Civilian Speech คือ การใช้วาจาและน้ำเสียงอย่างสุภาพและนุ่มนวลเพื่อทักทายและชี้แจงรายละเอียดต่อพลเรือน
Officer Order คือ การใช้วาจาและน้ำเสียงอย่างขึงขังและใช้ถ้อยคำชัดเจนเข้าใจง่าย เพื่อออกคำสั่งให้รวดเร็วที่สุด
Suspect Force คือ การใช้วาจาและน้ำเสียงดังและดุดัน ออกเสียงอย่างชัดเจนและย้ำเตือนตลอดเวลา โดยต้องออกคำสั่งให้สั้นเพื่อความง่ายต่อความเข้าใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองควรแยกการจำกัดความการใช้สรรพนามเรียกบุคคลอื่นที่อาจจะต้องสงสัยหรือกระทำผิดดังนี้
ผู้ต้องสงสัย หมายถึง บุคคลอันเป็นที่ต้องสงสัย โดยไม่มีหลักฐานหรือการกระทำผิดที่ชัดเจน
ผู้ต้องหา หมายถึง บุคคลที่กระทำผิดหรือมีองค์ประกอบในการกระทำผิดตามกฏหมายอย่างชัดเจน
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองควรเข้าใจสำนวนในการใช้สื่อสารเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังนี้
สืบสวน หมายถึง การรวบรวมพยาน หรือหลักฐาน หรือปากคำ หรือความเป็นไปได้ที่บุคคลนั้นอาจจะก่อกระทำความผิดตามกฏหมาย
สอบสวน หมายถึง การนำข้อมูลชั้นสืบสวนมาไตร่ตร่องเพื่อสอบว่าบุคคลนั้นกระทำหรือมีความผิดจริง หากไม่มีบุคคลนั้นจะถูกปล่อยตัวถือว่าจบการสอบสวน แต่หากบุคคลนั้นกระทำหรือมีความผิดตามกฏหมายจริง การสอบสวนจะจบลงต่อเมื่อบุคคลนั้นได้รับโทษสำเร็จสิ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสามารถเรียกรถที่กระทำผิดหรือต้องสงสัยทุกกรณีให้จอดเข้าข้างทางได้ทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสามารถลิดรอนสิทธิ์เพื่อออกคำสั่ง แก่บุคคลให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรือซึ่งได้มาโดยการกระทำความผิดหรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด
หากประชาชนไม่ทำตามการออกคำสั่งดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสามารถใช้โซ่ร้อยข้อมือได้ในทุกกรณี เพื่อป้องกันเหตุหลบหนีและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการใช้โซ่ร้อยข้อมือต้องรวบแขนผูกต้องหาไว้ด้านหลังเสียก่อนเสมอ
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต้องแจ้งกฏมิแรนด้าและสิทธิ์ขั้นพื้นฐานแก่ผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาเสมอเสียก่อน หลังจากนั้นให้ทำการนำตัวขึ้นยานพาหนะเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนสืบสวนดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาหรือความผิดตามกฏหมาย
คุณถูกจับกุมแล้ว คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด ทุกคำพูดของคุณจะถูกนำไปใช้ในชั้นศาล คุณมีสิทธิ์ที่จะเรียกทนายหรือเรียกที่ปรึกษาทางกฏหมายเพื่อตอบคำถาม คุณมีสิทธิ์จะแต่งตั้งทนายระหว่างสอบปากคำ ถ้าหากคุณไม่มีทนายหรือที่ปรึกษาทางกฏหมาย ทางรัฐจะทำการจัดหาให้ก่อนสอบปากคำ แต่ถ้าหากคุณเลือกที่จะให้สอบปากคำโดยไม่มีทนายหรือที่ปรึกษาทางกฏหมาย คุณสามารถหยุดพักการสอบปากคำชั่วคราวได้ทันที
บุคคลที่ถูกนำตัวไปดำเนินคดีต่อจากนี้มีสิทธิ์ที่จะโทรหาญาติหรือบุคคลใดก็ได้เพื่อให้มีผู้รับทราบว่าคุณกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ที่สถานีตำรวจ
บุคคลที่ถูกนำตัวไปดำเนินคดีต่อจากนี้สามารถเรียกร้องสิทธิ์การรักษา หากได้รับบาดเจ็บขณะจับกุมหรือก่อนหน้า
ผู้เสียหายสามารถมากล่าวโทษร้องทุกข์หรือขอความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสมอ
หลังจากได้ข้อมูลมาจากผู้ร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกบุคคลที่เป็นผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาในการกระทำผิด ให้มารายงานหรือให้ปากคำเพื่อสืบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยหมายเรียกสามารถถูกกำหนดระยะเวลาและเริ่มนับตั้งแต่เวลาที่ประกาศสู่สาธารณะ
หลังจากเวลาที่กำหนดตามหมายเรียกผ่านไป หากขัดขืนไม่มีการมาเพื่อรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือให้ปากคำเพื่อสืบสวนดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประกาศหมายจับให้เป็นผู้ต้องหาภายใต้ข้อกล่าวหา "ขัดขืนการออกคำสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ"
การออกหมายจับผู้ต้องหา
การออกหมายจับบุคคลใด บุคคลนั้นต้องกลายเป็นผู้ต้องหากระทำการเป็นความผิดตามกฏหมายอย่างชัดเจน
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้รับมอบหมายจับจากศาลเพื่อนำตัวส่งสืบสวนดำเนินคดีตามกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสามารถใช้กำลังตามความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้ทันที
การขอหมายศาลเพื่อตรวจสอบพื้นที่ส่วนบุคคล
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวผู้ต้องหาครอบครองสิ่งผิดกฏหมายได้ และทราบที่พื้นที่ส่วนบุคคลของผู้ต้องหาชัดเจนหรือซัดทอดบุคคลอื่นที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง
ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกระทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาล (ผู้ดูแลระบบหรือผู้รับผิดชอบแทน) เพื่อขอหมายศาล สำหรับการตรวจค้นพื้นที่ส่วนบุคคล
หากศาลอนุญาตออกหมายค้นพื้นที่ส่วนบุคคล ผู้ต้องหาต้องให้ความร่วมมือทุกประการในการตรวจค้นบ้าน
หากมีความผิดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ตามการกระทำความผิดกฏหมาย
หากผู้ต้องหาขัดขืน โดยเข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถวิสามัญได้ทันที
หากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกระทำการตรวจสอบค้นพื้นที่ส่วนบุคคลนอกเหนือจากหมายศาลระบุไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะมีความผิดตามกฏหมาย บุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล นอกเสียจากเป็นเหตุอันเกิดซึ่งหน้าตามกฏหมาย
BOLO หมายถึง รายละเอียดการระบุตัวผู้ต้องหาโดยมีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมาย กระทำเพื่อออกหมายจับหรือหมายค้น
APB หมายถึง รายละเอียดเบื้องต้นของผู้ต้องหาที่พบจากเหตุการณ์อาทิ รูปพรรณผู้ต้องหา, ทะเบียนยานพาหนะ, เสื้อผ้าและเครื่องสวมใส่, พื้นที่ก่อเหตุการณ์หรือพื้นที่ล่าสุดที่พบเห็น
Less Lethals
กระป๋องสเปรย์พริกไทย (OC Spray)
กระป๋องสเปรย์พริกไทยมีหน้าที่เพื่อป้องกันตัวและสร้างช่องโหว่งแก่บุคคลที่เป็นภัยคุกคามแก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะทำให้สภาพการมองเห็นของผู้คุกคามหยุดลงชั่วขณะ
กระบอง (Baton)
อาวุธระยะประชิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยมักใช้เพื่อควบคู่กับการออกคำสั่ง หรือใช้กรณีหยุดยั้งการขัดขืนของบุคคลต่อเจ้าหน้าที่
ปืนช็อตกระแสไฟฟ้า (Taser)
อาวุธที่สร้างความเสียหายที่มีความอันตรายถึงชีวิตน้อย แต่ผู้ที่ถูกยิงประจุกระแสไฟฟ้าจะเกิดอาการกล้ามเนื้อชาและเป็นอัมพาตชั่วขณะ ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
