ประวัติ Butterfly

Butterfly นักฆ่าที่มาพร้อมกับเสียงกระซิบแห่งความตาย ฮีโร่ในตำแหน่ง นักฆ่า (Assassin) ที่จัดได้ว่าโหดที่สุดในเกม และได้รับความนิยมจากผู้เล่นเป็นจำนวนมาก เพราะตัวละครตัวนี้โหดมาก หายตัวมาแทงจากด้านหลัง สกินโหด แป็ปเดียวตาย แล้วก็วิ่งหายตัวไป ถ้าในเกมนั้นๆ ผู้เล่นคนนั้นเล่น Butterfly เป็น ย่อมเก็บ Kill ได้ไม่กว่า 10 Kill เป็นฮีโร่อีกหนึ่งตัวที่เล่นแล้วฟินสุดๆ


ความเป็นมาของ Butterfly

"หลังจากสงครามจบลงแล้ว เจ้าคิดจะทำอะไรต่อล่ะ? " ดาบสีชาดเปล่งประกายแสงที่อบอุ่น ท่ามกลางราตรีสุดหนาวเหน็บ "มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนอย่างข้าที่เกิดและเติบโตขึ้นมาจากการฆ่าเพื่อที่จะมีชีวิตรอดในแต่ละวัน ข้าไม่เคยมีเวลาจะคิดเรื่องอื่นใดเลยด้วยซ้ำไป" เสียงอันเย็นยะเยือกเปล่งออกมาจากมุมมืด โทนเสียงนั้นคมชัด Butterfly เป็นทหารรับจ้างที่ถูกฝึกมาให้รู้จักการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าทางกายภาพในสภาวะสงครามที่ยาวนาน เธอไม่เคยเป็นเผยนามที่แท้จริงของตน มีเพียงสมยานามที่ถูกตั้งให้โดยสมาคมทหารรับจ้างที่เธอสังกัดอยู่ Butterfly ถูกเลี้ยงดูโดยทหารรับจ้างมาตลอดชีวิต พวกเขาฝึกทักษะการต่อสู้ให้เธอมาตลอดช่วงชีวิตของเธอ จนกระทั่งเธอเติบโตมากพอที่จะเข้าร่วมสมาคมได้ เธอได้รับมอบหมายภารกิจต่างๆนาๆจากสมาคม โดยทุกครั้งที่เธอทำภารกิจสำเร็จ เงินตอบแทนจะต้องถูกแบ่งครึ่งนึงให้แก่สมาคมเป็นค่าตอบแทนสำหรับการเลี้ยงดูตั่งแต่เด็ก วันหนึ่ง Butterfly ได้รับมอบหมายภารกิจให้ไปปกป้องบุตรสาวแห่งตระกูล Rose นามว่า Astrid ในภารกิจนั้น Butterfly จะต้องปลอมตัวเป็นทั้งสาวใช้ และสตรีชั้นสูงเพื่อให้สามารถปกป้องบุตรสาวตระกูล Rose ได้ทันท่วงที หาก Butterfly ไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนที่มากโขนั้น บางทีเธออาจจะไปรับงานที่น่าตื่นเต้นกว่านี้เช่นการล่าสัตว์ลึกลับหรือไม่ก็การลอบสังหารหัวหน้าโจร หรืออะไรก็ได้ที่ดีกว่าการต้องมานั่งฟังเหล่าสตรีชั้นสูงพล่ามเรื่องชาวบ้านชาวช่องไปวันๆ ทุกคืน แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่างานนี้ก็อาจจะไม่ได้น่าเบื่อสำหรับเธอไปซะทีเดียว มันทำให้ความรู้สึกมีแรงกระตุ้นของเธอกลับมา ที่จริงต้องบอกว่ามันมากกว่าเดิมเสียอีก เมื่อครั้งเธอได้เผชิญหน้ากับ Arduin หัวหน้าอัศวินผู้แปรพักต์ ผู้มอบความพ่ายแพ้ให้แก่เธอ เมื่อบิดาและพี่ชายถูกสังหาร บ้านเกิดที่เติบโตมาก็ถูกห้อมล้อมด้วยศัตรู สาวน้อย Astrid แบกรับเกียรติยศแห่งตระกูล Rose ออกไปสู้รบอย่างกล้าหาญ และด้วยภารกิจปกป้องนั้น ทำให้ Butterfly ต้องออกไปสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ Astrid ด้วย ทั้ง 2 สามารถฝ่าฟันและโค่นศัตรูได้ แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผลก็ตาม ในกรณีนี้ Butterfly สามารถยกเลิกภารกิจนี้ได้ด้วยเหตุผลว่า “ภารกิจไม่ตรงตามจุดประสงค์เดิม” แต่ด้วยคำขอร้องจากตระกูล Rose ให้ทำภารกิจต่อ โดยหวังว่า Butterfly จะสามารถปกป้อง Astrid ได้ในสนามรบ ทำให้ Butterfly ตัดสินใจสานต่องานของเธอต่อไป แม้ระดับความยากของภารกิจจะเปลี่ยนเป็นระดับ “มหากาพย์” ก็ตาม “ไม่มีคำว่าหนีในพจนานุกรมของข้า”

สกิลของ Butterfly


Kiss of Death เมื่อเราทำการสังหาร หรือช่วยเหลือ จะรีเซ็ตคูลดาวน์ของสกิลทั้งหมด และช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้ตัวเอง 8%


Flying Daggers ขว้างมีดบินใส่ศัตรูใกล้เคียง สร้างความเสียหายกายภาพ 180 (+115) และลดความเร็วการเคลื่อนที่ลง 2 วินาที


Swift Kill โจมตีด้วยความเร็วสูง ทำให้ศัตรูในระยะของเธอได้รับความเสียหายกายภาพ 390 (+203) และเพิ่มความเร็วในการโจมตีของเธอ 50% เป็นเวลา 3 วินาที


Untimate BackStab ปรากฏตัวด้านหลังศัตรูที่มีพลังชีวิตน้อยที่สุด (เล็งฮีโร่ก่อนเสมอ) และทำการแทงจากด้านหลัง สร้างความเสียหายกายภาพ 450 (+265) และเพิ่มการต้านทานความเสียหายขึ้น 60% และความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 50% ในระยะหนึ่ง

ชาเลนเจอร์สกิลที่แนะนำ

Punish คูลดาวน์ 30 วินาที สร้างความเสียหาย 800 แก่ครีปในบริเวณ ส่งผลให้ติดสถานะสตัน 1 วินาที : หลายคนยังอาจจะไม่รู้ว่าฮีโร่ตัวนี้เหมาะกับการฟาร์มป่าเป็นที่สุด เนื่องจากมีดาเมจจากสกิล 1 ที่รุนแรงมากหลังจากได้โจมตีครบ 4 ครั้ง ประกอบกับสกิล 2 ที่สามารถเคลื่อนที่ระหว่างการฟาร์มได้ดีเยี่ยม ทำให้เลเวล 4 ได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 นาที

