ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพของตนเองและครอบครัว
ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพของตนเองและครอบครัวสุขภาพของตนเองถือเป็นลักษณะและคุณภาพของสุขภาพเฉพาะตัวของบุคคล ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามวัย
วัยเด็ก
สุขภาพจะขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูที่ดีและเหมาะสม มีที่อยู่อาศัยที่ถูกสุขลักษณะ และได้รับความรัก ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ
วัยผู้ใหญ่
สุขภาพจะขึ้นอยู่กับการพึ่งตนเองเป็นหลัก เนื่องจากเป็นวัยที่มีสมรรถภาพทางกายและความคิดสูง
วัยสูงอายุ
สุขภาพจะเป็นช่วงที่อยู่ในระยะเสื่อม เนื่องจากเกิดความเสื่อมถอยของร่างกายและสมอง จึงต้องได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น
การที่บุคคลจะมีสุขภาพที่ดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่ หากพ่อแม่เอาใจใส่และเลี้ยงดูตามความเหมาะสมของพัฒนาการที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงวัย ก็จะส่งผลทำให้บุคคลมีสุขภาพที่ดีตลอดไป
แนวคิดสำคัญของการวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว
•เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม คือ การดูแลสุขภาพของบุคคลทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ สังคม และปัญญา รวมถึงความสัมพันธ์ทางด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น วิถีการดำเนินชีวิตความสัมพันธ์ทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
•เพื่อการพัฒนาสุขภาพเชิงรุก คือ ความสามารถที่จะชักชวนให้บุคคลภายในครอบครัวของตนเองร่วมกันดูแลสุขภาพ ร่วมกันคิด และร่วมกันผลักดันกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพในครอบครัวของตนเองให้เกิดขึ้น
•เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นรูปธรรม คือ การพัฒนากระบวนการในการดูแลสุขภาพทั้งของตนเองและบุคคลในครอบครัวให้เห็นผลอย่างชัดเจนตามช่วงวัยต่างๆ
•เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกภายในครอบครัวต่อการดูแลสุขภาพ คือ การสร้างสัมพันธภาพของบุคคลภายในครอบครัวที่จะช่วยกันดูแลและเรียนรู้การแก้ไขปัญหาสุขภาพด้านต่างๆ ของสมาชิกภายในครอบครัวร่วมกัน
•เพื่อการพัฒนาสุขภาพที่ยั่งยืน คือ การที่ครอบครัวได้เกิดการเรียนรู้ และความตระหนักตลอดจนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัวอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อการพัฒนาสุขภาพแบบองค์รวมที่ยั่งยืนในอนาคต
องค์ประกอบสำคัญ ของการวางแผนดูแลสุขภาพ
1.การมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ส่วนคือ ส่วนของบุคคล ครอบครัว ชุมชน และองค์กรภาครัฐหรือเอกชน โดยองค์ประกอบทั้ง 2 ส่วนนี้ จะต้องร่วมมือประสานสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาจึงจะทำให้บรรลุจุดมุ่งหมาย
2.มาตรการเพื่อส่งเสริมให้บุคคลมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
•มาตรการการศึกษา
:เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลครอบครัว ชุมชน มีความรู้ ความเข้าใจ และเกิดความตระหนักในการแก้ปัญหาสุขภาพร่วมกัน
•มาตรการการบริหารจัดการ
: เป็นการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย ทิศทางกระบวนการจัดการดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้ทุกคนได้มีแนวทางในการดำเนินการ
•มาตรการทางสังคม
: เป็นตัวกำหนดหรือควบคุมพฤติกรรมค่านิยม การรับรู้ ความเชื่อ ตลอดจนแบบแผนในการดำเนินชีวิตของบุคคลให้เป็นไปในวิถีทางที่ถูกต้องและเหมาะสม
•มาตรการทางกฎหมาย
: เป็นระเบียบข้อบังคับที่ภาครัฐเป็นผู้กำหนด เพื่อควบคุมหรือบังคับให้บุคคลปฏิบัติตามเพื่อความสงบเรียบร้อย
3.การวางแผนปฏิบัติพฤติกรรมเพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
•ระดับบุคคล
: เน้นให้เกิดการปฏิบัติตนตามแนวทางสุขบัญญัติแห่งชาติ
