีเอกสารประกอบ ซึ่งคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาแพทยศาสตร์นั้นรับรอง ดังนี้
๑๐.๑ หนังสือเสนอชื่อโดยคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาแพทยศาสตร์
๑๐.๒ ประวัติส่วนตัวและประวัติการศึกษาของผู้ได้รับการเสนอชื่อ
๑๐.๓ สำเนาเอกสารแสดงผลการเรียนรายวิชา และผลการเรียนเฉลี่ยของผู้ได้รับการเสนอชื่อ
๑๐.๔ หนังสือรับรองและอธิบายความสามารถและสัมฤทธิผลในการเรียนวิชาหลักของผู้ได้รับการเสนอชื่อ จากอาจารย์ผู้สอนวิชาหลักนั้นๆ รวม ๕ วิชา ได้แก่
- สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
- ศัลยศาสตร์
- อายุรศาสตร์
- กุมารเวชศาสตร์
- เวชศาสตร์ชุมชน หรือเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม
๑๐.๕ หนังสือรับรองและอธิบายความสามารถพิเศษ จุดเด่น จุดด้อย ในบุคลิกภาพและการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรของผู้ได้รับการเสนอชื่อจากอาจารย์ที่รับผิดชอบด้านกิจการนิสิต/นักศึกษา
ข้อ ๑๑. ให้คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการเห็นสมควรเป็นประธาน ประธานและเลขานุการคณะกรรมการมูลนิธิฯ นายกแพทยสภา นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขาธิการกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ ๒ คน เป็นกรรมการ และผู้แทนมูลนิธิฯ คนหนึ่งเป็นกรรมการและเลขานุการ
ข้อ ๑๒. การพิจารณาและตัดสินมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ กับใบประกาศเกียรติคุณ ตาม ข้อ ๑๑ ให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐานประกอบการเสนอชื่อ ในประเด็นต่อไปนี้
๑๒.๑ ผลการเรียนรวมเฉลี่ยตลอดหลักสูตร
๑๒.๒ ผลการเรียนในวิชาหลักทางแพทยศาสตร์ ทั้ง ๕ วิชา
๑๒.๓ ความสามารถพิเศษ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร
๑๒.๔ ความมีคุณธรรมและจริยธรรมสำหรับบัณฑิตแพทยศาสตร์
นอกจากนั้น คณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัล อาจพิจารณาจากข้อมูลอื่นๆ รวมทั้งการสัมภาษณ์ผู้ได้รับการเสนอชื่อ หรือการสอบถามข้อมูลจากอาจารย์หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑๓. การพิจารณาและตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลถือเป็นที่สุด และให้นำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะกรรมการ เพื่อประกาศและจัดพิธีมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณกับใบประกาศเกียรติคุณ ต่อไป
ข้อ ๑๔. ให้คณะกรรมการจัดทำประกาศรายชื่อสถาบันการศึกษาแพทยศาสตร์ที่มีสิทธิเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติ เป็นรายปี เพื่อให้เป็นปัจจุบันตามความเหมาะสม
ข้อ ๑๕. หากมีการดำเนินการข้อใดที่ไม่มีระบุไว้ในระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ข้อ ๑๖. ให้ประธานรักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒
ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณแก่บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยมและมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยม
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เห็นสมควรจัดสรรโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ กับใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาวิชาทันตแพทยศาสตร์จากสถาบันการศึกษาทันตแพทยศาสตร์ในประเทศไทยในแต่ละปีการศึกษา อาศัยอำนาจตามมติที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในการประชุมสมัยวิสามัญ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ มีมติให้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ แก่บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม กับใบประกาศเกียรติคุณ แก่บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยม ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑. ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณแก่บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยมกับใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยม พ.ศ.๒๕๖๒”