เพื่อระงับเหตุการณ์ในระดับไม่ร้ายแรงมาก
เพื่อระงับเหตุการณ์ที่ผู้ก่อเหตุไม่มีอาวุธที่เป็นภัยคุกคามต่อความอันตรายต่อชีวิตบุคคล
เพื่อระงับเหตุที่เกิดการขัดขืนการออกคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
ลูกซองยาง (Beanbag)
อาวุธปืนลูกซองยางใช้ในกรณีบุคคลผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาออกนอกระยะทำการของ Taser
เพื่อระงับเหตุ การก่อจราจลของฝูงชนจำนวนมาก
ยิงใส่บุคคลที่ก่อความเสียหาย หรือมีพฤติกรรมรุนแรง หรือขัดขืนการออกคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้ในกรณี Taser ไม่สามารถใช้การได้ตามเงื่อนไข
Weapons
อาวุธประเภทปืนพกสั้น Pistol Gun
ปืนพก อาวุธที่มีอำนาจในการใช้ต่อสู้เป็นอย่างดี ปืนจะสร้างบาดแผลให้ผู้ถูกยิงเป็นอันตรายได้อย่างรุนแรงหรือเสียชีวิต เพื่อยับยั้ง
ใช้เมื่อมีเหตุการณ์หลบหนีการจับกุมต่างๆ หากขับรถหรือเจ้าหน้าที่สามารถยิงใส่ล้อของผู้ต้องหาได้
ใช้เมื่อผู้ต้องสงสัย กำลังจะก่อภัย เช่น กำลังขวักปืนออกจากซอง หรือหลัง
หากผู้ต้องสงสัย นำปืนออกมาชี้ที่บุคคลใดก็ตาม ถือเป็นการขึ้นลำปืน เจ้าหน้าที่สามารถวิสามัญได้ทันที
ใช้เมื่อมีการยิงต่อสู้กับผู้ต้องหา หากมีการต่อสู้เกิดขึ้น
อาวุธประเภทปืนลูกซองยาว Shotgun 12 Gauge
ลูกซองกระสุนปลาย เป็นอาวุธที่หน่วยลาดตระเวนมักมีไว้เพื่อติดกับยานพาหนะคันละ 1 กระบอกเสมอ เพื่อใช้ในการต่อสู้หรือเอาตัวรอดเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหามีอาวุธที่มีอำนาจตั้งแต่อาวุธระยะประชิดที่มีความเป็นอันตรายต่อชีวิตขึ้นไป
อาวุธประเภท Sub Machine Gun หรือ Assault Rifle
อาวุธประเภทปืนกลเบาและไรเฟิลจู่โจม สามารถใช้ในกรณีที่มีการยิงปะทะกันอย่างรุนแรงกับผู้ต้องหาจำนวนมาก หรือผู้ต้องหามีความเป็นอันตรายเข้าข่ายความเป็นภัยคุกคาม หรือสถานการณ์ถูกวิเคราะห์จากผู้บังคับบัญชาตำแหน่งสูงสุดขณะนั้นว่าสมควรแก่การนำออกมาใช้เพื่อระงับเหตุการณ์
ระดับที่ 1 : การปรากฏตัวของตำรวจ เมื่อตํารวจไปถึงที่เกิดเหตุผู้ที่จะกระทําผิดบางรายก็อาจจะล้มเลิกการทําผิด หรืออาจให้ความร่วมมือด้วยดีโดยไม่ต้องออกคําสั่ง เช่น การจอดรถในที่ห้ามจอด การลักลอบเรี่ยไร การทะเลาะวิวาท ถ้าคนร้ายยังไม่หยุด ให้ตํารวจใช่กําลังระดับต่อไป
ระดับที่ 2 : การสั่งคำสั่งด้วยวาจา ตํารวจใช้คําพูดสั่งคนร้ายให้ยอมเลิกการกระทําที่เป็นความผิด หรือการทําร้าย หากยอมปฏิบัติตามคําสั่งต้องไม่ใช้กําลัง ถ้าไม่ยอมปฏิบัติตามคําสั่ง ให้ใช้กําลังในระดับเหมาะสมต่อไป
ระดับที่ 3 : การใช้เทคนิคการควบคุมด้วยกายภาพ เมื่อคนร้ายไม่ปฏิบัติตามคําสั่งด้วยวาจาแต่แรก ตํารวจอาจใช้เทคนิคการควบคุมตัวด้วยมือเปล่า หรือการกดจุด ถ้าหากขัดขืนไม่ยินยอมให้ใช่กําลังในระดับที่เหมาะสมต่อไป
ระดับที่ 4 : การใช้เทคนิคตอบโต้อย่างรุนแรง คนร้ายไม่ปฏิบัติตามคําสั่งและเข้าโจมตีทําร้ายตํารวจแต่ไม่ใช้อาวุธ ให้ป้องกันตนเองได้โดยไม่ใช้อาวุธ เชนกัน คือ การชก การเตะ การทุ่มการทําให้หมดสติหรือการใช้สารทําใหเกิดอาการระคายเคือง หากยังคงขัดขืนให้ดำเนินการระดับที่เหมาะสมต่อไป
ระดับที่ 5 : การใช้อาวุธที่เป็นอันตรายไม่ถึงแก่ความตาย คนร้ายใช้อาวุธและอาจทําอันตรายขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และไม่หยุดการกระทําหลังจากถูกแจ้งเตือน ให้เจ้าหน้าที่ตํารวจพิจารณาตอบโต้ได้ทั้งไม่ใช่อาวุธและใช้อาวุธที่ไม่ถึงตาย ได้แก่ การใช้กระบอง เครื่องช็อตไฟฟ้า กระสุนยาง ปืนยิงตาข่าย หากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถหยุดหรือควบคุมคนร้ายได้ให้ใช้กําลังขั้นต่อไป