•ระดับครอบครัว
: สร้างครอบครัวที่อบอุ่น เน้นการสร้างสัมพันธภาพอันดีของสมาชิกในครอบครัว ดูแล สนับสนุน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
•ระดับชุมชน
: สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชนในการดำเนินการพัฒนาชุมชน เน้นการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง
4.การพัฒนาแบบองค์รวมอย่างยั่งยืน
ควรเน้นกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย สอดรับกับวิถีหรือแบบแผนการดำเนินชีวิตของบุคคล เช่น อาหารและโภชนาการ การผ่อนคลายความเครียด การเยียวยาทางด้านจิตใจการหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อสุขภาพ เป็นต้น
การวิเคราะห์เพื่อการวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว•การวิเคราะห์พฤติกรรม สุขภาพต่างๆ สามารถวิเคราะห์โดยใช้แนวคิดในการจำแนกปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ 3 กลุ่มปัจจัย
กลุ่มปัจจัยนำ
กลุ่มปัจจัยที่เกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อ เจตคติและค่านิยมของบุคคลที่มีต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสุขภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งเกิดขึ้นจากการเรียนรู้หรือประสบการณ์ที่ได้มาจากการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล
กลุ่มปัจจัยเอื้อ
กลุ่มปัจจัยที่เกิดขึ้นจากการที่บุคคลต่างๆ ได้รับบริการทั้งในส่วนที่เป็นอุปกรณ์ ตลอดจนสิ่งต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของพฤติกรรม ว่ามีอยู่อย่างเพียงพอหรือไม่ และมีโอกาสใช้บริการหรืออุปกรณ์ รวมทั้งสิ่งต่างๆที่มีอยู่ และจัดหาไว้ให้ได้อย่างทั่วถึงเพียงใด
กลุ่มปัจจัยเสริม
กลุ่มปัจจัยที่มีความสำคัญต่อพฤติกรรมทางสุขภาพนอกเหนือจาก 2 กลุ่มแรก โดยกลุ่มปัจจัยนี้ ได้แก่ปัจจัยจากการกระทำของบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานทั้งในทางตรงและทางอ้อม
วิธีการวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว
การประเมินสภาวะสุขภาพของตนเองและครอบครัว
อาจใช้วิธีการสังเกตสุขภาพของตนเองและของสมาชิกภายในครอบครัว ว่าเป็นอย่างไร แข็งแรง สมบูรณ์ดีหรือไม่ โดยอาจจะพิจารณาจากภาวะโภชนาการ ซึ่งสามารถประเมิน ได้จากค่าดัชนีมวลกาย (BMI = Body Mass Index) ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงสภาวะสุขภาพเบื้องต้นว่ามีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยหรือไม่ แต่การประเมินสุขภาพด้วยตนเองนั้น อาจจะไม่ครอบคลุมหรือถูกต้องมากนัก จึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยการประเมินจากบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเป็นสำคัญ
นักเรียนและสมาชิกในครอบครัวควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
•รายละเอียดกระบวนการตรวจร่างกาย
3. การตรวจอนามัยโรงเรียน
การตรวจสุขภาพด้วยตนเองเพื่อการมีสุขภาพอนามัยที่ดี
ท่าที่ 1 ยื่นมือไปข้างหน้าให้สุดแขนทั้งสองข้าง คว่ำมือกางนิ้ว
ท่าที่ 2 เหมือนท่าที่ 1 แต่หงายมือ กางนิ้วออก
สังเกตความสะอาด ความพิการ ความผิดปกติแผล ผื่น ตุ่มต่างๆ บริเวณ แขน มือ นิ้วมือ ง่ามมือ เล็บ
สังเกตสีของฝ่ามือว่าซีดหรือไม่ ส่วนอื่นๆ ให้ดูเหมือนท่าที่ 1
ท่าที่ 3 นิ้วแตะเปลือกตาล่างเบาๆ ดึงลง กลอกตาขึ้นบนและลงล่าง แล้วกลอกไปทางซ้ายและขวา
ท่าที่ 4 ปลดกระดุมเสื้อออก 1-2 เม็ด หันหน้าไปทางซ้าย
และขวาเล็กน้อยให้เห็นรอบๆบริเวณคอด้านข้างด้านหน้าและด้านหลัง
สังเกตลักษณะขอบตา ขนตา เยื่อบุเปลือกตา ลูกตา แก้วตา
ม่านตา หลังแขน และข้อศอก
สังเกตความสะอาด ความผิดปกติของผิวหนังบริเวณคอและ
หน้าอก สังเกตต่อมน้ำเหลืองและต่อมไทรอยด์ที่คอว่าโตหรือไม่
ท่าที่ 5 นักเรียนหญิงใช้มือขวาเปิดผมแล้วหันหน้าไปทางซ้าย นักเรียนชายหันหน้าไปทางซ้าย จากนั้นให้นักเรียนหญิงใช้มือซ้ายเปิดผม แล้วหันหน้าไปทางขวา นักเรียนชายหันหน้าไปทางขวา
