ชื่อ ศร

เพศ ชาย

มีบทบาทในเรื่อง


อำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานีเด็กหนุ่มสองพี่น้องกำลังต่อยตีกับคู่อริแบบสองต่อห้า

 

เสียงกระทืบพื้นและเสียงหมัดกระแทกดังสนั่นกลางซอยเปลี่ยว เด็กหนุ่มสองคนยืนหอบหายใจกลางวงล้อมของกลุ่มคู่อริที่นอนกองกับพื้น

 

ศรโยนไม้หน้าสามลงพื้นแล้วปัดเหงื่อ "ศักดิ์ ฉันจัดการไป 3 คน ฉันเก่งกว่านายอีก"

 

ศักดิ์ยกมือลูบเลือดตรงมุมปากก่อนจะยิ้มบาง "ไออ้วนนั้นฉัดอัดมันจนมันไม่ไหวอยู่แล้ว นายแค่จัดการหมัดสุดท้าย ฉันต่างหากที่เก็บ 3 นาย จัดการเองไปแค่ 2 คนเอง"

 

ศรเบ้ปาก "คนที่ทำมันหลับก็คือฉัน ไม่เกี่ยวหรอกว่าใครจะอัดมันก่อน ฉันเก่งกว่านายยอมรับมาเถอะ"

 

ศักดิ์ส่ายหน้าเบา ๆ "เอาเถอะ จะเอาไงก็แล้วแต่นาย แค่ให้น้องชายชนะไปฉันทำได้อยู่แล้ว"

 

ศรหรี่ตา "พี่ว่าไงนะ ผมชนะเพราะฝีมือผมเองต่างหาก"

 

ศักดิ์หัวเราะในลำคอ "โอเค โอเค พี่ยอมก็ได้"

 

สองพี่น้องเดินบนเส้นทางชีวิตที่ต่างกัน แต่กลับผูกพันกันด้วยสายเลือดและความสูญเสีย

 

ศักดิ์ พี่ชายผู้สุขุม จริงจัง และอดทน

 

ศร น้องชายหัวร้อน ใจร้อน และยิ่งเติบโตยิ่งถลำลึก


หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตกะทันหันในอุบัติเหตุ ทั้งสองถูกเลี้ยงดูโดย ปู่ผู้แก่ชรา ที่แม้จะแข็งแรงในตอนแรก แต่เมื่อศักดิ์อายุได้ 14 ปี ปู่ก็ล้มป่วยเรื้อรังจนทำงานไม่ได้อีก

 

"เราจะไม่อดตาย พี่จะหาเงินมาให้ได้" คือคำสัญญาที่ศักดิ์ให้ไว้กับน้องชาย

 

ในยามว่างหลังเลิกเรียน

 

ศักดิ์ใช้เวลาฝึกมวย เงียบ ๆ คนเดียว

 

แต่ศรกลับใช้เวลานั้นในการ เสพยา และ สร้างปัญหา

 

แม้ทั้งสองจะต่างกันสุดขั้ว แต่เมื่อศรมีเรื่อง ศักดิ์ก็พร้อมพุ่งเข้าช่วยเสมอ ไม่ว่าศรจะเริ่มก่อนหรือไม่ พี่ชายคนนี้จะไม่มีวันทิ้งน้องไว้ลำพัง

 

ด้วยภาระทางบ้านและค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคู่จึงก้าวขาเข้าสู่โลกมืด เริ่มจากเป็น เด็กส่งยา ที่วิ่งส่งของให้พ่อค้าย่อย

 

ศักดิ์ไม่อยากให้ศรทำสิ่งนี้ แต่เขาเองก็รู้ดีว่า...ไม่มีทางเลือก “ถ้าการขายยานี้ช่วยให้ปู่ได้ยา และน้องชายมีข้าวกิน ฉันยอม” เขาบอกตัวเองแบบนั้น

 

จากเด็กส่งยากลายเป็นลูกน้องมือดี จากลูกน้องกลายเป็นผู้ควบคุมโซนเล็กๆ ของแก๊งตามาร

 

12 ปีหลังเข้าสู่วงการมืด ปู่ ผู้เป็นแสงสุดท้ายในชีวิตของสองพี่น้อง เสียชีวิตจากโรคชรา ทิ้งไว้เพียงบ้านเก่า โทรม และหัวใจที่โหวงเหวงของชายสองคนที่เติบโตในโลกที่ไม่มีใครสอนให้เป็นคนดี

 

ณ วัดเงียบสงบแห่งหนึ่ง

 

เสียงพระสวดก้องคลอเบา ๆ ขณะทั้งศักดิ์และศรยืนเคียงข้างกันในงานศพของปู่

 

จู่ ๆ เสียงตะโกน “ล้อมมันไว้” ดังขึ้น ตำรวจนับสิบพุ่งเข้าล้อมงานศพอย่างไร้ความปรานี คนร่วมงานกระเจิดกระเจิง

 

เจ้านายของพวกเขาหักหลัง มอบข้อมูลให้ตำรวจเพื่อแลกกับอิสรภาพของตัวเอง สองพี่น้องวิ่งหนีสุดชีวิตไปยังสวนต้นยางหลังวัด

 

แต่โชคร้าย ศรสะดุดล้ม หน้าคะมำลงบนพื้นดิน ตำรวจนายหนึ่งควบคุมตัวเขาไว้ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมจับกดกับพื้น

 

ศักดิ์หันกลับทันที ดวงตาแดงก่ำ เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่วินาทีเดียว “ปล่อยน้องกู” เขาตะโกน ก่อนจะพุ่งเข้าต่อสู้กับตำรวจคนนั้น

 

เสียงหมัด เสียงคราง ดังขึ้นสลับกับเสียงลมหายใจถี่ ๆ

 

เมื่อตำรวจชักปืนขึ้น

 

ศักดิ์คว้าปืนจากเอวตัวเองแล้วยิงสวนทันที

 

เสียงปืนกึกก้องในสวนยางหลังวัด

 

กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะตำรวจนานนั้น เลือดสาดบนพื้นหญ้า

 

และในเสี้ยววินาทีหลังจากนั้น ตำรวจอีกหลายสิบนายเข้ามาล้อมทั้งคู่


ศรถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ร่วมขบวนการค้ายา โทษจำคุก 5 ปี
แต่โชคดีที่ไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า

 

ศักดิ์ ในวัย 26 ปี โดนข้อหา ฆ่าเจ้าพนักงานโดยเจตนา ศาลตัดสินให้ จำคุกตลอดชีวิต

 

วันนั้นเขาไม่ได้ร้องไห้ ไม่มีน้ำตา ไม่มีคำขอโทษ เขาแค่นั่งอยู่ในรถคุมขังมองน้องชายของเขา

 

ในเรือนจำ ศักดิ์กลายเป็นนักโทษเงียบ เขาฝึกมวย อ่านหนังสือ ทำสมาธิ และเฝ้ารออิสระ

 

พฤติกรรมดี และ จิตสำนึกในการปรับปรุงตัวเอง ทำให้เขาได้รับลดโทษ เขาถูกปล่อยตัวในปีที่ 20

 

โลกภายนอกเปลี่ยนไปมาก

 

ก่อนหน้านี้ 15 ปี ศรหลังออกจากคุกมาก่อน ศรย้ายไปกรุงเทพ แต่แทนที่จะเปลี่ยนตัวเอง เขากลับเข้าสู่วงจรเดิม เป็นเด็กส่งยา เดินตามเส้นทางที่ทำลายชีวิตพวกเขามาตั้งแต่แรก

 

หลายปีต่อมาศรยิ่งเลวร้าย เขาพยายามข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่ง แต่โชคดีที่มีคนมาหยุดเขาไว้ เขาไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่พลเมืองดี แต่คือชายในเสื้อฮูดสีน้ำเงิน หน้ากาก LED ชื่อว่า PALMER46 ศาลเตี้ยผู้ลงทัณฑ์อาชญากร

 

คำตัดสินของเขาคือ “ความตาย” ศรถูกฆ่าทิ้งในคืนอันมืดมน

 

ศักดิ์หลังออกจากคุกแล้วรีบตามหาน้องชาย แต่สิ่งที่เขาพบคือ ข่าวลือเรื่อง PALMER46 ที่ฆ่าน้องเขา

 

เมื่อได้รู้ว่า PALMER46 คือคนที่ทำ แววตาของศักดิ์เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเปลวเพลิงแห่งความแค้น


ความสัมพันธ์