ระดับที่ 6 : การใช้กําลังขั้นเด็ดขาดหรือการใช้อาวุธปืน คนร้ายใช้อาวุธทําอันตรายเจ้าหน้าที่ตํารวจหรือบุคคลอื่นที่เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือเสียชีวิต และไม่หยุดต่อคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถใช้ความรุนแรงอันเด็ดขาดเพื่อหยุดยั้งความเสียหายได้ทันที
หากบุคคลต้องสงสัยให้ความร่วมมือโดยดีไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ควรปฏิบัติด้วยความสุภาพและเรียบร้อย
หากบุคคลต้องสงสัยมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง ล้อเลียน ควรใช้วาจาตักเตือนหรือใช้เสียงที่ดังกว่าปกติเพื่อสั่งให้ปฏิบัติตาม
หากบุคคลต้องสงสัยขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งควรตักเตือนและออกคำสั่งอีกครั้งอย่างชัดเจน แต่หากยังคงไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องใช้กำลังเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามคำสั่งหรือขอกำลังเสริมสนับสนุน
หากบุคคลต้องสงสัยขัดขืนและต่อสู้มือเปล่า สามารถใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้า สเปรย์พริกไทย ไม้กระบอง เพื่อระงับเหตุ
หากบุคคลต้องสงสัยถืออาวุธอยู่ในมือ หากเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถนำอาวุธออกมาถือในมือได้ทันทีแล้วเล็งไปยังผู้ต้องหา สั่งให้วางอาวุธลง
หากบุคคลต้องสงสัยถืออาวุธอยู่ในมือในสภาพพร้อมใช้งานแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถทำการวิสามัญฆาตกรรมได้ทันที
อาวุธปืนขนาดกระสุนชนิดต่าง ๆ เช่น 9มม. 11มม. มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ได้แก่ GLOCK, Beretta, S&W
อาวุธประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แก่ ไม้กระบอง, สเปรย์พริกไทย, ปืนช็อตกระแสไฟฟ้าและปืนพกประจำกายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานที่ต้องพกติดตัวไว้ โดยจะจัดเก็บในซองปืนพกข้างลำตัวเสมอ
อาวุธปืนไรเฟิลจู่โจมและปืนกลเบา จะถูกนำมาใช้ในการปฏิบัติงานพิเศษเพื่อต่อต้านการก่อาชญกรรมที่ผู้ก่ออาชญกรรม
ปืนลูกซองยาวจะถูกติดตั้งประจำอยู่ในรถสายตรวจทุกคันท้ายรถสายตรวจ
อาวุธปืนจะต้องจัดเก็บในซองพกแล้วขึ้นเซฟไว้เพื่อป้องกันอันตรายเสมอ
แมกกาซีนสำรองและสเปรย์พริกไทยจะอยู่บริเวณซองรอบ ๆ เข็มขัด
เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต้องแสดงตัว ออกคำสั่งไปยังผู้ต้องหาให้หันหลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและให้ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยนอนลงไปกับพื้นเพื่อใส่โซ่ร้อยข้อมือ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีมากกว่าผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย และอยู่ในมุมอับสายตาหรือด้านหลังของผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาเสมอ
แจ้งข้อหาการกระทำความผิดแก่ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหา
แจ้งข้อกล่าวว่าและสิทธิ์ที่เขาได้รับให้แก่ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหา
ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยสามารถโทรศัพท์หาญาติหรือเพื่อน เพื่อให้รับทราบว่าเขากำลังถูกนำตัวมาที่สถานี ... เพื่อสืบสวนและดำเนินคดี
