ระเบียบข้อบังคับ 

งานวินัยนักศึกษาและการทหาร

Office Of Student Discipline and Military Service

O S D M S

ระเบียบข้อบังคับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี

ว่าด้วยวินัยนักศึกษา - การอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์

 ของนักศึกษา

ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2536

_____________________________

โดยที่เห็นเป็นการสมควรมีข้อบังคับเกี่ยวกับวินัยนักศึกษา เพื่อมารยาทและความประพฤติอันดีงามความเป็นระเบียบเรียบร้อยของนักศึกษาและรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย อาศัยอานาจตามความมาตรา 16(2) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ.2533 สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในการประชุมครั้งที่ 1/2536 เมื่อวันที่ 24 เดือนเมษายน พ.ศ. 2536 จึงมีมติให้ตราข้อบังคับเกี่ยวกับวินัยนักศึกษาดังต่อไปนี้

หมวดที่ 1 ข้อความทั่วไป

ข้อที่ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2536 ”

ข้อที่ 2 ข้อบังคับนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากที่ประกาศเป็นต้นไป

ข้อที่ 3 ในข้อบังคับมหาวิทยาลัยนี้

“มหาวิทยาลัย”หมายถึง”มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี”

“อธิการบดี ” หมายถึง ”อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี“

“นักศึกษา” หมายถึง “นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี”

ข้อที่ 4 ให้อธิการบดีรักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ และให้มีอานาจออกประกาศ หรือคาสั่งเพื่อปฎิบัติการให้เป็นไปตามระเบียบนี้

หมวด 2 วินัยนักศึกษา

ข้อ 5 นักศึกษาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคาสั่งของมหาวิทยาลัยอย่างเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามถือว่าผู้นั้นกระทาผิดวินัย

ข้อ 6 นักศึกษาต้องรักษาไว้ซึ่งความเป็นระเบียบเรียบร้อย ชื่อเสียง และเกียรติคุณของมหาวิทยาลัย

ข้อ 7 นักศึกษาต้องประพฤติตนเป็นสุภาพชน ไม่ประพฤติในสิ่งที่อาจนามาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ตนเอง บิดา มารดา ผู้ปกครองหรือมหาวิทยาลัย

ข้อ 8 นักศึกษาต้องปฏิบัติตามหลักศีลธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย และต้องไม่นาขนบธรรมเนียมประเพณี หรือวิธีการที่ไม่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมไทยมาปฏิบัติ

ข้อ 9 นักศึกษาต้องไม่นาสุราหรือของมึนเมาใดๆ เข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัยและต้องไม่เสพสุราหรือของมึนเมาใดๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ตนเอง บิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือมหาวิทยาลัย

ข้อ 10 นักศึกษาต้องไม่เล่น หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสนับสนุนการพนันใดๆ เป็นอันขาด รวมทั้งไม่เข้าไปในบริเวณหรือสถานที่ที่มีการเล่นการพนันด้วย

ข้อ 11 นักศึกษาต้องเชื่อฟังคาสั่งหรือคาแนะนาตักเตือนของอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ

ข้อ 12 นักศึกษาต้องแสดงบัตรประจาตัวนักศึกษาได้ทันที เมื่ออาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยตรวจสอบ

ข้อ 13 ให้นักศึกษาอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยได้ในเวลาที่กาหนดเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยเป็นกรณีๆ ไป

ข้อ 14 นักศึกษาต้องไม่กระทาตนเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จนมีเรื่องเสียหายถึงผู้อื่นหรือมหาวิทยาลัย

ข้อ 15 นักศึกษาต้องไม่ลัก ยักยอก หรือทาลายทรัพย์สินของผู้อื่น หรือมหาวิทยาลัย

ข้อ 16 นักศึกษาต้องไม่กระทาการทุจริตใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่มหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง

ข้อ 17 นักศึกษาต้องไม่นาสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในมหาวิทยาลัย หรือมีสิ่งผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง

ข้อ 18 นักศึกษาต้องไม่มีหรือพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือสิ่งที่สามารถใช้เป็นอาวุธหรืออาจใช้ต่างอาวุธเมื่ออยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัย

ข้อ 19 นักศึกษาต้องไม่ก่อการหรือ มีส่วนเกี่ยวข้องในการทะเลาะวิวาทกับนักศึกษาด้วยกันหรือกับผู้อื่น หรือกระทาการใดๆ อันเป็นการก่อกวนความสงบเรียบร้อย

ข้อ 20 นักศึกษาผู้ใดเป็นผู้ก่อหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นคดีถึงเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจต้องรีบรายงานพฤติกรรมนั้นต่ออาจารย์ที่ปรึกษาหรือส่วนกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทันที

ข้อ 21 นักศึกษาผู้ใดต้องโทษโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่ความผิดลหุโทษหรือความผิดอันกระทาโดยประมาทถือว่าเป็นผู้กระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง

หมวด 3 คณะกรรมการวินัยนักศึกษา

ข้อ 22 ให้มีคณะกรรมการวินัยนักศึกษา ประกอบด้วย

รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เป็นประธานกรรมการ

หัวหน้าส่วนกิจการนักศึกษา เป็นกรรมการ

อาจารย์ที่ปรึกษาที่มหาวิทยาลัยแต่งตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน เป็นกรรมการ

หัวหน้างานวินัยนักศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ

เจ้าหน้าที่งานวินัยนักศึกษา เป็นผู้ช่วยเลขานุการในกรณีจำเป็น คณะกรรมการวินัยนักศึกษา 

อาจขอให้นายกองค์การบริหารหรือประธานสภานักศึกษาเข้าร่วมในการประชุมของคณะกรรมการวินัยนักศึกษาด้วยก็ได้

