พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองปักกิ่งแต่อยู่ตอนเหนือของจัตุรัสเทียนอันเหมินเหตุที่เรียกพระราชวังต้องห้ามเพราะสมัยก่อนที่ประเทศจีนยังมีจักรพรรดิปกครองอยู่องค์จักรพรรดินางสนม ขันที ไปจนถึงข้าหลวงรับใช้ต่างก็ต้องอาศัยอยู่ในพระราชวังนี้ตลอดชีวิตและประชาชนก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปแม้แต่คนเดียวแม้แต่ข้าราชการชั้นสูงก็ต้องทำการขออนุญาตก่อนเสมอพระราชวังแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 720,000 ตารางเมตร มีอาคารมากถึง 800 อาคาร ปัจจุบันได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกด้วย
แลนด์มาร์คของประเทศจีนที่ใครไม่ได้มาเช็คอินก็ถือว่ายังมาไม่ถึงกำแพงเมืองจีนถูกเลือกให้เป็น1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางเพราะเป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่สร้างด้วยมนุษย์ล้วนๆนับล้านคนที่เกณฑ์มาสร้างกำแพงนี้มีความยาวมากกว่า 6,350 กิโลเมตร โดยเริ่มสร้างในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ เพื่อป้องกันการรุกรานของแคว้นอื่นๆ และฮ่องเต้องค์อื่นๆ ก็ได้ปรับปรุงซ่อมแซมมาเรื่อยๆ ปัจจุบันใช้เป็นกำแพงที่กั้นพรมแดนระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก
ภูเขาที่สวยงามแห่งนี้ อยู่ในมณฑลหูเป่ย เป็นแหล่งที่นักพรตมักจะมาตั้งสำนักเพื่อศึกษาหาวิชาความรู้ต่าง ๆ มาหลายยุคหลายสมัย เหตุที่ชื่อภูเขาบู๊ตึ้ง ก็เพราะสำนักวิชากังฟูบู๊ตึ้งถือกำเนิดขึ้นจากที่นี่นั่นเอง บริเวณรอบ ๆ เขาเต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นสีสันของดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือหิมะในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขา เพื่อดูวิวจากจุดชมวิว และสักการะเทพเจ้าอู่เจินบนยอดเขาเพื่อขอโชคลาภกันได้
ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่งซึ่งจัตุรัสแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์จีนอย่างมากมายจุดที่เด่นสุดของจัตุรัสนี้ก็คือภาพเหมือนสีน้ำมันขนาดใหญ่ของประธานาธิบดี เหมาเจ๋อตุง ผู้นำชาติจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นเอง ภายในมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมายไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์วีรชนพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และสิ่งที่ห้ามพลาดก็คือการชมการอัญเชิญธงชาติขึ้น-ลงจากยอดเสาของกองทหารจีน