ถ้าหากผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยได้รับบาดเจ็บขณะการจับกุมหรือหลบหนี สามารถเรียกร้องขอสิทธิ์การรักษาจากแพทย์ได้
นำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีภายในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อทำการสืบสวนดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสามารถกักตัวผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยได้เท่าที่จำเป็น เพื่อสืบสวนหาหลักฐานต่าง ๆ สำหรับการสอบสวนการกระทำผิด
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำการสรุปการสอบสวน หากสอบสวนได้ว่ากระทำความผิดจริงผู้ต้องหาจะถูกนำตัวไปลงบันทึกอาชญกรรมก่อนส่งตัวให้กรมราชทัณฑ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจขนส่งตัวผู้ต้องหาเข้ากรมราชทัณฑ์ เรือนจำกลาง Boling Broke Penitentiary
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถค้นบุคคลใด หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลนั้นมีสิ่งของผิดกฎหมายไว้ในครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด
หรือซึ่งมาได้โดยการกระทำความผิด หรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขอเรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบขับขี่ของบุคคลนั้น ๆ ได้ทันที
หากครอบครองสิ่งผิดกฎหมายหรือซึ่งมาได้โดยการกระทำความผิด หรือเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจในการสืบสวนดำเนินคดีความผิดตามข้อกล่าวหาหรือความผิดตามกฏหมาย โดยต้องผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาจำเป็นต้องถูกนำตัวส่งสถานีฝ่ายปกครองพื้นที่เพื่อฝาุกขังตามระยะเวลาการสืบสวน ซึ่งจำเป็นต้องยึดของกลางและหลักฐานเสียก่อน เพื่อป้องกันของกลางและหลักฐานก่อนถึงสถานีตำรวจ
หากบุคคลใดไม่กระทำการตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บุคคลนั้นมีความผิดตามกฏหมายข้อหา "ขัดขืนการออกคำสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ" ซึ่งบุคคลนั้นจะถูกนำตัวส่งสถานีฝ่ายปกครองพื้นที่เพื่อสืบสวนดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาหรือความผิดตามกฏหมายต่อไป
การเรียกหยุดยานพาหนะ (Traffic Stop)
Traffic Stop หมายถึงการเรียกหยุดการจราจรตามอำนาจบังคับใช้กฏหมาย ซึ่งสาเหตุของการเรียกมักเกิดจากการละเมิดหรือความผิดทางกฏหมายการจราจรทางบกและเพื่อความร่วมมือจากประชาชนควรใช้คำสั่งให้ชัดเจนหนักแน่นด้วยความสุภาพทั้งการกระทำและคำพูด โดยการเรียกหยุดจอดรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอยู่ด้านหลังของผู้ที่ถูกเรียกให้หยุดการจราจรเสมอและต่อด้านหลังไปเรื่อย ๆ เมื่อทำการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านอื่น โดยผู้ที่ถูกเรียกให้จอดยานพาหนะต้องนั่งรอในยานพาหนะและดับเครื่องยนตร์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามและดำเนินการต่าง ๆ
ข้อควรปฏิบัติ
ชะลอความเร็วอย่างระมัดระวังและสั่งให้รถเข้าชิดไหล่ทางขวา
ให้ผู้ถูกเรียกดับเครื่องยานพาหนะกำลังขับขี่และลดกระจกด้านผู้ขับขี่ลดลง
ให้ผู้ถูกเรียกนำกุญแจยานพาหนะออกจากช่องติดเครื่องยนต์
ให้ผู้ถูกเรียกนั่งรอภายในยานพาหนะ โดยผู้ขับขี่จะต้องใช้ทั้งสองมือจับพวงมาลัยของยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ต้องสามารถมองเห็นมือทั้งสองข้างของผู้ขับขี่เสมอ ซึ่งไม่ควรแสดงท่าทีคุกคามหรือก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นภัยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อชี้แจ้งการเรียกหยุดจอดยานพาหนะของผู้ขับขี่
