ห้องเรียนออนไลน์ครูปารณี
งานสัมมนา คือการประชุมที่มีผู้บรรยาย ผู้ชี้แนะ และผู้เข้าร่วมงานมาให้ความรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูล ทำกิจกรรมร่วมกัน มารวมตัวกันเพื่อหารือและเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ การสัมมนามักถูกจัดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนรู้แบบโต้ตอบ แบ่งปันความรู้ และให้โอกาสผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมในการถาม-ตอบ หารือกันในหัวข้อต่างๆ อาจมีรูปแบบและขนาดได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การประชุมขนาดเล็กแบบไม่เป็นทางการไปจนถึงการประชุมขนาดใหญ่ที่เป็นทางการ
ด้วยส่วนใหญ่แล้วการประชุม สัมมนาที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยมักถูกจัดในห้องประชุมที่มีเก้าอี้นั่งฟังบรรยายเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายคนมีภาพจำว่า การสัมมนาต้องจัดแบบนี้เท่านั้น แต่ในความจริงแล้วการประชุม สัมมนาไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดห้องประชุมหรือจำนวนคน แต่ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์มากกว่า ซึ่งโดยปกติแล้วรูปแบบการจัด ประชุมสัมมนา 16 รูป แบบ แต่บทความนี้ขออธิบายเพียง 12 รูปแบบที่ได้รับความนิยม โดยแต่ละแบบมีรายละเอียดดังนี้
เป็นการประชุม สัมมนาเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก โดยผู้ทรงคุณวุฒที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในหัวข้อที่สัมมนา จำนวน 3-8 คน ซึ่งผู้บรรยายแต่ละคนจะบรรยายในหัวข้อเดียวกัน มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ร่วมสัมมนาได้รับความรู้เชิงลึก
เป็นการประชุม สัมมนาสำหรับการอภิปรายเชิงวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับหัวข้อสัมมนาอย่างน้อย 2-6 คน ซึ่งแต่ละคนต้องเตรียมการบรรยายของตัวเองมา โดยไม่ซ้ำกัน โดยมีเวลาในการบรรยายครั้งละประมาณ 10-15 นาที มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับหัวข้อการบรรยายในเชิงลึก
เป็นการประชุม สัมมนาที่มีทั้งการให้ความรู้ด้วยการบรรยายและการลงมือปฏิบัติ โดยส่วนใหญ่ในช่วงเช้าของการสัมมนาจะเป็นส่วนของการบรรยาย ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการเข้า Work Shop ลงมือปฏิบัติจริง สำหรับจุดประสงค์ของการประชุมเชิงปฏิบัติการคือ ต้องการให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถนำความรู้ที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญไปลงมือปฏิบัติได้จริง
เป็นการประชุม สัมมนาที่ให้ผู้เข้าร่วมสามารถแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อสัมมนาได้อย่างมีอิสระ แต่เป็นการสัมมนากลุ่มเล็กที่มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 15 คน เพื่อให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นได้อย่างครบถ้วน ภายใต้การควบคุมของประธานการประชุม สำหรับการอภิปรายระดมสมองมีจุดประสงค์เพื่อระดมความคิดอย่างสร้างสรรค์จากบุคคลที่เกี่ยวข้องจนได้บทสรุปที่ชัดเจน
เป็นการประชุม สัมมนา แบบกลุ่มย่อยไม่เกิน 15 คน ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนจะนั่งเป็นวงกลม เริ่มต้นสัมมนาด้วยการตั้งสมาชิก 1 คน ทำหน้าที่ประธานการสัมมนา หลังจากประธานเสนอหัวข้อเรียบร้อย ผู้เข้าร่วมที่อยู่ทางขวามือจะเป็นผู้เริ่มการอภิปราย เมื่อจบคนถัดไปจะอภิปรายต่อเรียงกันเป็นวงกลม หากในระหว่างนั้นมีข้อโต้แย้ง ต้องรอให้ถึงรอบอภิปรายเวียนมาถึงตัวเองก่อน จึงสามารถแสดงความคิดเห็นได้ สำหรับการประชุมรูปแบบนี้มีจุดประสงค์ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง
เป็นการประชุม สัมมนา ที่มีจำนวนผู้เข้าสัมมนาจำนวนมาก แต่ถูกแบ่งกลุ่มย่อยกลุ่มละไม่เกิน 8 คน จึงนิยมจัดโต๊ะแบบวงกลมหรือสี่เหลี่ยม โดยสมาชิก 1 คนทำหน้าที่ประธานกลุ่ม และ 1 คนทำหน้าที่เลขานุการ เพื่อจดบันทึกความคิด ในการสัมมนาจะกำหนดหัวข้อสัมมนาและให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแนวความคิดของกลุ่ม ซึ่งตลอดการสัมมนามีผู้นำอภิปรายทำหน้าที่ควบคุมและสรุปผล เมื่อการสัมมนาเสร็จสิ้น สำหรับการอภิปรายแบบกลุ่มมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในเวลาที่จำกัด จึงเหมาะกับการประชุม สัมมนาภายในห้องเรียน