หมวด 4 โทษฐานผิดวินัย

ข้อ 23 นักศึกษาที่ปฏิบัติฝ่าฝืนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับประกาศหรือคาสั่งใดๆ ของมหาวิทยาลัยให้ถือว่ากระทาผิดวินัย และอาจได้รับโทษสถานใดสถานหนึ่งดังนี้

(1) ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร

(2) ภาคทัณฑ์

(3) ให้พักการศึกษา

(4) ให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา

(5) โทษอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยเห็นสมควร

หมวด 5 การสอบสวนและการลงโทษการกระทาผิดวินัย

ข้อ 24 ให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษาเป็นผู้มีอานาจสอบสวนการกระทาผิดวินัยของนักศึกษา เว้นแต่มหาวิทยาลัยจะเห็นสมควรเป็นอย่างอื่นเป็นกรณีๆ ไปและเมื่อได้ทาการสอบสวนการกระทาผิดวินัยดังกล่าวแล้วให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อมหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาลงโทษนักศึกษาผู้นั้นต่อไป

ข้อ 25 ในการสอบสวนเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการกระทาผิดวินัยและเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงการกระทาผิดวินัยนั้นให้คณะกรรมการวินัยนักศึกษา ซึ่งเป็นผู้สอบสวนการกระทาผิดวินัย มีอานาจดังต่อไปนี้

เรียกสอบสวนนักศึกษาที่กระทาผิดวินัย หรือผู้ที่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับการกระทาผิดวินัย

เรียกตรวจและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทาผิดวินัย

ข้อ 26 ผู้ที่มีอานาจสั่งลงโทษความผิดทางวินัยนักศึกษาได้แก่ อธิการบดี หรือผู้ซึ่งอธิการบดีมอบหมาย

ข้อ 27 เมื่อได้สั่งลงโทษนักศึกษาผู้ใดแล้ว ให้รีบแจ้งต่อบิดา มารดาหรือผู้ปกครองนักศึกษาผู้นั้น อาจารย์ที่ปรึกษาและมหาวิทยาลัยแล้วแต่กรณีเพื่อทราบ

ประกาศ ณ วันที่ 24 เดือน เมษายน พ.ศ. 2536

วิจิตร ศรีสอ้าน

(ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน)

นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ว่าด้วยวินัยนักศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔

.........................................................................

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.๒๕๓๖ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖(๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. ๒๕๓๓ ประกอบกับมติสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔  จึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑. ข้อบังคับนี้ เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔

ข้อ ๒. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากที่ประกาศ เป็นต้นไป

ข้อ ๓. ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๒ แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๓๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

ข้อ ๒๒ ให้มีคณะกรรมการวินัยนักศึกษา ประกอบด้วย

รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา            เป็น  ประธานกรรมการ

ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา          เป็น  รองประธานกรรมการ

หัวหน้าส่วนกิจการนักศึกษา                      เป็น  กรรมการ

ผู้แทนอาจารย์ทุกสำนักวิชา                           เป็น  กรรมการ

หัวหน้างานวินัยนักศึกษาและการทหาร        เป็น  กรรมการและเลขานุการ

เจ้าหน้าที่งานวินัยนักศึกษาและการทหาร    เป็น  ผู้ช่วยเลขานุการ

ในกรณีจำเป็น คณะกรรมการวินัยนักศึกษาอาจขอให้นายกองค์การบริหารหรือประธานสภานักศึกษาเข้าร่วมในการประชุมของคณะกรรมการวินัยนักศึกษาด้วยก็ได้

ประกาศ   ณ   วันที่ ๒๕ มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๔

 

 วิจิตร   ศรีสอ้าน


(ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร   ศรีสอ้าน)

นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี


ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เรื่อง แนวทางการพิจารณาโทษนักศึกษาผู้กระทาผิดวินัยนักศึกษา

………………………………………..

ตามที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้กาหนดข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2536 เพื่อธารงไว้ซึ่งมารยาทและความประพฤติอันดีงาม ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของนักศึกษา และเพื่อรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยไว้แล้วนั้น   อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. 2533 และตามความในข้อ 4 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2536 ให้กาหนดประกาศแนวทางการพิจารณาโทษนักศึกษาผู้กระทาผิดวินัยนักศึกษาไว้ ดังต่อไปนี้

หมวด 1 ข้อความทั่วไป

ข้อ 1. นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 100 คะแนน ตลอดสภาพการเป็นนักศึกษา

ข้อ 2. หากนักศึกษามีการกระทาผิดวินัยนักศึกษาและได้ถูกตัดคะแนนความประพฤติ ให้งานวินัยนักศึกษาและการทหารบันทึกข้อมูลการกระทาผิดวินัยนักศึกษาไว้ หากนักศึกษากระทาความผิดอีก แม้จะเป็นความผิดคนละหมวดกัน จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติมากขึ้น และอาจได้รับโทษอื่นๆ เพิ่ม ตามความในหมวด 12 ข้อ 32 แห่งประกาศนี้

ข้อ 3. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีมอบหมายให้งานวินัยนักศึกษาและการทหาร ส่วนกิจการนักศึกษา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดาเนินการดูแลคะแนนความประพฤติของนักศึกษาโดย

3.1 ตัดคะแนนความประพฤติผิดวินัยในเรื่องความผิดเล็กน้อย ซึ่งสามารถตัดได้ไม่เกิน 10 คะแนน และให้เสนอคณะกรรมการวินัยนักศึกษาเพื่อทราบ

3.2 หากตัดคะแนนความประพฤติได้ตั้งแต่ 11 คะแนน ขึ้นไป ให้เสนอคณะกรรมการวินัยนักศึกษาเพื่อพิจารณา

ข้อ 4. นักศึกษาที่ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 70 คะแนน มหาวิทยาลัยจะไม่ออกใบรับรองความประพฤติให้

ข้อ 5. นักศึกษาที่ถูกตัดคะแนนความประพฤติครบ 100 คะแนน ลงโทษให้นักศึกษาผู้นั้นพ้นสภาพจากการเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย

ข้อ 6. คะแนนที่ถูกตัดและได้นาไปใช้ในการลงโทษแล้ว จะไม่นามาใช้เพื่อการลงโทษครั้งต่อไป แต่จะเก็บสะสมไว้เพื่อเป็นเกณฑ์พิจารณาตามข้อ 5 เท่านั้น

หมวด 2 ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน

ข้อ 7. นักศึกษาผู้ใดเอาทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยหรือของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปเป็นของตนเองไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 – 99 คะแนน

ข้อ 8. นักศึกษาผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย ทาให้เสื่อมค่าหรือทาให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินและถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 –70 คะแนน

ข้อ 9. นักศึกษาผู้ใดเมื่อได้รับอนุญาตหรือได้รับสิทธิ์ให้ใช้ทรัพย์สินและหรือบริการใดๆ ของมหาวิทยาลัยแล้วยินยอมให้ผู้อื่นใช้ทรัพย์สิน หรือใช้สิทธิ์เกี่ยวกับบริการดังกล่าว โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากมหาวิทยาลัย หรือโดยทุจริตหรือโดยแสวงหาประโยชน์สาหรับตนเองหรือผู้อื่น จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 - 80 คะแนน

หมวด 3 ความผิดต่อร่างกาย

ข้อ 10. นักศึกษาผู้ใดทาร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 71 - 100 คะแนน

หมวด 4 ความผิดเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

ข้อ 11. นักศึกษาผู้ใดทะเลาะวิวาทกันเองในลักษณะเฉพาะบุคคล จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 – 70 คะแนน

ข้อ 12. นักศึกษาผู้ใดทะเลาะวิวาทกันเองในลักษณะกลุ่ม จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 31 –100 คะแนน

ข้อ 13. นักศึกษาผู้ใดก่อการทะเลาะวิวาทกับบุคคลภายนอก จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 31 - 100 คะแนน

ข้อ 14. นักศึกษาผู้ใดมีของผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง ใช้ หรือจาหน่ายจ่ายแจก จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 71 - 100 คะแนน

หมวด 5 ความผิดเกี่ยวกับการเล่นการพนัน

ข้อ 15. นักศึกษาผู้ใดเล่นการพนันใดๆ จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 - 80 คะแนน

ข้อ 16. นักศึกษาผู้ใดมิได้เล่นการพนันแต่สนับสนุนให้มีการเล่นการพนัน จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 - 70 คะแนน

ข้อ 17. นักศึกษาผู้ใดร่วมอยู่ในวงการพนันโดยมิได้เป็นผู้สนับสนุนหรือเล่นการพนันเอง จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 – 70 คะแนน

หมวด 6 ความผิดเกี่ยวกับการเสพสุราหรือของมึนเมา

ข้อ 18. นักศึกษาผู้ใดเสพสุราหรือของมึนเมาอย่างใดๆ ภายในมหาวิทยาลัยจะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 - 80 คะแนน

ข้อ 19. นักศึกษาผู้ใดเสพสุราหรือของมึนเมาอย่างใดๆ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเดือดร้อนราคาญจะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 71 - 80 คะแนน

ข้อ 20. นักศึกษาผู้ใดเสพสุราหรือของมึนเมาอย่างใดๆ จนเป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของตนเองของนักศึกษาอื่น และหรือของมหาวิทยาลัยโดยรวม จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 71 – 99 คะแนน

หมวด 7 ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ

ข้อ 21. นักศึกษาผู้ใดมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง หรือมีไว้เสพหรือมีไว้จาหน่ายจ่ายแจก จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 71 - 100 คะแนน

หมวด 8 ความผิดเกี่ยวกับวินัยจราจร

ข้อ 22. นักศึกษาผู้ใดกระทาความผิดเกี่ยวเนื่องกับพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยความผิดนั้นไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุใดๆ จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 1--10 คะแนน

ข้อ 23. นักศึกษาผู้ใดกระทาความผิดเกี่ยวเนื่องกับพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยความผิดนั้นก่อให้เกิดอุบัติเหตุ จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 -- 30 คะแนน

ข้อ 24. นักศึกษาผู้ใดกระทาความผิดเกี่ยวเนื่องกับพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยความผิดนั้นก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตของผู้อื่น จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 31 --70 คะแนน

หมวด 9 ความผิดเกี่ยวกับความประพฤติ ศีลธรรม และวัฒนธรรมอันดีงาม

ข้อ 25. นักศึกษาผู้ใดไม่เชื่อฟังหรือไม่ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับหรือคาสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของอาจารย์ หรือของมหาวิทยาลัย หรือของบุคลากรของมหาวิทยาลัย หรือของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตลอดจนประพฤติตนไม่เหมาะสม ก้าวร้าว ไม่เป็นสุภาพชนจะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 10 - 70 คะแนน

ข้อ 26. นักศึกษาผู้ใดให้ถ้อยคาหรือข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้ง เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 10 - 70 คะแนน

ข้อ 27. นักศึกษาผู้ใดปลอมแปลงเอกสารและหรือปลอมแปลงลายมือชื่อ จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 30 - 99 คะแนน

ข้อ 28. นักศึกษาผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นไปในทางเสื่อมเสียต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของส่วนรวม จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 71 - 99 คะแนน

- หากการกระทาตามวรรคแรกมีความรุนแรงถึงขั้นทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่มหาวิทยาลัย จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 91 - 100 คะแนน

ข้อ 29. นักศึกษาผู้ใดละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยการข่มขู่ให้ผู้อื่นปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเองต้องการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 11 - 99 คะแนน

