๓. โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร
ความเป็นมา
จากการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริ ให้ดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันขึ้นในโรงเรียนตำรวจตระเวน ชายแดนซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารตามแนวชายแดนทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วย แก้ไขปัญหาการขาดสารโปรตีน และพลังงานในวัยเด็กเรียนทางหนึ่งนั้น ผล การดำเนินงานโครงการดังกล่าว สามารถช่วยลดอัตราการมีน้ำหนักต่ำกว่า เกณฑ์เด็กของนักเรียนลงเหลือร้อยละ ๑๖.๘ ในช่วงต้นปี๒๕๓๙ เมื่อเทียบกับเป้าหมายของแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริพ.ศ.๒๕๓๕-๒๕๓๘ (ร้อยละ๑๐)และแผนอาหารและโภชนาการแห่งชาติในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่๗ (ร้อยละ ๗) จะเห็นได้ว่าปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กเรียนในพื้นที่ทุรกันดารเหล่านี้ยังสูงอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรากฐานของภาวะโภชนาการและสุขภาพอนามัยของบุคคลในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่พอดี ทั้งนี้เนื่องจากสภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการ คมนาคม อีกทั้งบางพื้นที่ก็ยังไม่ปลอดภัย จึงทำให้บริการขั้นพื้นฐานต่าง ๆ รวมทั้งบริการสาธารณสุขเข้าไปไม่ถึง ในทางกลับกันประชาชนที่อาศัยอยู่ตาม พื้นที่ทุรกันดารเหล่านี้มีโอกาสในการพัฒนาด้อยกว่าที่อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีจึงมีพระราฃดำริให้ดำเนินโครง การส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดารขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๙ เพื่อช่วยให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการได้เต็มศักยภาพ เป็นคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประะเทศ ต่อไป ทั้งนี้เพราะการที่คนเราจะมีภาวะโภชนาการและสุขภาพอนามัยดีนั้น จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา นั่นคือแม่จะต้องมีภาวะโภชนาการและ สุขภาพอนามัยดีด้วย ถ้าแม่ขาดสารอาหารก็จะส่งผลกระทบต่อเด็กที่จะเกิด ออกมาทั้งด้านการเจริญเติบโต และพัฒนาการของร่างกายและสมองได้
วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมให้หญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็กทารกแรกเกิดจนถึง 3 ปี ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารได้รับบริการที่เหมาะสมและได้รับความรู้ด้านอาหารและโภชนาการ
กิจกรรมที่สำคัญ
ร่วมกับ จนท.อนามัย ในพื้นที่ ให้ความรู้เรื่องโภชนาการและสุขภาพอนามัยแก่หญิงมีครรภ์ และ สสน. อาหารเสริม วิตามิน ให้กับหญิงมีครรภ์