"บ้านศรีบุญเรือง" การเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหา "ขยะ" ที่คนในชุมชนเป็นผู้สร้างขึ้นมา และต้องกลับมาจัดการด้วยชุมชนเอง ชุมชนจึงต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหาเพื่อจัดการปัญหาเรื่องขยะ จากวิถีเดิมที่ชาวบ้านศรีบุญเรืองคิดว่าการแก้ปัญหาขยะที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ และเป้นวิธีการที่ทุกหมู่บ้านนิยมใช้กัน คือการขุดหลุมฝังกลบขยะในพื้นที่หมู่บ้าน การนำขยะที่เกิดขึ้นในแต่ละครัวเรือนทุกประเภทเพียงแค่นำไปทิ้งที่หลุมขยะก็เป็นวิธีการจัดการขยะในหมู่บ้านได้แล้ว ไม่ได้ทำให้เกิดขยะตามข้างทางและรอบบ้าน แต่ทุกคนในหมู่บ้านลืมไปว่าแม้จะขุดหลุมทิ้งขยะไว้มากเพียงได้หลุมขยะดังกล่าวก็สามารถเต็มและล้นหลุมได้ ปัญหาดังกล่าวจึงตามมาอย่างรวดเร็วถึงแม้ว่ามติหมู่บ้านจะจัดให้มีการพัฒนาหมู่บ้านและเผาขยะในหลุมฝังกลบแล้วก็ตาม แต่วิธีการจัดการดังกล่าวกลับไม่เท่าทันต่อปริมาณขยะที่มีมากขึ้นในทุกวัน และที่สำคัญพอมีขยะเพิ่มมากขึ้นได้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนจนทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ ตามมาอีกหลายอย่าง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเขม่าควันไฟในการเผาขยะ แมลงนำโรคมีแหล่งเพาะพันธุ์มากขึ้นเกิดปัญหาโรคอุจจาระร่วงในช่วงฤดูร้อน ภูมิแพ้จากการสูดกลิ่นขยะที่เหม็นเป็นเวลานาน ผู้ป่วยโรคปอดอุดกลั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) มีอาการเรื้อรังที่ยาวนานขึ้นและต้องเข้ารับบริการในโรงพยาบาลบ่อยครั้ง เป็นต้น กระทั่งโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงบ้านโป่งคำ โดย สวพส. เข้าไปส่งเสริมให้บ้านศรีบุญเรืองได้จัดทำแผนชุมชนโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกคนในหมู่บ้านได้ร่วมกันคิดวิเคราะห์บนฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้บ้านศรีบุญเรืองใช้แผนชุมชนเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ท้ายที่สุดสามารถแก้ไขปัญหาโดยการพึ่งพาตนเองได้ ด้วยความเข้มแข็งของผู้นำชุมชนบ้านศรีบุญเรืองจึงได้วางแผนการจัดการขยะในชุมชนอย่างจริงจัง โดยกำหนดโจทย์ท้าทายโจทย์แรกของชุมชน คือ หากปิดบ่อขยะแล้วจะทำอย่างไรกับขยะที่ยังมีเหลืออยู่ จึงเกิดเป็นกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างชาวบ้านกับคณะกรรมการหมู่บ้าน ดังนี้
ระยะที่ 1 สร้างจิตสำนึก รณรงค์และประชาสัมพันธ์ เริ่มต้นด้วยการให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการจัดการขยะจากตันทาง สร้างแรงจูงใจให้ทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วม ดังนี้
1) การประชุมประจำเดือนทุกครัวเรือนต้องเข้าร่วมทุกครั้ง สมาชิกทุกคนต้องรับทราบและร่วมมือปฏิบัติ หากมีข้อสงสัยหรือไม่เห็นด้วยจะใช้มติในที่ประชุมชนของหมู่บ้านในการตัดสิน เพื่อที่จะร่วมรับรู้ปัญหาและร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไข หรือการหารือการทำกิจกรรมต่างๆ
2) มีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในชุมชน รณรงค์ให้ทุกครัวเรือนมีการคัดแยกขยะ งดใช้ถุงพลาสติกใช้ถุงผ้าหรือตะกร้าแทน เป็นประจำทุกสัปดาห์
3) สนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ร่วมกิจกรรมทุกครั้ง เพื่อสร้างจิตสำนึกในการรักษาความสะอาด เช่น การพัฒนาหมู่บ้าน การเก็บขยะ การพัฒนาวัด ถนน แหล่งสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ
4) ส่งเสริมและจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการช่วยทำกิจกรรมตามที่ถนัด เช่น คัดแยกขยะในครัวเรือน สานเสวียน การนำวัสดุทางธรรมชาติมาใช้ทดแทน
ระยะที่ 2 แกนนำตัวอย่าง ครัวเรือนต้นแบบ บ้านครีบุญเรืองมี ผู้นำชุมชน คณะกรรมการหมู่ และสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นแกนนำหลักในการทำกิจกรรมการคัดแยกขยะในครัวเรือนเป็น "ครัวเรือนตัวแบบ" เพื่อชี้ให้ชาวบ้านเห็นถึงข้อดีข้อเสียของการทำกิจกรรม และเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเข้าร่วม
แนวคิดการทำงานของผู้ใหญ่สุพรรณ บูรณเทศ ผู้ใหญ่บ้านศรีบุญเรือง คือ การสร้างครัวเรือนต้นแบบ เพื่อให้เป็นตัวอย่างในการขยายผลให้คนในชุมชนเห็นประโยชน์ของการจัดการขยะในครัวเรือน วิธีการดังกล่าวจะทำให้เกิดแรงจูงใจและขยายจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เป็นวงกว้างและครอบคลุมทั้งหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมุ่งพัฒนาคนในชุมชนโดยเน้นการสร้างแกนนำด้านต่างๆ เน้นการใช้คนให้ถูกกับงาน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการติดตามประเมินผลการประกวดหมู่บ้านสะอาด กลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ว่างงานไม่มีรายได้ มอบหมายให้เป็นผู้คัดแยกขยะจากกิจกรรมตลาดนัดขยะทองคำ
ตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมการจัดการขยะ ชุมชนได้มีการพัฒนาความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยชุมชนได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการจัดฝึกอบรมให้ความรู้และการศึกษาดูงาน เน้นให้มีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนกัน เพื่อที่จะได้นำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนและปรับใช้ในชุมชน ตัวอย่างการต่อยอดที่สำคัญคือการได้ไปศึกษาดูงานจากชุมชนอื่น พบว่าการมีบ่อขยะเป็นวิธีการจัดการหนึ่งที่อาจจะไม่ถูกสุขลักษณะมากนักและไม่ยั่งยืน หลังจากการศึกษาดูงานกลับมาจึงเน้นการจัดการขยะอย่างถูกต้องในครัวเรือน ลดปริมาณขยะ นำหลักการจัดการขยะตามหลัก 3Rs มาขยายผลต่อยอดในชุมชนจนสามารถปิดหลุมขยะในชุมชนทั้ง 4 หลุมได้สำเร็จ
ระยะที่ 3 ร่วมด้วยช่วยกันและสร้างเครือข่าย "อะไรทำเองได้ให้ทำก่อน"
จากการสร้างความตระหนัก และครัวเรือนต้นแบบแล้ว ชุมชนยังต้องจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และเริ่มกิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับสมาชิกหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อทุกคนตัดสินใจปิดบ่อขยะแล้ว การจัดการขยะในครัวเรือนจึงต้องเริ่มต้นจากการจัดการแบบง่ายๆ เพื่อลดปริมาณขยะในครัวเรือนและชุมชนให้มากที่สุด โดยมีกิจกรรมสำคัญดังนี้