หมวด 10 ความผิดเกี่ยวกับการเปิดเผยความลับ

ข้อ 30. นักศึกษาผู้ใดกระทาด้วยประการใดๆ โดยมิชอบและหรือโดยทุจริตเพื่อให้ตนเองหรือผู้หนึ่งผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งเอกสารหรือความลับของผู้อื่นหรือของมหาวิทยาลัย จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นและหรือมหาวิทยาลัยเสียหาย จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติระหว่าง 71 - 100 คะแนน

หมวด 11 ความผิดเกี่ยวกับโทษจาคุก

ข้อ 31. นักศึกษาผู้ใดกระทาความผิดอาญาจนมีคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกโดยไม่รอลงอาญา จะถูกพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติ 100 คะแนน เว้นแต่เป็นความผิดโดยประมาท ซึ่งให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาแล้วแต่กรณี

หมวด 12 การเพิ่มโทษ

ข้อ 32. นักศึกษาผู้ใดกระทาความผิดมาแล้วและได้กระทาความผิดอีก แม้จะเป็นความผิดคนละหมวดกันให้คณะกรรมการพิจารณาตัดคะแนนความประพฤติเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ให้มีผลใช้บังคับสาหรับนักศึกษาแรกเข้าปีการศึกษา 2554 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

                                                                                                                                                                                                      ประสาท สืบค้า

(ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า)

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

******************************************************

ตารางเปรียบเทียบการตัดคะแนนความประพฤติกับบทลงโทษนักศึกษา

คะแนน (เต็ม 100 คะแนน)    บทการลงโทษนักศึกษา

10 คะแนน            ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร

11-30 คะแนน ภาคทัณฑ์ 1 ภาคการศึกษา

31-50 คะแนน ภาคทัณฑ์ 2 ภาคการศึกษา

51-70 คะแนน ภาคทัณฑ์ 3 ภาคการศึกษา

71-80 คะแนน พักการศึกษา 1 ภาคการศึกษา

81-90 คะแนน พักการศึกษา 2 ภาคการศึกษา

91-99 คะแนน พักการศึกษา 3 ภาคการศึกษา

100 คะแนน พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา

ระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ว่าด้วย  การอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ของนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๓

...........................................

       เพื่อให้การอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสมและยุติธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ (๒) และ (๙) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. ๒๕๓๓ สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๔๓ เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๓ จึงออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้

       ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วย การอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ของนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๓”

       ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากประกาศเป็นต้นไป

       ข้อ ๓ ในระเบียบนี้

                “มหาวิทยาลัย”       หมายถึง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

                “อธิการบดี”           หมายถึง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

                “คณะกรรมการ”      หมายถึง กรรมการอุทธรณ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

                “นักศึกษา”       หมายถึง  นักศึกษาของมหาวิทยาละยเทคโนโลยีสุรนารี และ ให้หมายความรวมถึงนักศึกษาตามโครงการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ที่มาศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

      ข้อ ๔ นักศึกษาผู้ใดถูกมหาวิทยาลัยสั่งลงโทษให้อุทธรณ์ได้ตามระเบียบนี้

                การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษให้ผู้อุทธรณ์ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของตนในหนังสือนั้นด้วยและให้อุทธรณ์ได้สำหรับตนเองเท่านั้นจะอุทธรณ์แทนคนอื่นหรือมอบหมายให้คนอื่นอุทธรณ์แทนตนไม่ได้

       ข้อ ๕ เพื่อประโยชน์ในการอุทธรณ์ ผู้ประสงค์จะอุทธรณ์อาจขอตรวจหรือคัดรายงานการสอบสวนได้ ส่วนบันทึกถ้อยคำพยานบุคคลหรือเอกสารอื่น ให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการวินัยนักศึกษา หรือคณะกรรมการพิจารณาโทษนักศึกษาที่กระทำผิดระเบียบการสอบที่จะอนุญาตให้ตรวจหรือคัดโดยให้คำนึงเหตุผลและความจำเป็นเป็นกรณีๆ ไป

       ข้อ ๖ ให้มีคณะกรรมการอุทธรณ์คณะหนึ่งจำนวนไม่น้อยกว่า ๕ คน และไม่เกิน ๗ คน ซึ่งอธิการบดีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของคณะกรรมการกิจการนักศึกษา

       คณะกรรมการตามวรรคแรกต้องไม่เป็นคณะกรรมการวินัยนักศึกษา หรือคณะกรรมการพิจารณาโทษนักศึกษาที่กระทำผิดระเบียบการสอบ

       ข้อ ๗ ให้คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่ง ๒ ปี แต่อาจได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่อีกได้

                นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

(๑)   ตาย

(๒)   ลาออก

(๓)   ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการ

ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และได้มีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทนแล้ว ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน

                ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแต่ยังมิได้แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งกรรมการอื่นขึ้นใหม่แล้ว

                ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการเพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการซึ่งแต่ตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่งให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว

       ข้อ ๘ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑)   วินิจฉัยสั่งการเรื่องที่อุทธรณ์

(๒)   ออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสารหรือวัตถุใด ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็น

(๓)   แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการก็ได้

(๔)   หน้าที่อื่น ๆ ตามที่มหาวิทยาลัยมอบหมาย

ข้อ ๙ ในการประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม

       ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม

       การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมากของกรรมการที่เข้าประชุม กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน หากคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

       กรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียเป็นการส่วนตัวในเรื่องใดกรรมการผู้นั้นไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น

ข้อ ๑๐  การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในเจ็ดวันทำการนับแต่ทราบคำสั่งลงโทษ

ข้อ ๑๑  ในการอุทธรณ์ให้ยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการโดยตรงและให้คณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยและสั่งการให้เสร็จภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสืออุทธรณ์และสำนวนสอบสวนหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่มีเหตุผลความจำเป็นก็อาจขยายเวลาได้แต่ไม่เกินยี่สิบวันนับแต่วันครบกำหนด ทั้งนี้จะต้องบันทึกเหตุแห่งการนั้นไว้