ผู้โดยสารภายในยานพาหนะเดียวกันทั้งหมด จำเป็นต้องนั่งรอเช่นเดียวกัน โดยต้องไม่แสดงถึงความเป็นภัยคุกหรืออันตรายต่อตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่จากการป้องกันตัว
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจ้งหรือเขียนใบสั่งจ่ายตามกฏหมายเสร็จสิ้น ผู้ขับขี่ยานพาหนะจำเป็นต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปที่ยานพหานะตำรวจเสียก่อน จึงสามารถเคลื่อนยานพาหนะ
ตัวอย่างการเรียกจอดยานพาหานะ
การเรียกหยุดยานพาหนะที่มีความเสี่ยงสูง (Felony Stop / High Risk Stop)
Felony Stop (High Risk Stop) หมายถึงการเรียกหยุดการจราจรตามอำนาจบังคับใช้กฏหมาย ซึ่งผู้ถูกเรียกให้จอดขัดขืนหรือไม่ทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นจึงต้องสงสัยได้ว่าบุคคลนั้นเข้าข่ายต้องสงสัยที่เสี่ยงต่อการครอบครองสิ่งที่ไว้ใช้เพื่อกระทำความผิด หรือซึ่งมาได้โดยกระทำความผิด หรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด โดยการหยุดจอดรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นแนวนอนโอบล้อมยานพาหนะของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยและใช้ประตูรถเป็นโล่ป้องกันจากการเกิดเหตุการยิงต่อสู้กันเสมอ
ข้อควรปฏิบัติ
กรณีผู้ขับขี่ยานพาหนะถูกออกคำสั่งให้หยุดจอดโดยมีความเสี่ยงสูง บุคคลภายในยานพาหนะนั้นอาจจะเป็นบุคคลที่เคยกระทำความผิดและหลบหนี หรืออยู่ระหว่างการหลบหนี หรือลักษณะยานพาหนะเข้าข่ายข้อมูลต้องสงสัย หรือบุคคลมีอาวุธครอบครอง หรือบุคคลมีสิ่งผิดกฏหมายไว้ในครอบครอง หรือใช้ยานพาหานะเป็นอาวุธในการสร้างความเสียหาย
หยุดเคลื่อนที่และดับเครื่องยานพาหนะบริเวณไหล่ทางชิดขวา
นำกุญแจยานพาหนะออกมา ลดกระจกลงและโยนกุญแจออกด้านนอกตัวยานพาหนะให้ไกลที่สุด
ลดกระจกลงไว้อย่างนั้น ห้ามลงจากยานพาหนะหรือขยับด้วยความไม่จำเป็น
รอฟังคำสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการออกคำสั่งอย่างชัดเจน ซึ่งจะเริ่มจากผู้ขับขี่เสมอ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจออกคำสั่งให้บุคคลลงจากยานพาหนะ บุคคลนั้นที่ได้รับคำสั่งจำเป็นเปิดประตูช้าๆ เดินลงมาจากยานพาหนะพร้อมโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่และยกมือขึ้นเหนือศรีษะและหันหลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกคำสั่งอยู่เสมอ หลังจากออกห่างจากตัวยานพาหนะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสั่งให้บุคคลนั้นมอบหรือคุกเข่าลงกับพื้นและใช้มือทั้งสองข้างประสานท้ายทอยของตนเอง
รอจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกคำสั่งบุคคลภายในยานพาหนะทั้งหมดครบเสร็จสิ้น ซึ่งหลังจากนั้นจะถูกพาตัวไปสืบสวนหรือชักถามต่อภายหลัง
หากบุคคลใดภายในยานพาหนะก่อเกิดภัยคุกคามหรือก่อความเสี่ยงต่อทรัพย์สินและชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้การระงับเหตุจนถึงขั้นวิสามัญผู้ต้องหาได้ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อพลเรือนที่อยู่รอบจุดเกิดเหตุสถานการณ์
ตัวอย่างการหยุดจอดยานพาหนะที่มีความเสี่ยงสูง
Pursuit หมายถึงการไล่ล่าตัวผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะก่อเหตุหรือกระทำความซึ่งหน้าที่ใช้ยานพาหนะในการหลบหนี