ข้อ ๒. ให้ยกเลิก “ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่าด้วยการให้รางวัลและการประกาศเกียรติคุณบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่น พ.ศ.๒๕๖๐” และให้ใช้ระเบียบฉบับนี้แทน
ข้อ ๓. ระเบียบนี้ให้ใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๔. บรรดาระเบียบ คำสั่ง ประกาศ หรือมติอื่นใดในส่วนที่ได้กำหนดไว้แล้วซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๕. ในระเบียบนี้
“มูลนิธิ” หมายความว่า มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการมูลนิธิ
“ประธาน” หมายความว่า ประธานมูลนิธิ
“เลขานุการ” หมายความว่า เลขานุการมูลนิธิ
ข้อ ๖. ให้มีการจัดทำโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ สำหรับบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม ปีละ ๑ รางวัล ของมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นทุกปี
ข้อ ๗. ให้มีการจัดทำใบประกาศเกียรติคุณ สำหรับบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ดีเยี่ยม ตามจำนวนผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ของมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นทุกปี
ข้อ ๘. ผู้รับรางวัลต้องมีคุณสมบัติดังนี้
๘.๑ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ ๑ จากสถาบันการศึกษาทันตแพทยศาสตร์ในประเทศไทย ในปีการศึกษานั้นๆ
๘.๒ มีผลการเรียนอยู่ในระดับดีมากอย่างสม่ำเสมอตลอดหลักสูตร จากสถาบันการศึกษาทันตแพทยศาสตร์
๘.๓ ได้รับการเสนอชื่อจากคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันทันตแพทยศาสตร์
ข้อ ๙. คณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาทันตแพทยศาสตร์ เสนอชื่อผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนใน ข้อ ๘ และได้รับการพิจารณาเห็นสมควรได้รับรางวัลเพียง ๑ ชื่อ ไปยัง
มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
เลขที่ ๙๖๙ วัดปทุมวนาราม ถนนพระราม ๑
แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐
ก่อนวันที่ ๑๕ มิถุนายน ของทุกปี
ข้อ ๑๐. ในการเสนอชื่อผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิตตาม ข้อ ๙ จะต้องมีเอกสารประกอบ ซึ่งคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาทันตแพทยศาสตร์นั้นรับรอง ดังนี้
๑๐.๑ หนังสือเสนอชื่อโดยคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาทันตแพทยศาสตร์
๑๐.๒ ประวัติส่วนตัวและประวัติการศึกษาของผู้ได้รับการเสนอชื่อ
๑๐.๓ สำเนาเอกสารแสดงผลการเรียนรายวิชา และผลการเรียนเฉลี่ยของผู้ได้รับการเสนอชื่อ
๑๐.๔ หนังสือรับรองและอธิบายความสามารถและสัมฤทธิผลในการเรียนวิชาหลักของผู้ได้รับการเสนอชื่อ จากอาจารย์ผู้สอนวิชาหลักนั้นๆ รวม ๕ วิชา ได้แก่
- ศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล
- ทันตกรรมประดิษฐ์
- ทันตกรรมบูรณะและปริทันตวิทยา
- ทันตกรรมจัดฟันและทันตกรรมสำหรับเด็ก
- ทันตกรรมครอบครัวและชุมชน
๑๐.๕ หนังสือรับรองและอธิบายความสามารถพิเศษ จุดเด่น จุดด้อย ในบุคลิกภาพและการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรของผู้ได้รับการเสนอชื่อจากอาจารย์ที่รับผิดชอบด้านกิจการนิสิต/นักศึกษา
ข้อ ๑๑. ให้คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย
ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการเห็นสมควรเป็นประธาน
ประธานและเลขานุการคณะกรรมการมูลนิธิฯ นายกทันตแพทยสภา
นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้ทรงคุณวุฒิ ๒ คน
เป็นกรรมการ และผู้แทนมูลนิธิฯ คนหนึ่งเป็นกรรมการและเลขานุการ
ข้อ ๑๒. การพิจารณาและตัดสินมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ กับใบประกาศเกียรติคุณ ตาม ข้อ ๑๑ ให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐานประกอบการเสนอชื่อ ในประเด็นต่อไปนี้
๑๒.๑ ผลการเรียนรวมเฉลี่ยตลอดหลักสูตร
๑๒.๒ ผลการเรียนในวิชาหลักทางทันตแพทยศาสตร์ ทั้ง ๕ วิชา
๑๒.๓ ความสามารถพิเศษ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร
๑๒.๔ ความมีคุณธรรมและจริยธรรมสำหรับบัณฑิตทันตแพทยศาสตร์
นอกจากนั้น คณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัล อาจพิจารณาจากข้อมูลอื่นๆ รวมทั้งการสัมภาษณ์ผู้ได้รับการเสนอชื่อ หรือการสอบถามข้อมูลจากอาจารย์หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑๓. การพิจารณาและตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลถือเป็นที่สุด และให้นำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะกรรมการ เพื่อประกาศและจัดพิธีมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณกับใบประกาศเกียรติคุณ ต่อไป
ข้อ ๑๔. ให้คณะกรรมการจัดทำประกาศรายชื่อสถาบันการศึกษาทันตแพทยศาสตร์ที่มีสิทธิเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติ เป็นรายปี เพื่อให้เป็นปัจจุบันตามความเหมาะสม
ข้อ ๑๕. หากมีการดำเนินการข้อใดที่ไม่มีระบุไว้ในระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ข้อ ๑๖. ให้ประธานรักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒
ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณแก่บัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม และมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเยี่ยม
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก "พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย"
มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เห็นสมควรจัดสรรโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ กับใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาวิชาเภสัชศาสตร์จากสถาบันการศึกษา เภสัชศาสตร์ในประเทศไทยในแต่ละปีการศึกษา อาศัยอำนาจตามมติที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในการประชุมสมัยวิสามัญ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ มีมติให้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ แก่บัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม กับใบประกาศเกียรติคุณ แก่บัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเยี่ยม ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑. ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่าด้วยการมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณแก่บัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยมกับใบประกาศเกียรติคุณแก่บัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเยี่ยม พ.ศ.๒๕๖๒”
ข้อ ๒. ให้ยกเลิก “ระเบียบมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ว่าด้วยการให้รางวัลและการประกาศเกียรติคุณบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่น พ.ศ.๒๕๖๐” และให้ใช้ระเบียบฉบับนี้แทน
ข้อ ๓. ระเบียบนี้ให้ใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๔. บรรดาระเบียบ คำสั่ง ประกาศ หรือมติอื่นใดในส่วนที่ได้กำหนดไว้แล้วซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๕. ในระเบียบนี้
“มูลนิธิ” หมายความว่า มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการมูลนิธิ
“ประธาน” หมายความว่า ประธานมูลนิธิ
“เลขานุการ” หมายความว่า เลขานุการมูลนิธิ
ข้อ ๖. ให้มีการจัดทำโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ สำหรับบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเด่นยอดเยี่ยม ปีละ ๑ รางวัล ของมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นทุกปี
ข้อ ๗. ให้มีการจัดทำใบประกาศเกียรติคุณ สำหรับบัณฑิตเภสัชศาสตร์ดีเยี่ยม ตามจำนวนผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ของมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นทุกปี
ข้อ ๘. ผู้รับรางวัลต้องมีคุณสมบัติดังนี้
๘.๑ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาเภสัชศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ ๑ จากสถาบันการศึกษาเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย ในปีการศึกษานั้นๆ
๘.๒ มีผลการเรียนอยู่ในระดับดีมากอย่างสม่ำเสมอตลอดหลักสูตร จากสถาบันการศึกษาเภสัชศาสตร์
๘.๓ ได้รับการเสนอชื่อจากคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันเภสัชศาสตร์
ข้อ ๙. คณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาเภสัชศาสตร์ เสนอชื่อผู้สำเร็จการศึกษา เภสัชศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนใน ข้อ ๘ และได้รับการพิจารณาเห็นสมควรได้รับรางวัลเพียง ๑ ชื่อ ไปยัง
มูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
เลขที่ ๙๖๙ วัดปทุมวนาราม ถนนพระราม ๑
แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐
ก่อนวันที่ ๑๕ มิถุนายน ของทุกปี
ข้อ ๑๐. ในการเสนอชื่อผู้สำเร็จการศึกษาเภสัชศาสตรบัณฑิตตาม ข้อ ๙ จะต้องมีเอกสารประกอบ ซึ่งคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาเภสัชศาสตร์นั้นรับรอง ดังนี้
๑๐.๑ หนังสือเสนอชื่อโดยคณบดีหรือผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษาเภสัชศาสตร์
๑๐.๒ ประวัติส่วนตัวและประวัติการศึกษาของผู้ได้รับการเสนอชื่อ
๑๐.๓ สำเนาเอกสารแสดงผลการเรียนรายวิชา และผลการเรียนเฉลี่ยของผู้ได้รับการเสนอชื่อ
๑๐.๔ หนังสือรับรองและอธิบายความสามารถและสัมฤทธิผลในการเรียนวิชาหลักของผู้ได้รับการเสนอชื่อ จากอาจารย์ผู้สอนวิชาหลักนั้นๆ รวม ๔ วิชา ได้แก่
- วิทยาศาสตร์เภสัชกรรม
- เภสัชภัณฑ์
- เภสัชศาสตร์สังคมและบริการ
- เภสัชบริบาลศาสตร์
๑๐.๕ หนังสือรับรองและอธิบายความสามารถพิเศษ จุดเด่น จุดด้อย ในบุคลิกภาพและการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรของผู้ได้รับการเสนอชื่อจากอาจารย์ที่รับผิดชอบด้านกิจการนิสิต/นักศึกษา
ข้อ ๑๑. ให้คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการเห็นสมควรเป็นประธาน ประธานและเลขานุการคณะกรรมการมูลนิธิฯ นายกสภาเภสัชกรรม นายกสมาคมเภสัชกรรมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้ทรงคุณวุฒิ ๒ คน เป็นกรรมการ และผู้แทนมูลนิธิฯ คนหนึ่งเป็นกรรมการและเลขานุการ
ข้อ ๑๒. การพิจารณาและตัดสินมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณ กับใบประกาศเกียรติคุณ ตาม ข้อ ๑๑ ให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐานประกอบการเสนอชื่อ ในประเด็นต่อไปนี้
๑๒.๑ ผลการเรียนรวมเฉลี่ยตลอดหลักสูตร
๑๒.๒ ผลการเรียนในวิชาหลักทางเภสัชศาสตร์ ทั้ง ๔ วิชา
๑๒.๓ ความสามารถพิเศษ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร
๑๒.๔ ความมีคุณธรรมและจริยธรรมสำหรับบัณฑิตเภสัชศาสตร์ นอกจากนั้น คณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัล อาจพิจารณาจากข้อมูลอื่นๆ รวมทั้งการสัมภาษณ์ผู้ได้รับการเสนอชื่อ หรือการสอบถามข้อมูลจากอาจารย์หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑๓. การพิจารณาและตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาตัดสินรางวัลถือเป็นที่สุด และให้นำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะกรรมการ เพื่อประกาศและจัดพิธีมอบโล่และเข็มรางวัลเกียรติคุณกับใบประกาศเกียรติคุณ ต่อไป
ข้อ ๑๔. ให้คณะกรรมการจัดทำประกาศรายชื่อสถาบันการศึกษาเภสัชศาสตร์ ที่มีสิทธิเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติ เป็นรายปี เพื่อให้เป็นปัจจุบันตามความเหมาะสม
ข้อ ๑๕. หากมีการดำเนินการข้อใดที่ไม่มีระบุไว้ในระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ข้อ ๑๖. ให้ประธานรักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