ข้อ ๑๒  ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่าการสั่งลงโทษสมควรแก่ความผิดหรือเห็นว่าการสั่งลงโทษนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมหรือไม่เป็นธรรม ก็ให้เสนอขอความเห็นชอบจากอธิการบดี เพื่อสั่งยกอุทธรณ์หรือเพิ่มโทษ หรือลดโทษ หรือยกโทษแล้วแต่กรณี

       คำวินิจฉัยตามวรรคแรกให้ถือเป็นยุติ และให้คณะกรรมการแจ้งคำวินิจฉัยให้ผู้อุทธรณ์ทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว

ข้อ ๑๓  การนับเวลาตามระเบียบนี้ หากเวลาสิ้นสุดตรงกับวันหยุดทำการของมหาวิทยาลัย ให้นับวันเริ่มทำการถัดวันหยุดเป็นวันสุดท้ายแห่งเวลา

ข้อ ๑๔  ให้อธิการบดีรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด คำวินิจฉัยของอธิการบดีให้เป็นที่สุด

 

                          ประกาศ ณ วันที่  ๑๖  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๔๓

 

                                                       คนึง  ฦๅไชย

                                             (ศาสตราจารย์ คนึง  ฦๅไชย)

                                   นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโลยีสุรนารี


ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เรื่อง  การแต่งกายของนักศึกษา

ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เรื่อง  การแต่งกายของนักศึกษา

...................................

โดยที่มหาวิทยาลัยไม่มีเครื่องแบบเป็นการเฉพาะ  เนื่องจากเป็นการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่ได้กำหนดเครื่องแบบงานพิธีไว้ในโอกาสสำคัญ ส่วนเครื่องแต่งกายที่ใช้สำหรับการเข้าพบอาจารย์  ฟังบรรยาย  การเรียนปกติ การสอบ การใช้บริการห้องสมุด หรือการติดต่อขอใช้บริการใดๆ จากมหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยมีนโยบายให้นักศึกษาเป็นผู้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านความรู้ ความสามารถ เป็นผู้พร้อมทั้งภูมิรู้ ภูมิปัญญา ภูมิธรรม และมีความภูมิฐาน เป็นนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สมบูรณ์ ดังนั้น ขอให้นักศึกษาแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมแก่กาละเทศะ โดยยึดถือข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. 2544 กล่าวคือ

เครื่องแต่งกายปกติสำหรับนักศึกษาชาย ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

1.   เสื้อเชิ้ตสีขาวหรือสีอ่อน ไม่มีลวดลาย ตัวเสื้อความยาวเพียงพอสำหรับให้กางเกงทับได้โดยเรียบร้อย

2.   กางเกงขายาวทรงสุภาพ สีดำ น้ำตาลเข้ม เทาเข้ม หรือกรมท่า

3.   เข็มขัดแบบสุภาพ สีเข้ม

4.   ถุงเท้าสีเดียวกับรองเท้า

5.   รองเท้าทรงสุภาพ หุ้มส้น สีดำหรือน้ำตาล

เครื่องแต่งกายปกติสำหรับนักศึกษาหญิง ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

1.   เสื้อสีขาว หรือสีอ่อน แบบสุภาพ เนื้อผ้าหนาพอควร ไม่มีลวดลาย ตัวเสื้อมีความยาวเพียงพอสำหรับให้กระโปรงทับได้โดยเรียบร้อย

2.   กระโปรงทรงสุภาพ ไม่ผ่าที่ชายกระโปรง สีดำ น้ำตาลเข้ม เทาเข้ม หรือกรมท่า เนื้อผ้าหนาพอควร ไม่มีลวดลาย ความยาวเสมอเข่า หรือต่ำกว่าเข่า

3.   รองเท้าหนังทรงสุภาพ หุ้มส้น สีสุภาพ

การแต่งกายที่ถือว่าไม่สุภาพและไม่เหมาะสมที่นักศึกษาจะแต่งกายเพื่อการติดต่อธุรการหรือบริการใดๆ ในอาคารที่ทำการของมหาวิทยาลัย หมายถึงการแต่งกายในลักษณะต่อไปนี้

1.   สวมเสื้อยืดไม่มีคอปก

2.   สวมกางเกงขาสั้นที่ไม่ใช่ชุดเรียนในรายวิชากีฬาและนันทนาการ

3.   สวมกางเกงขายาวแต่ขาดวิ่น

4.   ปล่อยชายเสื้อออกนอกกระโปรงหรือกางเกง

5.   สวมรองเท้าแตะใดๆ

อนึ่ง  นักศึกษาต้องดูแลเครื่องแต่งกายให้สะอาดและดูดี ตลอดจนประพฤติตนเป็นสุภาพชนตามปทัสถานของสังคมไทย ต่อบุคคลทั่วไปเป็นนิจสิน

 

ประกาศ  ณ  วันที่  3  เดือนพฤษภาคม  พ.ศ. 2545

ทวี  เลิศปัญญาวิทย์

(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทวี  เลิศปัญญาวิทย์)

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี


ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

 ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. ๒๕๔๕

......................................

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ (๒) และมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. ๒๕๓๓ ประกอบกับมติสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในการประชุมครั้งที่ ๓ /๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๑๑ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ จึงออกข้อบังคับว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า   "ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. ๒๕๔๕"

ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยเครื่องแต่งกาย

นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. ๒๕๔๔

บรรดาข้อบังคับ  ระเบียบ  ข้อกำหนด  ประกาศ  มติ  หรือคำสั่งอื่นใดในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในข้อบังคับนี้  หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ให้ใช้ข้อบังคับนี้แทน

ข้อ  ๔ ในข้อบังคับนี้

       "มหาวิทยาลัย"    หมายถึง      มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

       "อธิการบดี"   หมายถึง      อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

         "นักศึกษา"    หมายถึง       นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

      ข้อ ๕ ให้เครื่องแต่งกายของนักศึกษา มี ๓ ประเภทสำหรับใช้แต่งในโอกาสต่างๆ ดังนี้

              (๑) เครื่องแต่งกายปกติ ใช้สำหรับแต่งในเวลาเรียนปกติ เวลาสอบ และติดต่อหรือใช้บริการจากหน่วยงานต่างๆ  ของมหาวิทยาลัย

              (๒) เครื่องแต่งกายในงานพิธี ใช้สำหรับแต่งกายในงานราชพิธี รัฐพิธีหรือตามคำสั่งของมหาวิทยาลัย

           (๓) เครื่องแต่งกายในการปฏิบัติงาน ใช้สำหรับแต่งในห้องทดลองหรือโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัย

ข้อ ๖ เครื่องแต่งกายปกติสำหรับนักศึกษาชาย  ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

      (๑) เสื้อเชิ้ตสีขาว หรือสีอ่อน ไม่มีลวดลาย   ตัวเสื้อมีความยาวเพียงพอ  สำหรับให้กางเกงทับได้โดยเรียบร้อย

            (๒) กางเกงขายาวทรงสุภาพ สีดำ น้ำตาลเข้ม  เทาเข้ม  หรือกรมท่า

              (๓) เข็มขัดแบบสุภาพ สีเข้ม

              (๔) ถุงเท้าสีเดียวกับรองเท้า

              (๕) รองเท้าทรงสุภาพ หุ้มส้น สีดำ หรือน้ำตาล

ข้อ ๗  เครื่องแต่งกายปกติสำหรับนักศึกษาหญิง ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

      (๑) เสื้อสีขาว หรือสีอ่อนแบบสุภาพ เนื้อผ้าหนาพอควรไม่มีลวดลาย ตัวเสื้อมีความยาวเพียงพอ  สำหรับให้กระโปรงทับได้โดยเรียบร้อย

              (๒) กระโปรงทรงสุภาพ ไม่ผ่าที่ชายกระโปรง สีดำ  น้ำตาลเข้ม  เทาเข้มหรือกรมท่า เนื้อผ้าหนาพอสมควร ไม่มีลวดลาย ความยาวเสมอเข่าหรือต่ำกว่าเข่า

          (๓) รองเท้าหนังทรงสุภาพ หุ้มส้น สีสุภาพ

ข้อ ๘  มหาวิทยาลัยอนุญาตให้นักศึกษาแต่งกายให้เป็นไปตามระเบียบการแต่งกายของกรมการรักษาดินแดนในวันที่มีการเรียนวิชาทหาร

ข้อ ๙  มหาวิทยาลัยอนุญาตให้นักศึกษาแต่งกายด้วยชุดปฏิบัติงานในโรงฝึกงาน ชุดปฏิบัติงานในไร่ สวน ฟาร์ม ชุดปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการสาธารณสุขศาสตร์ และชุดปฏิบัติการนักศึกษานิเทศศาสตร์ ตามที่ระบุไว้ในข้อ ๑๓  ข้อ ๑๔  ข้อ ๑๕ และข้อ ๑๖ ในเวลาเรียนปกติ และในการใช้บริการจากหน่วยงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัยในวันที่มีการปฏิบัติงานโรงฝึกงาน ปฏิบัติงานในไร่ สวน ฟาร์ม ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการสาธารณสุขศาสตร์ และปฏิบัติงานของนักศึกษานิเทศศาสตร์

ข้อ ๑๐  เครื่องแต่งกายในงานพิธีสำหรับนักศึกษาชาย ให้มีลักษณะดังนี้

              (๑)  เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวไม่มีลวดลาย ปกเสื้อปลายแหลม  ผ่าอกตรงโดยตลอด ติดกระดุมสีขาว มีกระเป๋าที่ด้านซ้าย  ตัวเสื้อยาวพอเพื่อให้กางเกงทับได้โดยเรียบร้อย

              (๒)  เนคไทของมหาวิทยาลัย  พื้นสีเทา สีเดียวกับกางเกง  ปักตรามหาวิทยาลัย

              (๓)  กางเกงขายาว ทรงสุภาพ สีเทาเข้ม

              (๔)  เข็มขัดหนังสีดำ ความกว้าง ๔ เซนติเมตร หัวเข็มขัดมีเครื่องหมายของมหาวิทยาลัย

              (๕)  ถุงเท้าสีดำ

              (๖)  รองเท้าหนังทรงสุภาพหุ้มส้น สีดำ

ข้อ ๑๑  เครื่องแต่งกายในงานพิธีสำหรับนักศึกษาหญิง ให้มีลักษณะดังต่อไปนี้

              (๑)  เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น ไม่มีลวดลาย ปกเสื้อปลายแหลม  ผ่าอกตรงโดยตลอด ติดกระดุมโลหะสัญญาลักษณ์ของมหาวิทยาลัย  เนื้อผ้าหนาพอสมควร  ตัวเสื้อมีความยาวเพียงพอสำหรับให้กระโปรงทับได้โดยเรียบร้อย

              (๒)  เข็มกลัดเสื้อเครื่องหมายมหาวิทยาลัย  กลัดเหนือระดับอกด้านซ้าย

              (๓)  กระโปรงทรงสุภาพ  ไม่ผ่าที่ชายกระโปรง สีเทาเข้ม เป็นผ้าฝ้ายเนี้อหนาพอควร  ไม่มีลวดลาย ความยาวปิดเข่า

              (๔)  เข็มขัดหนังสีดำ ขนาดกว้าง ๔ เซนติเมตร  หัวเข็มขัดมีเครื่องหมายของมหาวิทยาลัย

              (๕)  รองเท้าหนังทรงสุภาพหุ้มส้น สีดำ  ความสูงไม่เกิน ๓ นิ้ว

ข้อ ๑๒  ชุดปฎิบัติงานในห้องปฏิบัติการเคมีและชีววิทยา  นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงให้ถือปฏิบัติเหมือนกัน ดังนี้

