เนื้อหาสาระ
4.1 วัตต์มิเตอร์
4.1.1 โครงสร้างของวัตต์มิเตอร์
4.1.2 การต่อใช้งานวัตต์มิเตอร์
4.1.3 การวัดและการอ่านค่ากำลังไฟฟ้า
4.2 วาร์มิเตอร์
4.3 วัตต์อาวร์มิเตอร์
4.3.1 โครงสร้างวัตต์อาวร์มิเตอร์
4.3.2 หลักการทำงานวัตต์อาวร์มิเตอร์
4.4 สรุปสาระสำคัญ
กำลังไฟฟ้าสามารถหาได้ 2 วิธีคือการใช้การวัดแรงดันและกระแสในวงจรนำมาคำนวณโดยใช้สูตรคำนวณกำลังไฟฟ้า อีกวิธีหนึ่งใช้วัตต์มิเตอร์ ต่อวัดกำลังไฟฟ้าในวงจรโดยตรง ช่วยลดความยุ่งยากในการวัดค่าลงได้ วัตต์มิเตอร์ที่สร้างขึ้นมาใช้งานใช้หลักการของอิเล็กโทรไดนาโมมิเตอร์ มีขั้วต่อวัด 4 ขั้ว ขั้ววัด 2 ขั้วแรก เป็นของขดลวดคงที่หรือขดลวดกระแส ขั้ววัดอีก 2 ขั้วที่เหลือเป็นของขดลวดเคลื่อนที่หรือขดลวดแรงดัน การบ่ายเบนของเข็มชี้ขึ้นอยู่กับภาระที่ต่อวงจรและแรงดันที่ป้อนให้วงจร
การต่อใช้งานวัตต์มิเตอร์ ต้องระวังในเรื่องการต่อวัด ไม่ให้กระแสผ่านเข้าขดลวดคงที่หรือขดลวดกระแสมากเกินกว่าพิกัดของวัตต์มิเตอร์ที่บอกไว้และต้องไม่ให้แรงดันป้อนเข้าขดลวดเคลื่อนที่หรือขดลวดแรงดันเกินกว่าพิกัดของวัตต์มิเตอร์ที่บอกไว้ ดังนั้นก่อนต่อวัตต์มิเตอร์เข้าวงจรจึงควรตรวจสอบทั้งแรงดันและกระแสของวงจรก่อนเสมอ เพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายของวัตต์มิเตอร์
วาร์มิเตอร์คือวัตต์มิเตอร์แบบหนึ่งใช้วัดค่ากำลังไฟฟ้าของวงจรไฟกระแสสลับ แต่แตกต่างจากวัตต์มิเตอร์ธรรมดาตรงที่กำลังไฟฟ้าที่วัดออกมาได้ เป็นกำลังไฟฟ้าที่เกิดจากวงจรที่มีส่วนประกอบของค่าความเหนี่ยวนำหรือค่าความจุ มีกระแสที่เกิดขึ้นใช้ในการหาค่ามีมุมต่างไป 90 กำลังไฟฟ้าที่ได้อยู่ในรูป EI sinq หน่วยที่วัดได้เป็น วาร์ (Var)
วัตต์อาวร์มิเตอร์เป็นวัตต์มิเตอร์อีกแบบหนึ่งวัดค่าออกมาเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้งานสำหรับวัดกำลังไฟฟ้ากระแสสลับตามบ้านเรือน ในโรงงานอุตสาหกรรมและที่อื่น ๆ