ท่าที่ 6 กัดฟัน และยิ้มกว้างให้เห็นเหงือกเต็มที่
สังเกตความสะอาดของผม ลักษณะของเส้นผมว่าขาด แตก แห้ง มีเหา มีแผลหรือผมร่วงหรือไม่ สังเกตใบหู ผิวหนังความสะอาด ในช่องหู มีของเหลวไหลออกมาหรือไม่
สังเกตสีริมฝีปาก ซีด แห้ง แตก แผลที่มุมปาก ตรวจหาฟันผุ
บริเวณฟันหน้า เหงือกและรอยต่อระหว่างเหงือกกับฟัน ให้สังเกตผิวหนังทั่วบริเวณหน้าด้วย
ท่าที่ 7 อ้าปากกว้าง สังเกตฟันผุและจำนวนซี่ที่ผุ แลบลิ้น
ให้ยาวที่สุด เงยหน้าเล็กน้อยและร้อง “อา”
ท่าที่ 8 นักเรียนหญิงให้แยกเท้าทั้งสองห่างกัน 1 ฟุต มือทั้งสองจับกระโปรง ดึงขึ้นเหนือเข่า ส่วนนักเรียนชายแยกเท้าออกจากกัน จากนั้นให้นักเรียนหญิงและชาย ซึ่งอยู่ในท่าที่ 8 หันหลังกลับและเดินช้าๆ ไปข้างหน้า 4-5 ก้าว แล้วเดินกลับมาหาผู้ตรวจ
สังเกตลิ้นเพื่อดูความผิดปกติ เช่น ซีด ฝ้าขาวแตก อักเสบ ดูจมูกภายนอกและในรูจมูกว่า ดูเยื่อบุปาก เหงือก ฟันส่วนใน เพดานช่องคอ ต่อมทอนซิล จากนั้นให้หุบปากกลืนน้ำลายเพื่อตรวจดูความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
สังเกตเข่า หน้าแข้ง น่อง ลักษณะกระดูก ผิวหนัง และท่าทางการเดิน
สังเกตลิ้นเพื่อดูความผิดปกติ เช่น ซีด ฝ้าขาวแตก อักเสบ ดูจมูกภายนอกและในรูจมูกว่า ดูเยื่อบุปาก เหงือก ฟันส่วนใน เพดานช่องคอ ต่อมทอนซิล จากนั้นให้หุบปากกลืนน้ำลายเพื่อตรวจดูความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
สังเกตเข่า หน้าแข้ง น่อง ลักษณะกระดูก ผิวหนัง และท่าทางการเดิน
การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการประเมิน
•จากการประเมินสภาวะสุขภาพทั้งหมด ทำให้ได้รับทราบข้อมูลทางสุขภาพของตนเองรวมถึงสมาชิกในครอบครัว ซึ่งจะต้องนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์ว่ามีปัญหาสุขภาพหรือไม่ ปัญหานั้นมีลักษณะเป็นเช่นไร และมีแนวทางหรือวิธีการใดบ้างในการแก้ไขปัญหา เพื่อจะได้วางแผนในการแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง
•แนวทางในการแก้ปัญหาสุขภาพทั้งของตนเองและสมาชิกในครอบครัวจะแตกต่างกันออกไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อพบหรือวิเคราะห์ได้แล้วว่าปัญหาเกิดจากอะไร ก็จะสามารถที่จะแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ได้ตรงประเด็น มีความถูกต้อง และสามารถดำเนินการแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
การวางแผนหรือกำหนดวิธีการเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพที่ปรากฏ
•การดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพนั้น กลวิธีที่เหมาะสมที่ควรนำมาใช้ในการวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัวอาจต้องนำเทคนิควิธีการควบคุมพฤติกรรมมาปรับใช้ด้วย ประกอบด้วย
การเตือนความจำ
เป็นวิธีการสร้างแรงกระตุ้นให้บุคคลปฏิบัติตนทางด้านพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การบอกเตือน จดหมายเตือน โทรศัพท์เตือน ส่งข้อความเตือน
การให้คำมั่นสัญญา
เป็นการให้คำมั่นสัญญาระหว่างบุคคลกับสมาชิกภายในครอบครัว โดยบุคคลที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพจะต้องวางเป้าหมายการปฏิบัติเอง รวมถึงลงมือปฏิบัติและควบคุมพฤติกรรมของตนเองให้เป็นไปตามแผน
การนำสู่พฤติกรรมใหม่
เป็นวิธีการวางแนวทางพฤติกรรมที่มุ่งให้บุคคลปฏิบัติให้สอดคล้องกับนิสัย ขนบธรรมเนียมประเพณี และการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากทำเป็นประจำก็จะทำให้เกิดความเคยชิน จนกลายเป็นนิสัยได้ในที่สุด
การวางกรอบพฤติกรรม
เป็นการให้รางวัล เมื่อบุคคลนั้นสามารถปฏิบัติพฤติกรรมที่พึงประสงค์ได้ เช่น การให้กำลังใจ การชมเชยเมื่อสมาชิกในครอบครัวออกกำลังกายตามแผนที่กำหนด หรือเมื่อสามารถควบคุมน้ำหนักได้ตามแผนที่วางไว้
การควบคุมตนเอง
เป็นวิธีการที่บุคคลศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของตนเอง เพื่อตั้งเป็นเกณฑ์ให้กระทำหรืองดเว้นการกระทำพฤติกรรมของตนเอง