              (๑) ให้นักศึกษาสวมชุดปฏิบัติงานทับเครื่องแต่งกายปกติตามที่ระบุไว้ใน    ข้อ ๖ ข้อ ๗ ข้อ ๘  ข้อ ๑๓  ข้อ ๑๔ ข้อ ๑๕ และข้อ ๑๖

              (๒) ชุดปฏิบัติงานเป็นเสื้อสีขาว  ปกฮาวาย แขนสั้น  ไม่มีลวดลาย  ผ่าอกตรงโดยตลอด เนื้อผ้าหนาพอควร ติดกระดุมพลาสติกสีขาว ความยาวของเสื้อคลุมเข่า

              ด้านหน้า  ที่อกเสื้อด้านบนซ้าย  และที่ด้านล่างข้างซ้ายและขวา  มีกระเป๋าไม่มีฝาปิดแห่งละ ๑ ใบ   ปักชื่อและนามสกุลเป็นภาษาไทยด้วยไหมสีเขียวบนอกเสื้อด้านขวาในตำแหน่งที่สวยงาม

              ด้านหลัง   ตัวเสื้อมีจีบหลังพับข้างละ ๓ จีบ  ที่เข็มขัดหลังชายเสื้อด้านล่างผ่าทับกันยาวพอประมาณ

              ด้านข้าง    ตะเข็บด้านข้างทั้ง ๒ ข้าง ผ่าตามแนวบริเวณกระเป๋ากางเกงหรือกระโปรงความยาวพอประมาณ

ข้อ ๑๓  ชุดปฏิบัติงานในโรงฝึกงานวิศวกรรมพื้นฐาน นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงให้ถือปฏิบัติเหมือนกัน ดังนี้

         (๑) เสื้อเชิ้ต ปกฮาวาย สีกรมท่า แขนสั้น ไม่มีลวดลาย ผ่าอกตรงโดยตลอด เนื้อผ้าหนาพอควร ติดกระดุมสีเดียวกับเสื้อ แขนเสื้อด้านซ้ายมีที่เสียบปากกา

              ด้านหน้า ข้างซ้ายส่วนบนมีกระเป๋าไม่มีฝาปิด ๑ ใบ  บนกระเป๋าปักตรามหาวิทยาลัยตามรูปแบบที่กำหนด ด้านข้างขวาส่วนบนปักชื่อและนามสกุลของนักศึกษาพร้อมทั้งสาขาวิชาเป็นภาษาไทยด้วยไหมสีขาวด้านล่างข้างซ้ายและขวา  มีกระเป๋าจีบข้างละ ๑ ใบ

              ด้านหลัง มีจีบหลังพับตลอดข้างละ ๑ จีบ มีเข็มขัดหลังพร้อมด้วยกระดุม ๒ เม็ด สีเดียวกับเสื้อ

              (๒) กางเกงขายาวทรงสุภาพ สีกรมท่า

              (๓) รองเท้าหนัง ผูกเชือก หัวแข็ง สีดำ

ข้อ ๑๔  ชุดปฏิบัติงานในไร่ สวน และฟาร์ม นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงให้ถือปฏิบัติเหมือนกัน ดังนี้

              (๑)  เสื้อเชิ้ต ผ้าฝ้าย แขนยาว สีฟ้าอ่อน  หรือสีสุภาพ ผ่าอกตรงโดยตลอด ไม่มีลวดลาย ด้านหน้าข้างซ้ายส่วนบนมีกระเป๋า ข้างขวาส่วนบนปักชื่อและนามสกุลของนักศึกษา เป็นภาษาไทยด้วยใหมสีเขียว

              (๒) กางเกงทรงสุภาพ สีเข้ม ดำ กรมท่า นำ้เงิน นำ้ตาล หรือเทาเข้ม

              (๓) รองเท้าผ้าใบ หรือร้องเท้ายาง หรือร้องเท้าบู๊ท ทรงและสีสุภาพ สำหรับสวมใส่ในบริเวณดินเปียกหรือในคอกสัตว์ ถ้าสวมถุงเท้าด้วย ให้ใช้ถุงเท้าสีสุภาพ

ข้อ ๑๕  ชุดปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการสาธารณสุขศาสตร์ นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงให้ถือปฏิบัติเหมือนกัน ดังนี้

              (๑)  เสื้อเชิ้ต ปกฮาวาย สีแดงเลือดหมู แขนสั้น  ไม่มีลวดลาย  ผ่าอกตรงโดยตลอด เนื้อผ้าหนาพอควร ติดกระดุมสีเดียวกับเสื้อ แขนเสื้อด้านซ้ายมีที่เสียบปากกา ด้านหน้าข้างซ้ายส่วนบนมีกระเป๋าไม่มีฝาปิด ๑ ใบ บนกระเป๋าปักตรามหาวิทยาลัยตามรูปแบบที่กำหนด ด้านข้างขวาส่วนบนปักชื่อและนามสกุลของนักศึกษาพร้อมทั้งสาขาวิชาเป็นภาษาไทยด้วยไหมสีขาวด้านล่างข้างซ้ายและขวา มีกระเป๋าจีบข้างละ ๑ ใบ

              ด้านหลัง มีจีบหลังพับตลอดข้างละ ๑ จีบ มีเข็มขัดหลังพร้อมด้วยกระดุม ๒ เม็ด สีเดียวกับเสื้อ

              (๒) กางเกงขายาวทรงสุภาพ สีเข้ม ดำ กรมท่า น้ำตาล หรือเทาเข้ม

              (๓) รองเท้าทรงสุภาพ หุ้มส้น สีสุภาพ

ข้อ ๑๖  ชุดปฏิบัติงานนักศึกษานิเทศศาสตร์  นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงให้ถือปฏิบัติเหมือนกัน ดังนี้