ไอเทม

ชิ้นแรกเป็น Leviathan ที่ต่อมาจาก Gnoll cleaver ไอเทมที่ตัวเข้าป่าที่ต้องการเลือดนิยมออกกัน โดยจะเพิ่มเลือด 800 หน่วย และส่งผลให้โจมตีครีปป่าแรงขึ้น 30% และได้รับ Exp มากขึ้นอีก 30% ด้วย และทีเด็ดของไอเทมชิ้นนี้คือ เราสามารถเก็บ Stack ได้จากการฆ่าครีปป่า โดยจะได้รับ 70 HP สามารถ Stack ได้ 15 ครั้งด้วยกัน ถัดมา Hermes’ Select เมื่อเราไม่ได้โจมตีจะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 45 หน่วย เหมาะแก่การเข้าทำของเราเป็นอย่างมาก และยังได้รับสถานะต้านทานทุกดาเมจอีก 35% Muramasa +80 ดาเมจ ไอเทมดาเมจชิ้นแรกที่ควรออก ทำให้เราสามารถเจาะเกราะเพิ่มขึ้น 45% และวิ่งเร็วขึ้น 20% และที่สำคัญยังป้องกันการโจมตีประชิด 1 วินาที ก่อนที่เลือดเราจะหมดด้วย ถ้าใน 1 วินาทีนั้นเป็นการไฟท์ที่ตัดสินกันแล้วเราละก็ ได้เรื่องเลยทีเดียว Ancestral Glory เพิ่มเลือด 1,000 หน่วย เมื่อเราตายจะสามารถฟื้นคืนชีพตรงจุดที่เราตาย แต่จะได้ HP 40%, Spear of Longinus ไอเทมดาเมจอีกชิ้นที่ควรออก +80 ดาเมจ ลดคูลดาวน์ 15% และเพิ่มเกราะ 150 ไอเทมเจาะเกราะอีกชิ้นที่ดี ทั้งลดคูลดาวน์และได้รับความสามารถเจาะเกราะ + 60 และการโจมตีเป้าหมายจะลดเกราะ 40 ลดสูงสุดได้ 5 ครั้ง, Fenrir’s Tooth ไอเทมดาเมจชิ้นสุดท้ายเอามาปิดเกม +200 ดาเมจ และเมื่อ HP ของเป้าหมายต่ำกว่า 50% จะบวกพลังโจมตีเพิ่มให้อีก 30% ด้วยกัน แค่เราโดดใส่ตัวไหนก็เลือดลดไปเยอะมากแล้ว แค่ให้เพื่อนทำดาเมจต่ออีกนิดหน่อยก็จะเห็นผลของไอเทมชิ้นนี้ได้เล

เทคนิคการเล่น

Butterfly เป็นตัวที่ต้องการเลเวลในระดับหนึ่งถึงจะทำการ Gank ได้ โดยเปิดเกมมาให้เราเข้าป่าจัดการเจ้ายักษ์ฟ้าเป็นอันดับแรก โดยสามารถเรียกเพื่อนจากเลนมาช่วยตีให้ยักษ์ฟ้าใกล้ตายแล้วค่อยเข้าเลนเพื่อให้เราสามารถจัดการได้เร็วยิ่งขึ้น การฟาร์มให้หมดป่าเพื่อให้เลเวลไวที่สุด ยักษ์แดงก็มีความจำเป็นต่อตัว Butterfly เช่นกัน โดยทำให้การโจมตีแต่ละครั้งติดสถานะ Burn ทำให้เราสามารถฆ่าครีปในป่าได้เร็วยิ่งขึ้น เมื่อเราเลเวล 4 ให้รีบมาเอามังกรได้เลย ความพิเศษของ Butterfly คือ สามารถโซโล่มังกรได้เลยเนื่องด้วยสกิล Untimate จะทำให้ Butterfly ถึกขึ้น และดาเมจจากสกิลก็มากพอที่จะฆ่ามังกรได้ตัวคนเดียว เมื่อเลเวลเราเริ่มห่างแล้วก็ถึงเวลาเดินเกม โดย Butterfly สามารถไป Gank ได้ทุกเลนเนื่องจากสกิลอำนวยให้สามารถ Gank ได้อย่างง่าย ขอแค่ทีมตรงข้ามเผลอ รับรองเป็นศพแน่นอน

นอกจากการไล่ฆ่าแล้ว Butterfly ยังเป็นฮีโร่ที่สามารถดันป้อมได้ไวเช่นกันด้วยการกดสกิล 2 ที่จะทำให้มันตีเร็วขึ้น 50% เหมาะมากที่จะใช้ดันป้อม จะเห็นได้ว่า Butterfly นี้เป็น DPS ตัวจริง ดาเมจที่ทำได้จาก 3 สกิลนั้นสูงมากๆ แค่ใช้แต่สกิลก็หายไปครึ่งหลอดแล้วตีอีก 2-3 ทีก็กลับบ่อเลย Butterfly เป็นตัวที่เล่นสนุกถ้าผู้เล่นดึงเอาความสามารถออกมาได้จะหาตัวจับได้ยากแน่นอ