1) จัดกิจกรรมประกวดครัวเรือนสะอาด
2) ทุกครัวเรือนมีห่วงคัดแยกขยะ แบ่งออกเป็น 3 ห่วง ได้แก่ ขยะรีไซเคิล ขยะอินทรีย์ และขยะอันตราย ขยะประเภทไหนที่มีพ่อค้ามารับซื้อเก็บขายให้พ่อค้าไป ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นขยะพลาสติก จึงเกิดกิจกรรมตลาดนัดขยะทองคำ(ขยะแลกไข่) ตามมา
3) มีการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ เช่น นำยางรถยนต์มาทำเป็นกระถางต้นไม้ตกแต่งภูมิทัศน์ภายในชุมชน ใช้ปลูกผักสวนครัวในครัวเรือน เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติย่อยสลายง่ายเพื่อลดปริมาณขยะ
4) ตั้งกลุ่มบริหารจัดการขยะ มีคณะกรรมการบริหารกลุ่ม มีสมุดบันทึกการซื้อขายขยะของครัวเรือนมีการทำบัญชีซื้อ-ขายขยะ และนำนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มมูลค่าขยะ เช่น การรับซื้อขยะพลาสติกทุกชนิด เพื่อเข้าเครื่องอัดก้อนลดพื้นที่การจัดเก็บและจำหน่ายให้บริษัทเอกชนเพื่อนำไปแปรรูป
5) มีการนำขยะอินทรีย์ คือชังข้างโพด แกนข้าวโพด มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ถ่านอัดแท่ง เพื่อลดการเผาในชุมชนได้ เกิดเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนถ่านอัดแท่งจากขังข้าวโพด ต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่คือ ถ่านดูดกลิ่น
6) ส่งเสริมกิจกรรมจิตอาสาและจิตสาธารณะภายในชุมชน
- ชุมชนกำหนดวัน big cleaning day เป็นประจำทุกเดือนหรือทุกวันสำคัญต่างๆ จะความสะอาดภายในบริเวณบ้านตนเองและบริเวณที่สาธารณะรอบบ้านของตนเอง เช่น ร่วมกันพัฒนาความสะอาดภายในบริเวณวัด ช่วยกันทำเสวียนบริเวณลานวัดเพื่อเก็บเศษใบไม้
- การพัฒนาแหล่งสาธารณะประโยชน์ของชุมชน พร้อมกับปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในชุมชน เช่นบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน การพัฒนาสองข้างทางให้สะอาดอยู่เสมอ และปลูกต้นไม้ ดอกไม้สองข้างทาง ช่วยกันบำรุงดูแลต้นไม้ โดยมีการผลัดเปลี่ยนเวรมาดูแลอย่างสม่ำเสมอ การนำวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นกระถางต้นไม้ ดอกไม้ เช่น ยางรถยนต์ที่เหลือใช้
- การพัฒนาแหล่งน้ำสาธารณะให้สะอาด ไม่ทิ้งขยะลงให้แหล่งน้ำคูคลอง ดูแลรักษาไม่ให้แหล่งน้ำปนเปื้อนสารพิษจากการทำการเกษตรต่าง ๆ
- การพัฒนาคุ้มบ้านเพื่อประกวดความสวยงามของตนเอง เป็นการแข่งขันกันระหว่างคุ้มบ้าน นอกจากภายในชุมชนจะสวย สะอาดน่ามองแล้วนั้น ยังสร้างความสนุกสนาน เกิดความสามัคคีภายในชุมชนนอกจากคนในชุมชนแล้ว หน่วยงานที่อยู่ภายในชุมชนยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาจิตอาสาด้วย เช่น โรงเรียน อบต. รพสต. ที่มาร่วมการทำกิจกรรมของคนในชุมชน เกิดการพัฒนาที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
ลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกตั้งแต่ต้นทางคือร้านค้า เน้นการใช้ถุงผ้า หรือตะกร้าไปจ่ายตลาด
ทุกครัวเรือนคัดแยกขยะ ได้แก่
ขยะอินทรีย์ (ใช้ทำปุ๋ยและอาหารสัตว์)
ขยะรีไซเคิล (ขายให้กับรถรับซื้อของเก่า)
ขยะทั่วไป (กำจัดเองโดยเผาในที่โล่งแจ้ง)
ขยะติดเชื้อ (จัดเก็บและทำลายโดย รพ.สต.)