      (๑) เสื้อเชิ้ต ปกฮาวาย สีเขียวแขนสั้น ไม่มีลวดลาย  ผ่าอกตรงโดยตลอด เนื้อผ้าหนาพอควร ติดกระดุมสีเดียวกับเสื้อ แขนเสื้อด้านซ้ายมีที่เสียบปากกา ด้านหน้าข้างซ้ายส่วนบนมีกระเป๋าไม่มีฝาปิด ๑ ใบ บนกระเป๋าปักตรามหาวิทยาลัยตามรูปแบบที่กำหนด ด้านข้างขวาส่วนบนปักชื่อและนามสกุลของนักศึกษา     พร้อมทั้งสาขาวิชาเป็นภาษาไทยด้วยไหมสีเหลือง

                (๒) กางเกงขายาวทรงสุภาพ สีเข้ม ดำ กรมท่า น้ำเงิน หรือน้ำตาล

              (๓) รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหนังทรงและสีสุภาพ

ข้อ ๑๗  ชุดปฏิบัติงานสำหรับการปฏิบัติงานในสถานประกอบการสำหรับนักศึกษาชายและหญิง ให้ถือปฏิบัติตามที่สถานประกอบการที่นักศึกษาไปปฏิบัติงานกำหนด

ข้อ ๑๘  หากนักศึกษาแต่งกายไม่สุภาพ หรือไม่เป็นไปตามข้อบังคับนี้ มหาวิทยาลัยอาจพิจารณาไม่ให้เข้าเรียน เข้าสอบ หรือรับบริการใดๆ จากหน่วยงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัย

ข้อ ๑๙  ให้อธิการบดีรักษาการตามข้อบังคับนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศและข้อกำหนด  เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้


ประกาศ  ณ  วันที่ ๑๔  เดือนพฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๔๕

 

                                                                                                                       คนึง ฦาไชย

(ศาสตราจารย์ คนึง   ฦาไชย )

    นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เรื่อง ลักษณะเข็มกลัด กระดุม เนคไท และเข็มขัดสำหรับเครื่องแต่งกายในงานพิธี พ.ศ. ๒๕๔๖

 

โดยที่เห็นเป็นการสมควรกำหนดลักษณะของเข็มกลัด กระดุม เนคไท และเข็มขัด สำหรับให้นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีใช้แต่ประกอบเครื่องแต่งกายในงานพิธี

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 16 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. 2536 จึงให้ออกประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่องเข็มกลัด กระดุม เนคไท และเข็มขัด สำหรับเครื่องแต่งกายในงานพิธี  พ.ศ. 2536  ดังต่อไปนี้

1.  เข็มกลัด สำหรับติดเสื้อนักศึกษาหญิง มีลักษณะดังนี้

ตัวเข็มกลัดทำด้วยโลหะชุบทอง ระบบไมครอน กว้าง 2.5 เซนติเมตร สูง 3.2 เซนติเมตร เป็นเครื่องหมายมหาวิทยาลัยปั๊มนูน พื้นเป็นลายเม็ดทราย และมีเข็มสำหรับกลัด ล็อกได้ติดกับตัวเสื้อ ซ่อนอยู่ด้านหลังตั้งแต่ฐานเข็มกลัดจนถึงกลางภาพท้าวสุรนารี

2.  กระดุม สำหรับติดเสื้อนักศึกษาหญิง มีลักษณะดังนี้

ตัวกระดุมมีลักษณะกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.6 เซนติเมตร ทำด้วยโลหะชุบทอง ปั๊มนูนตรงกลางมีเครื่องหมายมหาวิทยาลัย ขอบโดยรอบนูนเหนือตัวพื้นเล็กน้อย

3.  เนคไท สำหรับนักศึกษาชายมีลักษณะดังนี้

เนคไททำด้วยผ้าสีเทา สีเดียวกับกางเกงของเครื่องแต่งกายในงานพิธี ขนาดกว้าง 6 เซนติเมตร ปักเครื่องหมายมหาวิทยาลัยโดยไม่มีชื่อมหาวิทยาลัยที่ใต้ภาพ อยู่ในตำแหน่งสูงจากปลายเนคไท 20 เซนติเมตร โดยเครื่องหมายมหาวิทยาลัยมีลักษณะดังนี้

- ส่วนที่เป็นเส้นโค้ง ฐานของภาพท้าวสุรนารีพร้อมรูปใบไม้ประกอบ ปักด้วยไหมสีเหลืองทอง

- ส่วนที่เป็นภาพท้าวสุรนารีปักด้วยไหมสีน้ำเงิน

- ส่วนที่เป็นเฟืองจักรปักด้วยไหมสีแสด

4.  เข็มขัด สำหรับนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง มีลักษณะเหมือนกันดังนี้

สายเข็มขัด ทำด้วยหนังสีดำ กว้าง 4 เซนติเมตร

หัวเข็มขัด ทำด้วยโลหะสีดำ ลงยา ตอกลายเม็ดทราย ขอบเหนือตัวพื้น 1 มิลลิเมตร ตรงกลางหัวเข็มขัดมีเครื่องหมายมหาวิทยาลัยปั๊มนูนโดยมีลักษณะดังนี้

-  ส่วนที่เป็นเส้นโค้งกับฐานที่ภาพท้าวสุรนารีและใบไม้ลงสีทอง

-  ส่วนที่เป็นภาพท้าวสุรนารี ลงสีดำ

-  ส่วนที่เป็นเฟืองจักร ลงสีส้ม ความสูงลดหลั่นจากตรงกลางลงไป

-  ส่วนที่เป็นชื่อมหาวิทยาลัย ลงสีทองแดง

-  ใต้ส่วนที่เป็นเครื่องหมายมหาวิทยาลัย มีชื่อมหาวิทยาลัยเป็นภาษาอังกฤษปั๊มนูน  “SURANAREE UNIVERSITY OF TECHNOLOGY”   ตัวอักษรขนาด 1 x 1.5 มิลลิเมตร

 

ทั้งนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 4 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2536


วิจิตร  ศรีสอ้าน


(ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร  ศรีสอ้าน)

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี