รองอำมาตย์โท ทวี บุณยเกตุ เป็นบุตรของพระยารณชัยชาญยุทธ์ (ถนอม บุณยเกตุ) กับคุณหญิงทับทิม รณชัยชาญยุทธ์ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447 เวลา 13.20 น. ที่อำเภอกันตัง (ขณะนั้นเป็นอำเภอเมืองตรัง) จังหวัดตรัง โดยชื่อ ทวี มาจากการที่บิดาและมารดาสมรสกันในวันพระราชพิธีทวีธาภิเศกในรัชกาลที่ 5 เมื่อเสร็จพระราชพิธีแล้ว บุคคลที่เข้าร่วมพระราชพิธีจึงมางานสมรสต่อโดยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ติดเหรียญตราทวีธาภิเษกเข้าร่วมงานเลย

รองอำมาตย์โท ทวี บุณยเกตุ สมรสกับคุณหญิงอำภาศรี บุณยเกตุ มีบุตรด้วยกัน 2 คน ทั้งชายหญิง ได้แก่ วีระวัฒน์ บุณยเกตุ กับ ภัทรฤดี บุณยเกตุ และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 ณ ที่กรุงเทพมหานคร สิริอายุได้ 66 ปี 358 วัน

การศึกษา[แก้]

การรับราชการ[แก้]

รองอำมาตย์โท ทวี บุณยเกตุ จบการศึกษาวิชากสิกรรมเมื่อ พ.ศ. 2468 และรับราชการที่กระทรวงเกษตราธิการ หน้าที่การงานก้าวหน้าขึ้นจนเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมประมง เมื่อ พ.ศ. 2478 จากนั้นย้ายมาเป็นผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมื่อ พ.ศ. 2482 และขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เมื่อ พ.ศ. 2483

บทบาททางการเมือง[แก้]

คณะราษฎร[แก้]

ในระหว่างศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศส ทวี บุณยเกตุ มีโอกาสได้พบปะกับผู้นำความคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เช่น ปรีดี พนมยงค์, ร.ท. แปลก ขีตตะสังคะ, ร.ท. ประยูร ภมรมนตรี, ร.ท. ทัศนัย มิตรภักดี จึงได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกคนหนึ่งของคณะราษฎร โดยผ่านการรับรองของ แนบ พหลโยธิน ที่ได้ติดตามดูพฤติกรรมของทวีมาระยะหนึ่งแล้ว โดยแนบเป็นผู้ที่ชักชวน และทวีก็ได้ตอบรับทันที

เมื่อเดินทางกลับสู่ประเทศสยาม ทวีเข้ารับราชการเป็นพนักงานบำรุงพันธุ์สัตว์ กระทรวงเกษตราธิการ ได้ชักชวนบุคคลต่าง ๆ เข้าร่วมกับคณะราษฎรอีกไม่ต่ำกว่า 10 คน อาทิ จรูญ สืบแสง, วิลาศ โอสถานนท์, น.ต. สินธุ์ กมลนาวิน เป็นต้น และในการประชุมวางแผนนั้นก็ได้ใช้บ้านพักของหลายคนสลับกันไป รวมถึงบ้านของทวีด้วย ซึ่งในการประชุมวางแผนครั้งสุดท้ายที่บ้านของ พ.อ. พระยาทรงสุรเดช ทวีได้เข้าร่วมด้วย

ต่อมาทวีต้องย้ายไปรับราชการที่อำเภอท่าพระ (ปัจจุบันคือ อำเภอเมืองขอนแก่น) จังหวัดขอนแก่น จึงไม่มีโอกาสได้ติดต่อกับคนอื่น ๆ แต่ได้ขอให้แนบเป็นผู้ส่งข่าวความคืบหน้า จนกระทั่งแนบได้ส่งโทรเลขความว่า "ส่งเงินวันที่ 16 นี้" ซึ่งเป็นรหัสอันหมายถึงจะลงมือปฏิบัติการในวันที่ 16 มิถุนายน ทวีจึงถือโอกาสลาราชการมายังจังหวัดพระนคร แต่ว่าการปฏิบัติการก็ได้เลื่อนต่อไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน ทวีจึงขอลาต่ออีก 7 วัน

ในเช้าวันที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง ในเวลา 01.00 น. ทวีได้เริ่มออกปฏิบัติการโดยการขับรถตระเวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วพระนคร พร้อมกับจรูญ สืบแสง เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยของสถานที่ต่าง ๆ ตามแผน ก่อนจะไปสมทบกับกลุ่มของร้อยโทแปลก ทำการควบคุมค่ายทหารที่เขตบางซื่อ จนกระทั่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองดำเนินไปจนสำเร็จโดยดี อีกทั้งก่อนหน้านั้นทวียังเป็นผู้ที่ปลอมลายเซ็นของ นายพลตำรวจโท พระยาอธิกรณ์ประกาศ อธิบดีกรมตำรวจ เพื่อเซ็นลงในใบอนุญาตให้พกอาวุธปืน ซึ่งได้ใช้เป็นอาวุธสำคัญในปฏิบัติการของคณะราษฎรสายพลเรือนด้วย[4]