ขยะอันตราย (อบต.พงษ์ ดำเนินการจัดเก็บและทำลาย)
ส่งเสริมให้ความรู้ในการคัดแยกขยะ นำมารีไซเคิล ตัวอย่างบ้านศรีบุญเรืองได้เสนอโครงการมายัง อบต.พงษ์ ผ่านหลักประกันสุขภาพตำบลพงษ์ ในการจัดซื้อเครื่องอัดขยะ เพื่อให้ชุมชนมีกิจกรรมทำร่วมกันและให้หมู่บ้านไม่มีขยะตกค้าง
การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนบ้านศรีบุญเรือง
สร้างจิตสำนึก รณรงค์และประชาสัมพันธ์
มีแกนนำตัวอย่าง และครัวเรือนต้นแบบ
ร่วมด้วยช่วยกันและสร้างเครือข่าย
"อะไรทำเองได้ให้ทำก่อน"
กิจกรรมตลาดนัดขยะทองคำ
(ขยะแลกไข่)
ทุกครัวเรือนมีเสวียนและ 3 ห่วงคัดแยกขยะ
นำขยะมารีไซเคิลใหม่
นำซังข้าวโพดมาทำเป็นถ่านอัดแท่ง
การส่งเสริมจิตอาสาและจิตสาธารณะภายในชุมชนบ้านศรีบุญเรือง
ชุมชนกำหนดวัน Big Cleaning Day เป็นประจำทุกเดือนหรือทุกวันสำคัญ
การพัฒนาแหล่งสาธารณะประโยชน์ของชุมชน
การพัฒนาแหล่งน้ำสาธารณะให้สะอาด
การพัฒนาคุ้มบ้าน
รูปแบบและวิธีการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของชุมชน
จากกระบวนการวิเคราะห์ปัญหาภายในบ้านศรีบุญเรื่อง จึงได้กำหนดปัญหาหลักที่ขุมชนต้องการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ได้แก่ การจัดการขยะล้นหมู่บ้าน บ้านศรีบุญเรื่องจึงกำหนดเป็นแผนปฏิบัติงานประจำปีของชุมชน และวางแผนการจัดการขยะในระยะต่าง ๆ เพื่อมุ่งสู่การเป็นชุมชนปลอดขยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ปี 2558-2559 กระตุ้นตื่นรู้ สู้ปัญหาขยะล้นบ้าน มุ่งเน้นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับปัญหาขยะที่เกิดขึ้นทั่วโลก ปัญหาขยะในประเทศไทย ปัญหาขยะในจังหวัดน่าน จนถึงปัญหาขยะในหมู่บ้าน จนพบว่าสาเหตุหลักของปัญหาขยะล้นเมืองนั้น ส่วนมากมักถูกอ้างว่าเกิดจากการที่โลกมีประชากรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปริมาณขยะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วตามไปด้วย ทั้งขยะที่เกิดจากครัวเรือนและในชุมชน ขยะจากการเกษตรกรรม และขยะจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีทั้งขยะที่ย่อยสลายได้และย่อยสลายได้ยาก ตลอดจนขยะที่เป็นอันตราย และขยะติดเชื้อที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ด้วย ซึ่งขยะแต่ละชนิดแต่ละประเภทควรได้รับการจัดการที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อสุขอนามัยที่ถูกต้องและไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
การจัดการขยะของชุมชนบนพื้นที่สูงส่วนใหญ่ในแต่ละหมู่บ้านจะมีการขุดหลุมเพื่อทิ้งขยะของแต่ละหมู่บ้าน และไม่มีการคัดแยกขยะก่อนการนำไปทิ้งลงหลุม บางพื้นที่ขยะล้นบ่อเรี่ยราดบริเวณปากหลุมส่งกลิ่นเหม็น และมีแมลงวันมาวางไข่ สร้างความรำคาญแก่คนในหมู่บ้าน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน นอกจากนี้ปัญหาที่สำคัญสำหรับการจัดการขยะบนพื้นที่สูงคือข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในการทำหลุมขยะของชุมชนที่เป็นไปได้ยากเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป้นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ด้วยเหตุนี้บ้านศรีบุญเรือง จึงได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการกำจัดขยะให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล และการจัดการขยะในครัวเรือนที่ถูกต้อง ชมรม อสม.