ผู้เริ่มทำการไล่ล่าขึ้นเป็นหัวขบวนเสมอและใช้วิทยุสื่อสารบอกเจ้าหน้าที่ท่านอื่นเพื่อขอกำลังสนับสนุนในการไล่ล่าให้เข้าร่วมขบวนการไล่ล่า
หลังจากผู้เริ่มการไล่ล่าร้องขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ท่านอื่น ผู้เริ่มการไล่ล่าต้องคอยรายงานรายละเอียดของยานพาหนะของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย ซึ่งรวมถึงเส้นทางต่าง ๆ ที่ต้องสงสัยกำลังมุ่งหน้าไปเพื่อให้ผู้ร่วมขบวนสามารถตัดสินใจเข้าร่วมขบวนได้อย่างถูกต้อง
ถ้าหากรถของผู้เริ่มทำการไล่ล่าหรือรถคันแรกของขบวนไล่ล่าเสียหลักให้คันต่อไปที่ตามมาขึ้นมานำแทนและรายงานละเอียดผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยต่อไป โดยรถคันที่เสียหลักจะต้องรอให้รถของเจ้าหน้าที่คันที่ขับตามหลังมาผ่านไปให้หมดก่อนจึงกลับเข้าร่วมขบวนได้
การไล่ล่าผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยไม่อนุญาตให้รถทุกคันในขบวนการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความเร็วมากกว่าขบวนเพื่อแซงขึ้นคันก่อนหน้า เพราะอาจจะเกิดเหตุชนกันระหว่างไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ภายในขบวนอยู่
หากมีเจ้าหน้าที่ท่านอื่นทำการขับขี่ยานพาหนะเพื่อสกัดกั้นทางผ่านของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยสามารถขับขี่ผ่านไปได้ รถของเจ้าหน้าที่ที่มาสกัดกั้นปิดทางผ่านของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยจำเป็นต้องหยุดให้รถของเจ้าหน้าที่ท่านอื่นภายในขบวนผ่านไปก่อนจึงกลับขบวนได้ เพื่อป้องกันการชนการภายในขบวน
การขออนุญาตทำให้ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยที่กำลังขับขี่ยานพาหนะเสียหลักด้วยวิธีการต่าง ๆ จะต้องอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในขบวนก่อนเท่านั้น ซึ่งจะขออนุญาตได้ต่อเมื่อวานทำให้ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยเสียหลักนั้นไม่สามารถสร้างความเสียหายหรือความเดือดร้อนต่อประชาชนคนอื่นโดยรอบเช่นกัน
หากผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยเริ่มทำการใช้ยานพาหนะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตประชาชนหรือทรัพย์สินของผู้อื่น เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้นำขบวนสามารถขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในขบวนเพื่อทำการใช้อาวุธปืนยิงล้อได้ทันที ซึ่งการใช้อาวุธปืนต้องมั่นใจว่าไม่มีประชาชนในบริเวณใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย โดยเล็กยิงได้เพียงล้อหรือยางรถผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยเท่านั้น
หากยานพาหนะของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยเสียหลักจนไม่สามารถไปต่อหรือเคลื่อนที่ต่อได้ให้ทำการปิดล้อมและให้ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยลงจากยานพาหนะ หลังจากนั้นให้ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยยกมือขึ้น หันหลังให้เจ้าหน้าที่และคุกเข่าหรือนอนคว่ำลง โดยเจ้าหน้าที่จะต้องไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะถูกยิงซึ่งกันและกันเอง
การที่ผู้ต้องหามีอาวุธปืนและยิงออกมาจากตัวยานพาหนะ โดยผู้นำขบวนไล่ล่าไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเล็งอาวุธหาเราหรือที่ใดก็ได้ ซึ่งได้ยินเสียงปืนจากผู้ต้องหาจะต้องทำแจ้งในวิทยุสื่อสารเพื่อให้ผู้ร่วมขบวนทราบ
การที่รถตำรวจคันหน้าสุดของขบวนใช้กันชนหน้ารถเบียดเข้าท้ายข้างรถของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยจนเสียหลักแต่ไม่ให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
การที่รถตำรวจคันหน้าสุดที่ทำการไล่ล่าขออนุญาตเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจสูงสุดขณะนั้นของขบวนไล่ล่าเพื่อทำการยิงยางด้วยกระสุนจริงเพื่อหยุดยานพาหนะของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย ซึ่งการขออนุญาตผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยที่ทำการหลบหนีต้องกระทำการใช้อาวุธสร้างความเสียหายแก่บุคคลหรือกระทำการยิงปืนจากตัวยานพาหนะเสียก่อน
การที่รถเจ้าหน้าที่นำขบวนคันแรกเร่งความเร็วขึ้นมาด้านของยานพาหนะผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยเพื่อขับขี่และปิดกั้นทางเพื่อให้ยานพาหนะของผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยลดความเร็วลง โดยรถเจ้าหน้าที่คันต่อที่เป็นคันที่สองของขบวนต้องขึ้นมาต่อท้ายยานพาหนะของผู้ต้องหา หลังจากนั้นให้ทั้ง 2 คันที่อยู่หน้าและหลัง โดยทำให้ยานพาหนะที่อยู่ตรงกลางของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยชะลอและหยุดเคลื่อนที่
การที่ยานพาหนะของผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยเกิดการชนหรือเสียหลัก
ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยขับขี่ยานพาหนะด้วยความประมาทและเลินเล่อจนอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตของตนเองและผู้อื่นหรือทรัพย์สินต่าง ๆ
ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยขับขี่ออกนอกเส้นทางถนน
ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยขับขี่กลับเข้าสู่เส้นทางหลัก
หลังจากที่ยานพาหนะที่ใช้หลบหนีไม่สามารถเคลื่อนที่หรือขยับต่อได้ ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยได้ทำการวิ่งหนีด้วยการวิ่ง
การปิดกล่องจะเกิดขึ้นได้เมื่อทำการ Pit ภายในตัวเมืองเท่านั้น โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและทรัพย์สินของผู้อื่นด้วยเช่นกัน แต่หากผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยพยายามขับขี่ยานพาหนะออกเส้นทาง Freeway ไม่อนุญาตให้ทำการใช้รูปแบบการปิดกล่องเนื่องจากมีความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุจากประชาชนโดยรอบ
การปิดกั้นพื้นที่เพื่อจำกัดขอบเขตของพื้นที่เหตุการณ์ โดยสิ่งที่ต้องกระทำต้องจัดการอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการสูญหายของพยานและหลักฐาน
ปิดกั้นล้อมการสัญจรภายในพื้นที่หรือสถานที่
แยกตัวบุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพยานต่อเหตุการณ์ เพื่อการสืบสวนต่อรูปแบบของคดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนบนพื้นที่หรือสถานที่ปิดกั้นต้องมีหน้าที่ชัดเจน ซึ่งบุคคลที่ออกคำสั่งหน้าพื้นที่การปิดล้อมคือเจ้าหน้าที่ระดับจ่า (Supervisor)
หากต้องการออกจากพื้นที่ปิดล้อมหรือสถานการณ์คลี่คลายเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทุกนายต้องขึ้นยานพาหนะและแจ้งออกจากพื้นที่พร้อมกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีสิทธิ์นำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพยาน หรือผู้ต้องหา หรือหลักฐานใดๆ ก็ตามแต่กลับไปที่สถานที่อื่นก่อนได้ การทำงานต้องเสร็จสิ้นทุกอย่างจึงออกจากพื้นที่นั้นพร้อมกันทุกคนได้