การประชุมทางวิชาการ เป็นการประชุม สัมมนาเพื่อให้กลุ่มนักวิชาการหรือนักวิจัยได้นำเสนอผลงานวิจัยของตัวเองออกสู่สาธารณะ ซึ่งนอกจากมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอผลงานแล้ว ยังเป็นเวทีให้นักวิชาการ นักวิจัยในสายอาชีพเดียวกัน ได้พบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการกันด้วย
เป็นการประชุม สัมมนาที่ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมสัมมนาไม่เกิน 8 คน โดยมี 1 คน เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย ทำหน้าที่ควบคุมการอภิปรายและเชื่อมโยงคำถามคำตอบให้เข้าใจง่ายขึ้น ครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นตัวแทนของผู้ที่ต้องการเสนอคำถาม และอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อที่อภิปราย ทำหน้าที่ตอบคำถามของผู้เสนอ สำหรับการอภิปรายแบบปุจฉาวิสัชนา มีจุดประสงค์ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเกิดความรู้ความเข้าใจและได้คำตอบในเรื่องที่สงสัยมากขึ้น
เป็นการประชุม สัมมนาที่ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็นผ่านบทบาทต่างๆ ในสถานการณ์ที่สมมุติขึ้น โดยอาจใช้วิธีเลือกผู้เข้าร่วมสัมมนาหรือใช้วิธีจับฉลากเลือกก็ได้ สำหรับการสัมมนาอภิปรายโดยการสวมบทบาทสมมุติมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมสัมมนาอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำให้บรรยากาศโดยรวมน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย
การประชุมแบบคอนเวนชัน เป็นการประชุม สัมมนาที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมจำนวนมากภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นการประชุมของบุคคลจากองค์กรหรืออาชีพเดียวกัน สำหรับการประชุมแบบคอนเวนชันมีจุดประสงค์เพื่อสรุปประชามติ วางแนวทางการปฏิบัติงานเกี่ยวกับองค์กร หรือเพื่อแถลงนโยบายขององค์กรให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบ
การประชุมแบบร่วมโครงการเป็นการประชุม สัมมนาระหว่างหน่วยงานรัฐ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรระหว่างประเทศที่ดำเนินกิจกรรมหรือโครงการร่วมกันตั้งแต่ 2 หน่วยงานขึ้นไป สำหรับการประชุมรูปแบบนี้จะไม่มีข้อบังคับใดชัดเจน การดำเนินการขึ้นอยู่หน่วยงานที่เป็นผู้รับรอง สำหรับการประชุมแบบร่วมโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอโครงการและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับผลงานที่ทำร่วมกัน
เป็นการประชุม สัมมนารวมกันของภาคเอกชนหรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีหน้ารับผิดชอบดำเนินการกิจการย่อย หรือโครงการย่อยที่แยกมาจากโครงการใหญ่ที่มีองค์กรอื่นเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว สำหรับการประชุมแบบรับช่วงมีจุดประสงค์ เพื่อรับทราบข้อมูลโครงการย่อยที่รับช่วงต่อ
เมื่อมีกำหนดการจัดสัมมนาสิ่งต่อมาที่ผู้จัดสัมมนาต้องให้ความสำคัญคือ การจัดผังโต๊ะในห้องประชุมให้เข้ากับรูปแบบการประชุม สัมมนา ที่จัดขึ้น ซึ่งการมีเทคนิคการจัดสัมนาที่ดี จะช่วยให้งานออกมาน่าสนใจซึ่ง โดยในการจัดโต๊ะประชุมควรคำนึงจากปัจจัยดังนี้
วัตถุประสงค์ของการจัดประชุม
รูปแบบการดำเนินการประชุม
จำนวนผู้ที่เข้าร่วมการประชุม สัมมนา
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Classroom เป็นการจัดโต๊ะประชุม สัมมนาที่พบได้บ่อยมากที่สุด เนื่องจากเหมาะสำหรับการประชุมใหญ่และรองรับผู้ร่วมสัมมนาได้จำนวนมาก สำหรับการจัดโต๊ะรูปแบบนี้จะจัดแบบเรียงเป็นหน้ากระดาน หันหน้าไปทางด้านเดียวกัน เหมาะกับประชุมแบบที่มีการสื่อสารทางเดียว แต่การจัดโต๊ะแบบนี้จำเป็นต้องใช้พื้นที่กว้าง เพื่อไม่ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาไม่รู้สึกอึดอัด