บ้านศรีบุญเรือง ร่วมกับบ้านศรีบุญเรืองจึงได้ดำเนินโครงการจัดการขยะบ้านศรีบุญเรือง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาด้านการจัดการขยะในชุมชน และเตรียมความพร้อมเพื่อปรับเปลี่ยนสู่วิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสมตามแนวทาง Zero waste โดยเน้นการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางเพื่อให้เหลือในปริมาณน้อยที่สุดที่ตกค้างในชุมชนโดยมีกระบวนการดำเนินงานดังนี้
1. แต่งตั้งและประชุมคณะทำงานโดยคัดเลือกสมาชิกจากชุมชน เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนกิจกรรมการจัดการขยะในชุมชน โดยเริ่มจากการชี้แจงบทบาทหน้าที่และแนวทางการดำเนินงานโครงการ
2. จัดเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการจัดการขยะในชุมชนเพื่อสำรวจข้อมูล ความคิดเห็น และวางแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องตามความต้องการและศักยภาพของชุมชน
3. จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่สมาชิกทุกคนในชุมชนเกี่ยวกับการคัดแยกขยะเบื้องต้น ดังนี้
- ขยะที่สามารถนำมารีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ซ้ำได้ หรือนำไปขายให้เกิดรายได้
- ขยะอินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายใด้นำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ
- คัดแยกขยะที่เป็นอันตรายด้วยวิธีที่ถูกต้อง นำส่งหน่วยงานที่รับผิดชอบกำจัดในพื้นที่
4. สำรวจปริมาณขยะในบ้านศรีบุญเรืองโดยให้ครัวเรือนของ อสม. เป็นครัวเรือนนำร่องในการคัดแยกขยะในครัวเรือน และจดบันทึกเพื่อนำมาวางแผนการดำเนินงานต่อไปในอนาคต
5. จัดทำผ้าป่าขยะ เพื่อสร้างกระแสกระตุ้นให้คนในชุมชนมีการตื่นตัว และให้ความร่วมมือในการจัดการ
6. ติดตามและประเมินผล โดยการตรวจเยี่ยมการคัดแยกขยะในชุมชนโดย อสม. และคณะกรรมการหมู่บ้าน ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ รพ.สต.พงษ์ อบต.พงษ์ วัด สวพส. และได้รับการสนับสุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลพงษ์
ระยะที่ 2 ปี 2560-2561 ผสานพลังชุมชน รณรงค์สู้ปัญหาขยะ จากความสำเร็จในการดำเนินโครงการระยะที่ 1 ได้ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมโดยการมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชน และภาคส่วนต่าง ๆ บ้านศรีบุญเรืองได้กำหนดแนวปฏิบัติในการจัดระเบียบของชุมชนเพื่อรักษาความสะอาดบริเวณบ้าน ที่หรือทางสาธารณะ และสิ่งแวดล้อมให้สวยงามน่าอยู่อาศัยการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจแก่คนในชุมชน การตั้งกลุ่มบริหารจัดการขยะ และสร้างกลไกการจัดการขยะโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน มีคณะทำงานที่ชัดเจนมีกฎระเบียบ และมีแผนการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มอย่างเป็นรูปธรรม จึงทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในชุมชน จึงเกิดกระบวนการดำเนินอย่างมีส่วนร่วมในระยะที่ 2 ดังนี้
1. ประชุมชี้แจงในที่ประชุมประจำเดือนของหมู่บ้านเพื่อให้ทุกคนรับทราบแนวทางการจัดบริหารจัดการ และกำหนดจัดกิจกรรมประกวดบ้านสะอาด คุ้มบ้านสะอาด และประชาคมเพื่อเข้ากิจกรรม
2. ประสานหน่วยงานในพื้นที่สนับสนุนทางวิชาการ และการดำเนินงานในหมู่บ้าน
3. จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการขยะหมู่บ้าน เพื่อประสานาน และสนับสนุนการดำเนินโครงการ ดังนี้
(1) นายอ้วน เงินสม ประธาน
(2) นายสมควร สายใจ รองประธาน
(3) หัวหน้าคุ้ม 5 คุ้มบ้าน กรรมการ
(4) นางสาวนภารี เตชะเสนา ประชาสัมพันธ์
(5) นางประภาพร จันทร์อ้น เหรัญญิก
(6) นางจิตรา เตชะเสนา เลขาฯ
4. การอบรมให้ความรู้เรื่องวิธีการแยกขยะที่ถูกวิธี แยกขยะแต่ละประเภท รณรงค์ลดถุงพลาสติกในร้านค้า รณรงค์ให้เด็กนักเรียนทิ้งขยะตามจุดทิ้งขยะ และการกำจัดขยะที่ถูกวิธี
5. จัดกิจกรรมประกวด และกำหนดเกณฑ์การประกวดบ้านสะอาด และคุ้มบ้านสะอาด ดังนี้
(1) มีการจัดทำความสะอาดบริเวณภายในห้องนอน (10 คะแนน)
(2) มีการจัดทำความสะอาดบริเวณภายในห้องน้ำ (10 คะแนน)
(3) มีการจัดทำความสะอาดบริเวณภายในห้องครัว (10 คะแนน)
(4) มีการจัดทำความสะอาดบริเวณตัวบ้าน (10 คะแนน)
(5) มีการจัดทำความสะอาดบริเวณรอบตัวบ้าน (20 คะแนน)
(6) มีถังขยะภายในบ้านและมีการคัดแยกขยะในครัวเรือน (20 คะแนน)
(7) มีการจัดการน้ำขัง/น้ำเสียภายในตัวบ้าน บริเวณบ้าน (20 คะแนน)
6. จัดกิจกรรมการพัฒนาครัวเรือนและจิตอาสาพัฒนาสาธารณะประโยชน์ในวันสำคัญต่าง ๆ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
7. คณะกรรมการมีการติดตามประเมินผลให้คะแนนสะสมเดือนละ 1 ครั้ง
8. กำหนดมีการมอบรางวัลครัวเรือนสะอาด/คุ้มบ้านสะอาด ปีละ 1 ครั้ง
ระยะที่ 3 ปี 2562-2563 เดินหน้าสู่ชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste Community) จากการดำเนินกิจกรรมการประกวด และรณรงค์หมู่บ้านสะอาด ในระยะที่ 2 มีการส่งเสริมการคัดแยกขยะในครัวเรือน พบว่ามีขยะบางส่วนที่ไม่สามารถนำไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี เป็นผลยังมีการเผาขยะที่เหลือจากการคัดแยกในหมู่บ้านโดยเฉพาะขยะประเภทพลาสติก จากการประชุมประจำเดือนของหมู่บ้านได้ข้อเสนอจากชุมชนให้มีการหามาตรการจัดการอย่างเหมาะสม ลดการเผาเน้นการจัดการอย่างถูกต้อง ถูกสุขลักษณะ และมีการดำเนินการอย่างยั่งยืน จึงเกิดกระบวนการดำเนินงานลำดับถัดมา ดังนี้
1. จัดอบรมฟื้นฟูความรู้และหาแนวทางการจัดการอย่างถูกต้อง เน้นการคัดแยก และกำหนดจุดรวบรวมมูลฝอยประเภทพลาสติก
2. จัดให้คณะกรรมการหมู่บ้านได้ศึกษาดูงานเพื่อพัมนากระบวนการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร
3. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ เพื่อจัดซื้อเครื่องอัดพลาสติกและจัดตั้งธนาคารขยะประจำหมู่บ้านศรีบุญเรือง
4. กำหนดนโยบายระดับหมู่บ้าน "บ้านศรีบุญเรืองปลอดขยะ" ดังนี้
1) อสม. ประเมินความถูกต้องของการคัดแยกขยะในครัวเรือน พร้อมให้คำแนะนำ
2) จัดทำเสวียน โดยให้บ้าน อสม.เป็นแบบอย่างแก่คนในชุมชน
3) รณรงค์การใช้ถุงผ้าหรือตะกร้าในการไปซื้อของที่ร้านค้าหรือตลาด ลดการนำถุงพลาสดิกเข้าบ้านหากไปไร่/สวน ให้พกปิ่นโตแทนการใช้ถุงพลาสติก
4) ร้านค้าภายในชุมชน ลดการใช้ถุงพลาสติก
5) ประกาศงดการเผาขยะในพื้นที่หมู่บ้าน และใแต่ละครัวเรือนให้มีการจัดการขยะดังนี้
· ขยะพลาสติกให้แยก พลาสติกสีและพลาสติกใส แล้วรวมกันอัดไว้ในถุงขนาดใหญ่
· ขยะกระดาษ กล่องนม ให้ทำแบนๆแล้วมัดรวมกันไว้
· ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ ที่เป็นขยะอันตรายให้แยกแล้วรวมไว้ที่จุดรวบรวมที่ อบต.พงษ์ จัดไว้ให้
· ขยะที่แยกไว้แล้วจะนำไปรวมไว้ที่โรงเรือนที่พักขยะของชุมชนเดือนละ 1 ครั้ง และทางผู้นำชุมชนจะติดต่อรถมารับซื้อ
5. กิจกรรมตลาดนัดขยะทองคำ(ขยะแลกไข่) เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ.2562จนถึงปัจจุบัน รูปแบบกิจกรรมตลาดนัดทองคำ คือการนำขยะไม่สามารถจัดการได้จากการคัดแยกขยะของแต่ละครัวเรือน เช่น ขยะพลาสติก กล่องนม กระสอบปุ๋ย เป็นต้น ให้นำมาขายให้ที่ตลาด (แลกไขไก่) ซึ่งจะเปิดทุกวันที่มีการประชุมประจำเดือนของหมู่บ้าน และขยะที่ได้จากการรับซื้อทางคณะการกลุ่มจะนำไปแยกประเภท และนำเข้าเครื่องอัดพลาสติกก้อน เพื่อไปจำหน่ายให้กับบริษัทเอกชนต่อไป
ระยะที่ 4 ปี 2564-2565 บ้านศรีบุญเรืองเข้าร่วมการประกวดชุมชนปลอดขยะระดับอำเภอ/จังหวัด/ประเทศ เพื่อเป็นการประเมินผลการดำเนินงานของชุมชน และเพื่อเรียนทคนิคกระบวนการใหม่ที่ได้รับจากคำแนะนำของคณะกรรมการในแต่ละระดับมาปรับใช้ในชุมชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว และสามารถคว้ารางวัลชุมชนปลอดขยะยอดเยี่ยมระดับประเทศ ประเภทชุมชนขนาดกลาง จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตลอดระยะเวลาในการดำเนินงานบ้านศรีบุญเรืองได้มีการกำกับติดตามกระบวนการทำงานด้วยกระบวนการ PDCA (Plan-Do-Check-Act) เป็นหลักสำคัญในพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานมาโดยตลอด
Plan (การวางแผ่น) ใช้ข้อมูลจากแผนชุมชนเป็นหลัก
Do (การดำเนินงาน) ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม
Check (การประเมินผล) ใช้เวทีประชุมประจำเตือนของชุมชนในการสรุปปัญหาร่วมกัน
Act (การปรับปรุง) นำข้อมูลจากการประชุมประจำเดือนมาปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องร่วมกัน
นอกจากนี้บ้านศรีบุญเรืองยังได้เน้นการสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะโดยเริ่มจากภายในครัวเรือนมาสู่ชุมชน ให้มีการคัดแยกขยะ ออกเป็น 4 ประเภท โดยใช้หลักการบริหารจัดการขยะตามหลัก 3Rs คือ
1. ขยะอินทรีย์ให้มีการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)
1) การจัดการชังข้าวโพดซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีปริมาณมหาศาลเนื่องจากบ้านศรีบุญเรื่องเดิมอาชีพหลักคือทำไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วจะเหลือชังข้าวโพดกองเป็นภูเขากระจายอยู่ทั่วชุมชนเพื่อรอการเผา ซึ่งเป็นการจัดการขยะที่ไม่ถูกวิธีและส่งผลต่อการเกิดปัญหาหมอกควันพิษในพื้นที่ จากปัญหาดังกล่าวชุมชนจึงประสานกับนักวิจัย สวพส.เพื่อศึกษาวิธีจัดการขยะและพบว่าชังข้าวโพดสามารถนำมาแปรรูปเป็นถ่านอัดแท่งได้ ชุมชนจึงจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตถ่านอัดแห่งจากซังข้าวโพด เพื่อนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาผลิตเป็นถ่านอัดแท่ง นอกจากจะไม่มีขยะจากกิจกรรมทางการเกษตรเหลือทิ้งแล้วยังช่วยลดการเผาในพื้นที่และสร้างรายได้เสริมให้แก่คนในชุมชนเพิ่มขึ้น
2) การจัดการเศษอาหาร ใบไม้ หญ้า และอื่นๆในชุมชน บ้านศรีบุญเรืองได้สนับสนุนให้ทุกครัวเรือนจัดทำเสวียนบริเวณรอบโคนต้นไม้ และทำถังกรีนโคน เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้และเศษอาหาร ซึ่งนอกจากช่วยจัดการขยะในครัวเรือนได้แล้ว ยังช่วยลดต้นทุนจากการให้ปุ๋ยต้นไม้รอบบ้านอีกด้วย
2. ขยะรึไซเคิลที่ยังใช้ได้ คือ บรรจุภัณฑ์ หรือวัสดุเหลือใช้ ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ เช่น แก้ว กระดาษ เศษพลาสติก กล่องเครื่องดื่มแบบ UHT กระป๋องเครื่องดื่ม เศษโลหะ อะลูมิเนียม ยางรถยนต์ เป็นต้น สำหรับขยะรึไซเคิลนี้เป็นขยะที่พบมากที่สุดซึ่งขยะประเภทนี้สามารถคัดแยก เพื่อนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน รวมถึงการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์งานฝีมือ ต่างๆ เช่น ประดิษฐ์เป็นของตกแต่งบ้าน ตะกร้าจากกล่องนม แจกันดอกไม้จากขวดพลาสติก เป็นต้น
3. ขยะทั่วไป คือขยะที่นอกเหนือจากขยะอินทรีย์และ ขยะริไซเคิล ส่วนใหญ่คือถุงพลาสติกใช้แล้วกล่องนม และกล่องโฟม สำหรับขยะประเภทนี้ชุมชนได้เน้นการประชาสัมพันธ์ลดการใช้ (Reduce) โดยรณรงค์ให้คนในชุมชนใช้ปิ่นโตไปวัด ใช้ตะกร้าไปร้านค้าแทนการใช้ถุงพลาสติก และขอความร่วมมือให้ร้านค้าภายในชุมชนงดใช้ถุงพลาสติกใส่ของ หรืออาหาร สนับสนุนให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายง่าย ทดแทนการใช้กล่องโฟม และมีการรวบรวมขยะที่ไม่สามารถจัดการได้ เช่น พลาสติก นำไปอัดเป็นก้อนและส่งขายให้บริษัทเอกชนนำไปรึไซเคิลใหม่ ซึ่งในชุมชนบ้านศรีบุญเรืองพบปริมาณขยะชนิดนี้ในจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมาก ประมาณเฉลี่ย 11.84 กิโลกรัม/วัน (คิดเป็นร้อยละ 12.52 ของปริมาณขยะทั้งหมด)
4. ขยะอันตราย ปัจจุบันมีปริมาณเฉลี่ยเพียง 1.94 กิโลกรัม/วัน (คิดเป็นร้อยละ 2.05 ของปริมาณขยะทั้งหมด) มีวิธีการจัดการโดยแบ่งออกเป็น 3 ชนิดได้แก่
(1) ขยะติดเชื้อ มีการจัดเก็บและทำลายโดย รพ.สต.พงษ์
(2) ขยะอันตราย ได้มีการจัดตั้งจุดรวบรวมให้ อบต.พงษ์จะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและทำลาย
(3) ขยะพิษ เช่น ภาชนะบรรจุสารกำจัดศัตรูพืชต่างๆ ได้รับการสนับสนุนโรงเก็บจาก สวพส. และหหน่วยงานดังกล่าวจะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและทำลาย
กระตุ้นตื่นรู้ สู้ปัญหาขยะล้นบ้าน
ผสานพลังชุมชน รณรงค์สู้ปัญหาขยะ
เดินหน้าสู่ชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste Community)
หมู่บ้านประชาธิปไตยต้นแบบระดับจังหวัด
หมู่บ้าน OTOP หมู่บ้านนวัตวิถี การจัดทำโครงการหมู่บ้านสะอาด ชุมชนสวยงาม
รางวัลชนะเลิศหมู่บ้าน/ชุมชนสะอาด ระดับตำบล
รวมกลุ่มจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนและให้ชุมชนภายนอกได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้
ได้รับรางวัลชุมชนปลอดขยะ (Zero waste) ระดับภาค ชุมชนขนาดกลาง ระดับดีเยี่ยมลำดับที่ 2
ได้รับรางวัล Intellectual Property for Business 2020 (IP4B2020) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ช่วยสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยทรัพย์สินทางปัญญา (ถ่านดูดกลิ่นจากซังข้าวโพด)
ที่มา:
นางสุพรรณ บูรณเทศ ผู้ใหญ่บ้านศรีบุญเรือง
นายอ้วน เงินสม ประธานคณะกรรมการบริหารขยะบ้านศรีบุญเรือง และปราชญ์ชาวบ้าน
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
องค์การบริหารส่วนตำบลพงษ์
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพงษ์