ชีวประวัติ
และ
ปกิณกะธรรม
ของพระครูเกษมวรกิจ
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย
ของพระครูเกษมวรกิจ
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย
ขออนุโมทนาสาธุกับผู้ที่รวบรวม ชีวะประวัติของข้าพเจ้า (พระครูเกษมวรกิจ) “วิชัย เขมิโย” และธรรมะเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้ปฏิบัติมาและประสบการณ์ในช่วงเดินธุดงค์ ในประเทศไทยบ้าง ประเทศลาวบ้าง เพื่อผู้สนใจในธรรม จะได้นำไปศึกษาและปฏิบัติตาม จะได้เกิดประโยชน์คือ ความสงบจิตสงบใจ ความสงบคือความสุขอันแท้จริงในชีวิตประจำวันของคนเรา สติ (ผู้รู้) ดูจิต, ปัญญาดูความคิด หยุดคิดจิตสงบ
ผู้ที่รวบรวมเป็นผู้ที่ใฝ่ธรรม เสียสละอันแท้จริง หนังสือเล่มนี้จึงสำเร็จขึ้นมาได้ (เสียสละเป็นยอดของความดี สามัคคีเป็นยอดของความสำเร็จ) กาย-ใจต้องสามัคคีกัน กายอยู่ตรงไหนต้องให้จิตใจอยู่ตรงนั้น การทำทุกอย่างจึงจะสำเร็จ สมบูรณ์ถูกต้อง “ธรรมะดี ถ้าไม่มีใครปฏิบัติตาม ธรรมะนั้นก็ไร้ค่า ธรรมะมีคุณค่า เพราะมีผู้ปฏิบัติตาม คำพูดดีก็เป็นเช่นเดียวกัน คำพูดดีจะมีค่า เพราะมีผู้ปฏิบัติตาม ถ้าไม่มีผู้ปฏิบัติตามคำพูดนั้นก็ไร้ค่า
เพราะฉะนั้นผู้ที่รวบรวมชีวะประวัติและธรรมะที่ข้าพเจ้าได้เทศน์ไว้ ผู้รวบรวมเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงได้เสียสละกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ พิมพ์ออกมาให้ผู้สนใจทั้งหลายได้อ่าน พอเป็นคติเตือนใจในช่วงที่มีปัญหา
เราไม่กลัวปัญหาใดใดเมื่อใจเราสู้ ทองแท้ไม่กลัวไฟ ต้มเท่าไหร่ ไหลออกมาก็เป็นน้ำทองไม้ใหญ่ไม่กลัวลม พัดเท่าไหร่ก็ไม่ล้ม เพราะรากฝังลึก” ปัญหาเกิดขึ้นมาให้เราแก้ กรรมเกิดมาให้เราได้ชดใช่ หยุดก็พ้นทุกข์ หยุดๆๆให้ได้ อย่าปรุงแต่ง เกิดขึ้นได้ก็จบได้ ถ้ารู้จักหยุดๆๆ
เจริญพรด้วยเมตตาธรรม
พระครูเกษมวรกิจ (วิชัย เมิโย)
ชีวิตที่อยู่โดยไม่มีธรรมะเป็นหลักใจ จะเป็นชีวิตที่ทุกข์มาก ไม่ต่างอะไรกับโคทึกตาบอดติดอยู่ในป่าหนามหวาย ซึ่งหนามหวายก็เป็นหนามที่แหลมคมมาก โคทึกก็ตาบอดมองไม่เห็นทาง เดินไปข้างหน้าก็ถูกหนามหวายอันแหลมคมทิ่มตำเอา จะถอยกลับมาข้างหลังก็ถูกแหลมทิ่มตำ ไปข้างซ้ายไปข้างขวาก็เช่นเดียวกัน ได้รับความทุกขเวทนามาก สุดท้ายโคทึกก็ตายอยู่ตรงนั้น
มนุษย์ที่ไม่รู้จักธรรมะก็ไม่ต่างอะไรกับโคทึกตาบอด ถูกกิเลสตัณหาเปรียบเหมือนหนามทิ่มแทงจิตใจอยู่ทั้งกลางคืน กลางวัน ยืน เดิน นั่งนอน สัญจรไปมามีแต่ความทุกข์ไม่มีความสุขอะไรเลยไม่มีทางหลีกเลี่ยง เพราะไม่รู้ไม่เห็นทางออกทางไป สุดท้ายก็ตายอยู่กับความทุกข์ และเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏะสงสารเกิดมาชาติใดก็ต้องทุกข์ตายอยู่เช่นนี้
ธรรมะจะเป็นเครื่องเตือนจิตของเราได้ดีมาก และเรามีความเศร้าใจเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราเอาธรรมะมาสอนใจเราๆ ก็สามารถทำใจให้หายเศร้าได้ เวลาใดเรามีความทุกข์ เราจะได้หายทุกข์ มีปัญหาใดๆ ก็สามารถแก้ปัญหานั้นได้
"ธรรมแลรักษาผู้ปฏิบัติธรรม ธรรมจะนำความสุขให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรม" ผู้ให้ธรรมเป็นทานชนะการให้สิ่งทั้งปวง เกิดชาติใดถ้ายังไม่ถึงพระนิพพาน ก็จะเป็นผู้มีปัญญากว่าคนทั้งหลาย จดจำได้มาก ผู้ปฏิบัติธรรมจะมีอบายภูมิได้ คือไม่ไปเกิดเป็นเปรต ไม่ไปเกิดเป็นอสุรกาย ไม่เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ไม่เกิดเป็นสัตว์นรก ย่อมไปเกิดบนสวรรค์ พรหมโลก ตลอดเข้าสู่พระนิพพาน