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Theater หรือการจัดโต๊ะประชุมคล้ายกับเก้าอี้โรงภาพยนตร์ เป็นการจัดรูปแบบห้องประชุมที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากสามารถรองรับผู้ร่วมสัมมนาได้เป็นจำนวนมากแล้ว ยังเสริมให้ผู้บรรยายมีความโดดเด่นมากขึ้น สำหรับการจัดโต๊ะประชุมแบบนี้เหมาะกับการประชุม สัมมนาที่มีผู้บรรยายและการแสดงภาพบนจอ Projector ระหว่างการสัมมนา ควรจัดในห้องที่มีพื้นที่กว้างเช่นเดียวกัน
การจัดโต๊ะประชุมแบบ U–Shape หรือการจัดโต๊ะให้เป็นรูปตัวยู เหมาะสำหรับการประชุม สัมมนาที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้ผู้บรรยายสามารถเดินไปยังจุดต่างๆ เพื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ เหมาะสำหรับการสัมมนาขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง ถ้ามีการเข้าร่วมจำนวนมาก อาจจัดโต๊ะเป็น 2 กลุ่มซ้อนกันได้ แต่ไม่ควรมากกว่านั้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Chevron Classroom เป็นการจัดโต๊ะคล้ายกับการจัดโต๊ะแบบ Classroom แต่จะเอียงไปด้านหน้า โต๊ะจึงไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าประชุม สัมมนาทุกคนสามารถสื่อสารกันได้อย่างสะดวกมากขึ้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Circle Of Chairs จะมีการจัดโต๊ะแบบกลม ที่มีขนาดใหญ่ ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะนั่งล้อมกันเป็นวงกลม โดยไม่มีการตั้งประธานในการสัมมนา ทำให้ผู้เข้าประชุม สัมมนาทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียมกัน
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Conference หรือ Boardroom เป็นการจัดโต๊ะสี่เหลี่ยมแบบแนวยาวตัวเดียว โดยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนานั่งล้อมโต๊ะประชุม เหมาะกับการประชุม สัมมนาขนาดเล็กและขนาดกลาง ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นและถกเถียงกันได้อย่างเต็มที่
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Clusters เป็นการนำโต๊ะกลมมาวางในห้องที่ต้องการจัดประชุม สัมมนา โดย 1 โต๊ะควรนั่งได้ประมาณ 6- 10 คน ซึ่งการจัดโต๊ะแบบนี้สามารถจัดเป็นกลุ่มย่อยๆ ได้ ทำให้รองรับผู้เข้าสัมมนาได้จำนวนมาก เหมาะกับการสัมมนาที่มีผู้เข้าร่วมสัมมนาที่มาด้วยกันเป็นกลุ่ม ซึ่งการจัดโต๊ะแบบนี้จะทำให้ระดมความคิดเห็นได้ง่ายขึ้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Cabaret จะคล้ายกับการจัดโต๊ะแบบ Clusters แต่ให้ลดจำนวนเก้าอี้ลงเหลือเพียง 4-5 ตัว และจัดวางแบบครึ่งวงกลม เหมาะกับการประชุม สัมมนาที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมมองเห็นกันในระหว่างการนำเสนอมากขึ้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Banquet เป็นการจัดโต๊ะเป็นกลุ่มๆ แต่ยังอยู่ชิดกัน เพื่อให้ผู้เข้าสัมมนารู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมกัน โดยใน 1 โต๊ะ ไม่ควรนั่งเกิน 25 คน เหมาะสำหรับการสัมมนาแบบระดมความคิด การสัมมนาบวก Workshop หรือการประชุม สัมมนาที่มีการรับประทานร่วมด้วย อีกทั้งยังเหมาะกับการจัดในห้องที่มีความยาวด้วย
เชื่อว่าถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่รู้จักการประชุมสัมมนากันอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ทั้งหน่วยงานของรัฐบาลและเอกชนนิยมจัดเพื่อสร้างความรู้ ระดมความคิด หรือตัดสินเรื่องสำคัญภายในองค์กร แต่ถึงอย่างนั้นบางคนอาจเข้าใจว่าการประชุม สัมมนามีเพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น คือ การนั่งฟังบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิในห้องประชุมใหญ่ๆ เท่านั้น ทั้งที่ในความจริงแล้วมีรูปแบบการจัดประชุมสัมมนา 16 รูปแบบ แต่ที่เห็นกันบ่อยๆ จะมีใช้ทั่วไปประมาณ 12 รูปแบบ
สำหรับความหมายของการประชุม สัมมนา คือ การประชุมของกลุ่มคน เพื่อถ่ายทอดความรู้ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ฝึกฝนทักษะ หาแนวทางการแก้ปัญหา และแนวทางการปฏิบัติในเรื่องเดียวกัน โดยผู้เข้าร่วมประชุม สัมมนาสามารถแสดงความคิดเห็น ซักถาม และขอคำแนะนำในหัวข้อนั้นๆ ได้อย่างเป็นอิสระ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้แนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม ตามจุดประสงค์ในการจัดประชุม สัมมนา ดังนั้นการประชุมสัมมนามีความสำคัญดังนี้
การประชุม สัมมนาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ตรงตามวัตถุประสงค์ และได้รับการยอมรับมากขึ้น เนื่องจากผ่านการระดมความคิดจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อการประชุม
การประชุม สัมมนาเป็นหนึ่งในกรรมวิธีระดมความคิดของคนภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้การสรุปแนวทางและแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น
การประชุม สัมมนา ช่วยให้การสื่อสารภายในองค์กรมีความรวดเร็วที่สุด และเป็นไปในทิศทางเดียวกันเพราะผ่านการตกผลึกความคิดจากทุกคนในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว
การประชุม สัมมนาเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความรู้จากบุคคลที่มีประสบการณ์ไปยังคนกลุ่มใหญ่ได้ง่ายและรวดเร็ว ด้วยชุดความรู้เดียวกัน ลดข้อผิดพลาดจากการสื่อสารภายในองค์กร
การประชุม สัมมนา เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ของบุคลากรในองค์กร เพราะได้พบปะ ซักถามข้อสงสัย สื่อสารแลกเปลี่ยนความคิด ถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในองค์กรมากขึ้น
ด้วยส่วนใหญ่แล้วการประชุม สัมมนาที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยมักถูกจัดในห้องประชุมที่มีเก้าอี้นั่งฟังบรรยายเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายคนมีภาพจำว่า การสัมมนาต้องจัดแบบนี้เท่านั้น แต่ในความจริงแล้วการประชุม สัมมนาไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดห้องประชุมหรือจำนวนคน แต่ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์มากกว่า ซึ่งโดยปกติแล้วรูปแบบการจัด ประชุมสัมมนา 16 รูป แบบ แต่บทความนี้ขออธิบายเพียง 12 รูปแบบที่ได้รับความนิยม โดยแต่ละแบบมีรายละเอียดดังนี้
เป็นการประชุม สัมมนาเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก โดยผู้ทรงคุณวุฒที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในหัวข้อที่สัมมนา จำนวน 3-8 คน ซึ่งผู้บรรยายแต่ละคนจะบรรยายในหัวข้อเดียวกัน มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ร่วมสัมมนาได้รับความรู้เชิงลึก
เป็นการประชุม สัมมนาสำหรับการอภิปรายเชิงวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับหัวข้อสัมมนาอย่างน้อย 2-6 คน ซึ่งแต่ละคนต้องเตรียมการบรรยายของตัวเองมา โดยไม่ซ้ำกัน โดยมีเวลาในการบรรยายครั้งละประมาณ 10-15 นาที มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับหัวข้อการบรรยายในเชิงลึก
เป็นการประชุม สัมมนาที่มีทั้งการให้ความรู้ด้วยการบรรยายและการลงมือปฏิบัติ โดยส่วนใหญ่ในช่วงเช้าของการสัมมนาจะเป็นส่วนของการบรรยาย ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการเข้า Work Shop ลงมือปฏิบัติจริง สำหรับจุดประสงค์ของการประชุมเชิงปฏิบัติการคือ ต้องการให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถนำความรู้ที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญไปลงมือปฏิบัติได้จริง
เป็นการประชุม สัมมนาที่ให้ผู้เข้าร่วมสามารถแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อสัมมนาได้อย่างมีอิสระ แต่เป็นการสัมมนากลุ่มเล็กที่มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 15 คน เพื่อให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นได้อย่างครบถ้วน ภายใต้การควบคุมของประธานการประชุม สำหรับการอภิปรายระดมสมองมีจุดประสงค์เพื่อระดมความคิดอย่างสร้างสรรค์จากบุคคลที่เกี่ยวข้องจนได้บทสรุปที่ชัดเจน
เป็นการประชุม สัมมนา แบบกลุ่มย่อยไม่เกิน 15 คน ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนจะนั่งเป็นวงกลม เริ่มต้นสัมมนาด้วยการตั้งสมาชิก 1 คน ทำหน้าที่ประธานการสัมมนา หลังจากประธานเสนอหัวข้อเรียบร้อย ผู้เข้าร่วมที่อยู่ทางขวามือจะเป็นผู้เริ่มการอภิปราย เมื่อจบคนถัดไปจะอภิปรายต่อเรียงกันเป็นวงกลม หากในระหว่างนั้นมีข้อโต้แย้ง ต้องรอให้ถึงรอบอภิปรายเวียนมาถึงตัวเองก่อน จึงสามารถแสดงความคิดเห็นได้ สำหรับการประชุมรูปแบบนี้มีจุดประสงค์ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง
เป็นการประชุม สัมมนา ที่มีจำนวนผู้เข้าสัมมนาจำนวนมาก แต่ถูกแบ่งกลุ่มย่อยกลุ่มละไม่เกิน 8 คน จึงนิยมจัดโต๊ะแบบวงกลมหรือสี่เหลี่ยม โดยสมาชิก 1 คนทำหน้าที่ประธานกลุ่ม และ 1 คนทำหน้าที่เลขานุการ เพื่อจดบันทึกความคิด ในการสัมมนาจะกำหนดหัวข้อสัมมนาและให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแนวความคิดของกลุ่ม ซึ่งตลอดการสัมมนามีผู้นำอภิปรายทำหน้าที่ควบคุมและสรุปผล เมื่อการสัมมนาเสร็จสิ้น สำหรับการอภิปรายแบบกลุ่มมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในเวลาที่จำกัด จึงเหมาะกับการประชุม สัมมนาภายในห้องเรียน
การประชุมทางวิชาการ เป็นการประชุม สัมมนาเพื่อให้กลุ่มนักวิชาการหรือนักวิจัยได้นำเสนอผลงานวิจัยของตัวเองออกสู่สาธารณะ ซึ่งนอกจากมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอผลงานแล้ว ยังเป็นเวทีให้นักวิชาการ นักวิจัยในสายอาชีพเดียวกัน ได้พบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการกันด้วย
เป็นการประชุม สัมมนาที่ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมสัมมนาไม่เกิน 8 คน โดยมี 1 คน เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย ทำหน้าที่ควบคุมการอภิปรายและเชื่อมโยงคำถามคำตอบให้เข้าใจง่ายขึ้น ครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นตัวแทนของผู้ที่ต้องการเสนอคำถาม และอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อที่อภิปราย ทำหน้าที่ตอบคำถามของผู้เสนอ สำหรับการอภิปรายแบบปุจฉาวิสัชนา มีจุดประสงค์ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเกิดความรู้ความเข้าใจและได้คำตอบในเรื่องที่สงสัยมากขึ้น
เป็นการประชุม สัมมนาที่ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็นผ่านบทบาทต่างๆ ในสถานการณ์ที่สมมุติขึ้น โดยอาจใช้วิธีเลือกผู้เข้าร่วมสัมมนาหรือใช้วิธีจับฉลากเลือกก็ได้ สำหรับการสัมมนาอภิปรายโดยการสวมบทบาทสมมุติมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมสัมมนาอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำให้บรรยากาศโดยรวมน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย
การประชุมแบบคอนเวนชัน เป็นการประชุม สัมมนาที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมจำนวนมากภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นการประชุมของบุคคลจากองค์กรหรืออาชีพเดียวกัน สำหรับการประชุมแบบคอนเวนชันมีจุดประสงค์เพื่อสรุปประชามติ วางแนวทางการปฏิบัติงานเกี่ยวกับองค์กร หรือเพื่อแถลงนโยบายขององค์กรให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบ
การประชุมแบบร่วมโครงการเป็นการประชุม สัมมนาระหว่างหน่วยงานรัฐ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรระหว่างประเทศที่ดำเนินกิจกรรมหรือโครงการร่วมกันตั้งแต่ 2 หน่วยงานขึ้นไป สำหรับการประชุมรูปแบบนี้จะไม่มีข้อบังคับใดชัดเจน การดำเนินการขึ้นอยู่หน่วยงานที่เป็นผู้รับรอง สำหรับการประชุมแบบร่วมโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอโครงการและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับผลงานที่ทำร่วมกัน
เป็นการประชุม สัมมนารวมกันของภาคเอกชนหรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีหน้ารับผิดชอบดำเนินการกิจการย่อย หรือโครงการย่อยที่แยกมาจากโครงการใหญ่ที่มีองค์กรอื่นเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว สำหรับการประชุมแบบรับช่วงมีจุดประสงค์ เพื่อรับทราบข้อมูลโครงการย่อยที่รับช่วงต่อ
เมื่อมีกำหนดการจัดสัมมนาสิ่งต่อมาที่ผู้จัดสัมมนาต้องให้ความสำคัญคือ การจัดผังโต๊ะในห้องประชุมให้เข้ากับรูปแบบการประชุม สัมมนา ที่จัดขึ้น ซึ่งการมีเทคนิคการจัดสัมนาที่ดี จะช่วยให้งานออกมาน่าสนใจซึ่ง โดยในการจัดโต๊ะประชุมควรคำนึงจากปัจจัยดังนี้
วัตถุประสงค์ของการจัดประชุม
รูปแบบการดำเนินการประชุม
จำนวนผู้ที่เข้าร่วมการประชุม สัมมนา
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Classroom เป็นการจัดโต๊ะประชุม สัมมนาที่พบได้บ่อยมากที่สุด เนื่องจากเหมาะสำหรับการประชุมใหญ่และรองรับผู้ร่วมสัมมนาได้จำนวนมาก สำหรับการจัดโต๊ะรูปแบบนี้จะจัดแบบเรียงเป็นหน้ากระดาน หันหน้าไปทางด้านเดียวกัน เหมาะกับประชุมแบบที่มีการสื่อสารทางเดียว แต่การจัดโต๊ะแบบนี้จำเป็นต้องใช้พื้นที่กว้าง เพื่อไม่ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาไม่รู้สึกอึดอัด
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Theater หรือการจัดโต๊ะประชุมคล้ายกับเก้าอี้โรงภาพยนตร์ เป็นการจัดรูปแบบห้องประชุมที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากสามารถรองรับผู้ร่วมสัมมนาได้เป็นจำนวนมากแล้ว ยังเสริมให้ผู้บรรยายมีความโดดเด่นมากขึ้น สำหรับการจัดโต๊ะประชุมแบบนี้เหมาะกับการประชุม สัมมนาที่มีผู้บรรยายและการแสดงภาพบนจอ Projector ระหว่างการสัมมนา ควรจัดในห้องที่มีพื้นที่กว้างเช่นเดียวกัน
การจัดโต๊ะประชุมแบบ U–Shape หรือการจัดโต๊ะให้เป็นรูปตัวยู เหมาะสำหรับการประชุม สัมมนาที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้ผู้บรรยายสามารถเดินไปยังจุดต่างๆ เพื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ เหมาะสำหรับการสัมมนาขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง ถ้ามีการเข้าร่วมจำนวนมาก อาจจัดโต๊ะเป็น 2 กลุ่มซ้อนกันได้ แต่ไม่ควรมากกว่านั้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Chevron Classroom เป็นการจัดโต๊ะคล้ายกับการจัดโต๊ะแบบ Classroom แต่จะเอียงไปด้านหน้า โต๊ะจึงไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าประชุม สัมมนาทุกคนสามารถสื่อสารกันได้อย่างสะดวกมากขึ้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Circle Of Chairs จะมีการจัดโต๊ะแบบกลม ที่มีขนาดใหญ่ ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะนั่งล้อมกันเป็นวงกลม โดยไม่มีการตั้งประธานในการสัมมนา ทำให้ผู้เข้าประชุม สัมมนาทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียมกัน
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Conference หรือ Boardroom เป็นการจัดโต๊ะสี่เหลี่ยมแบบแนวยาวตัวเดียว โดยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนานั่งล้อมโต๊ะประชุม เหมาะกับการประชุม สัมมนาขนาดเล็กและขนาดกลาง ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นและถกเถียงกันได้อย่างเต็มที่
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Clusters เป็นการนำโต๊ะกลมมาวางในห้องที่ต้องการจัดประชุม สัมมนา โดย 1 โต๊ะควรนั่งได้ประมาณ 6- 10 คน ซึ่งการจัดโต๊ะแบบนี้สามารถจัดเป็นกลุ่มย่อยๆ ได้ ทำให้รองรับผู้เข้าสัมมนาได้จำนวนมาก เหมาะกับการสัมมนาที่มีผู้เข้าร่วมสัมมนาที่มาด้วยกันเป็นกลุ่ม ซึ่งการจัดโต๊ะแบบนี้จะทำให้ระดมความคิดเห็นได้ง่ายขึ้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Cabaret จะคล้ายกับการจัดโต๊ะแบบ Clusters แต่ให้ลดจำนวนเก้าอี้ลงเหลือเพียง 4-5 ตัว และจัดวางแบบครึ่งวงกลม เหมาะกับการประชุม สัมมนาที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมมองเห็นกันในระหว่างการนำเสนอมากขึ้น
การจัดโต๊ะประชุมแบบ Banquet เป็นการจัดโต๊ะเป็นกลุ่มๆ แต่ยังอยู่ชิดกัน เพื่อให้ผู้เข้าสัมมนารู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมกัน โดยใน 1 โต๊ะ ไม่ควรนั่งเกิน 25 คน เหมาะสำหรับการสัมมนาแบบระดมความคิด การสัมมนาบวก Workshop หรือการประชุม สัมมนาที่มีการรับประทานร่วมด้วย อีกทั้งยังเหมาะกับการจัดในห้องที่มีความยาวด้วย
การจัดโต๊ะประชุมแบบBanquet Rounds จะคล้ายกับการจัดโต๊ะประชุมแบบ Banquet แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกใช้เป็นโต๊ะกลม โดยใน 1 โต๊ะ ไม่ควรนั่งประชุม สัมมนาเกิน 10 คน เหมาะสำหรับการสัมมนาแบบระดมความคิดและการสัมมนาบวก Workshop
ก่อนที่คุณจะเริ่มวางแผนจัดงานสัมมนา ให้เริ่มจากการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ตั้งคำถามอย่าง ความสำเร็จของงานสัมมนานี้คืออะไร? ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วม การสร้างโอกาสในการขาย หรือเน็ตเวิร์กกิ้ง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ จะเป็นไกด์ไลน์หรือแนวทางในกระบวนการวางแผนการสัมมนาทั้งหมด
การรู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการออกแบบเนื้อหาสัมมนา การตลาด และรูปแบบให้ตรงกับความต้องการและความชอบของพวกเขา สามารถเริ่มได้จากตรวจดูกลุ่มอายุ เพศ ความสนใจ และระดับความรู้เมื่อออกแบบสัมมนา ทั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหางานสัมมนาจะถูกใจผู้เข้าร่วมงาน
เลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้อง น่าสนใจ และมีคุณค่าต่อกลุ่มผู้ฟังของคุณ ความสำเร็จของการสัมมนาหลักๆ เลยจะขึ้นอยู่กับเนื้อหา ดังนั้นคุณควรทำให้แน่แน่ใจว่าจะพูดถึงประเด็นปัญหา แนวโน้ม หรือความท้าทายที่เกิดขึ้นอยู่ในอุตสาหกรรมหรือหัวข้อที่คุณนำมาพูดในปัจจุบัน ซึ่งหากใครยังคิดหัวข้อสัมมนาไม่ออก เราขอแนะนำบทความ 15 หัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ เพื่อเป็นไอเดียเบื้องต้นเอาไปใช้ต่อยอดคิดหัวข้อใหม่ๆได้
สร้างวาระการประชุมอย่างละเอียด ซึ่งวาระนี้จะเป็นตัวสรุปแต่ละส่วนของงานสัมมนา แบ่งแต่ละช่วงออกเป็นเซสชัน โดยแต่ละเซสชันมีหัวข้อ ผู้บรรยาย และช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง เช็คให้แน่ใจว่ามีแต่ละช่วงมีเวลาพอสำหรับการนำเสนอ การอธิบาย และช่วงถาม-ตอบ หรือกิจกรรมอื่นๆเพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วม
คุณภาพของวิทยากรของงานสัมมนามีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของการสัมมนา เลือกผู้บรรยายที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และน่าเชื่อถือ ที่สามารถถ่ายทอดข้อความ เนื้อหาของการสัมมนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิทยากรรับเชิญหรือผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้มากขึ้น
เพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมงาน การตลาดจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ให้เราเลือกใช้ช่องทางการตลาดที่หลากหลาย เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือกลุ่ม Line เพื่อสร้างกระแส ประชาสัมพันธ์ให้กับงานสัมมนาของคุณ เสนอส่วนลดหรือสิ่งจูงใจสำหรับผู้ที่จองล่วงหน้าเพื่อดึงดูดให้คนทำการลงทะเบียนล่วงหน้า
การเลือกสถานที่จัดงานสัมมนาที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ตัวสถานที่นั้นควรเข้าถึงได้ง่าย มีพื้นที่รองรับเพียงพอสำหรับผู้ฟัง และสามารถจัดเตรียมอุปกรณ์ภาพและเสียงพื้นฐานที่จำเป็น บรรยากาศของสถานที่จัดงานควรสอดคล้องกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการสัมมนา
เตรียมเอกสารการสัมมนา เช่น เอกสารแจก สมุดงาน ไฟล์ PDF หรือข้อมูลอื่นๆที่ผู้เข้าร่วมสามารถใช้ดูประกอบระหว่างและหลังการสัมมนา สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้และสร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วม
จัดการการลงทะเบียนให้มีประสิทธิภาพ สะดวกและง่าย ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง หรือแพลตฟอร์มการจัดงานสัมมนาโดยเฉพาะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้งานง่ายและมีตัวเลือกการชำระเงินให้เลือกเยอะ เช็คให้แน่ใจว่าการลงทะเบียนทั้งทางออนไลน์และในสถานที่จัดงานสามารถรองรับความต้องการของผู้เข้าร่วมได้
จัดเซสชันถามตอบ Brainstorm แบบกลุ่ม และกิจกรรมกลุ่ม ลองใช้โพลและแอปที่สามารถเก็บข้อมูลแบบ real-time ใช้โต้ตอบเพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมกันมากขึ้นอย่าง Kahoot
อำนวยความสะดวกในการสร้างคอนเน็กชั่นระหว่างผู้เข้าร่วม เช่นออกแบบหรือใข้ช่วงพักเป็นช่วงทำความรู้จัก จัดทำป้ายชื่อ หา moderator ช่วยผู้เข้าร่วมทำ ice-breaking และสร้างพื้นที่ให้ผู้เข้าร่วมได้เชื่อมต่อและแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขา
หลังจากเสร็จสิ้นการบรรยายหรืองานสัมมนา อย่าลืมรวบรวมคำติชมจากผู้เข้าร่วมเพื่อประเมินความสำเร็จของงานและเช็คประเด็นที่ต้องปรับปรุง ใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับปรุงงานสัมมนาในอนาคตของคุณและหาลูกค้าประจำ สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับผู้ชมของคุณ
หลังจากจบงานสัมมนา อย่าลืมติดตามผล และหมั่นคุยกับผู้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นผ่าน Newsletter กลุ่ม Line หรือเฟสบุ๊ก
ความเหมาะสม : การจัดห้องแบบนี้เหมาะสำหรับการสัมมนาและเวิร์คช็อปที่ให้ผู้ฟังโฟกัสกับผู้บรรยาย
วิธีจัด : โต๊ะเป็นแถวและมีเก้าอี้หันหน้าไปด้านหน้าทางเดียวกัน แต่ละโต๊ะมีกระดาษ สมุดสำหรับจด เขียน
ตำแหน่งผู้บรรยาย : ผู้นำเสนออยู่ด้านหน้า มักใช้โพเดียมหรือโปรเจ็กเตอร์เป็นสื่อการสอน
ความเหมาะสม : เหมาะสำหรับงานสัมมนาที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากหรือเน้นไปที่การสื่อสารทางเดียว
วิธีจัด : วางแถวเก้าอี้หันหน้าไปทางเวทีหรือจุดโฟกัสตรงกลาง
ตำแหน่งผู้บรรยาย :โดยทั่วไปผู้นำเสนอจะใช้เวที แท่น หรือโปรเจ็กเตอร์ในการนำเสนอ
ความเหมาะสม : เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานสัมมนาที่เน้นการอภิปรายและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วมเล็กน้อย
วิธีจัด : โต๊ะจัดเป็นรูปตัว U มีเก้าอี้ล้อมรอบด้านนอก
ตำแหน่งผู้บรรยาย :โดยทั่วไปแล้วปลายเปิดของรูปตัว U จะเป็นจุดที่ผู้นำเสนอหรือวิทยากรยืน
ความเหมาะสม : การผสมผสานระหว่างการจัดห้องแบบห้องเรียนและการจัดห้องรูปแบบตัว U ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเพ่งสมาธิไปในจุดเดียวกัน
วิธีจัด : แถวโต๊ะพร้อมเก้าอี้เป็นรูปตัววีหรือลายบั้ง
ตำแหน่งผู้บรรยาย : ผู้นำเสนอสามารถยืนที่ปลายเปิดของวีได้
ความเหมาะสม : ช่วยส่งเสริมการสนทนาแบบเปิดและการอภิปรายกลุ่ม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสัมมนาที่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง
วิธีจัด : เก้าอี้เรียงเป็นวงกลมหรือวงรี หันหน้าเข้าหากัน
ตำแหน่งผู้บรรยาย : นั่งอยู่ร่วมกับผู้เข้าร่วมงานสัมมนาทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะมากกว่าผู้บรรยาย
ความเหมาะสม : เหมาะกับการสัมมนาขนาดเล็กแบบใกล้ชิดและการอภิปรายแบบกลุ่ม
วิธีจัด : โต๊ะสี่เหลี่ยมหรือวงรีพร้อมเก้าอี้ มักมีจุดโฟกัสตรงกลาง
ตำแหน่งผู้บรรยาย : นั่งอยู่ร่วมกับผู้เข้าร่วมงานสัมมนาทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะมากกว่าผู้บรรยาย
ความเหมาะสม : เหมาะสำหรับการทำงานร่วมกันหรือการประชุมกลุ่มเล็กๆ
วิธีจัด : โต๊ะเล็กหรือกลุ่มโต๊ะพร้อมเก้าอี้
ตำแหน่งผู้บรรยาย : ผู้บรรยานทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะ สามารถเดินไปได้รอบๆงานสัมมนา
ความเหมาะสม : เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสัมมนาพร้อมมื้ออาหาร หรือเมื่อต้องการการนำเสนอและการรับประทานอาหารร่วมกัน
วิธีจัด : โต๊ะกลมพร้อมเก้าอี้ มักหันหน้าไปทางด้านหน้าเท่านั้น
ตำแหน่งผู้บรรยาย : ผู้นำเสนอสามารถยืนหรือนั่งในส่วนที่ว่างของโต๊ะ หันหน้าเข้ากับผู้ร่วมงาน
ความเหมาะสม : ใช้สำหรับการสัมมนาอย่างเป็นทางการพร้อมมื้ออาหาร
วิธีจัด : โต๊ะหรือโต๊ะกลมพร้อมเก้าอี้ทุกตัวหันหน้าไปทางด้านหน้า
ตำแหน่งผู้บรรยาย : โดยทั่วไปผู้นำเสนอจะยืนอยู่ที่บริเวณด้านหน้า ในส่วนที่กำหนดไว้ คล้ายกับเวทีหรือแท่น
การจัดงานสัมมนาให้ประสบความสำเร็จต้องมีการวางแผนที่รอบคอบ ใส่ใจในรายละเอียด และทำความเข้าใจถึงความต้องการของผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งหากเราได้กำหนดวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน เลือกหัวข้อที่เหมาะสม เลือกวิทยากรที่เชี่ยวชาญ น่าเชื่อถือ เพียงเท่านี้ก็สามารถเพิ่มโอกาสการจัดงานสัมมนาที่ประสบความสำเร็จ ที่สุดท้ายจะสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงานได้มากขึ้นเยอะแล้ว
ที่มา https://www.siammandarinahotel.com/th/blog/seminar-guide/