🙂 ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เรื่อง สารบริสุทธิ์ สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
🙂 ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เรื่อง สารบริสุทธิ์ สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
🙂 1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้การเรียนรู้
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ที่ผ่านมา ผู้วิจัยมีประสบการณ์และบทเรียนในการจัดการเรียนการสอนในช่วงวิกฤต โดยปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีเข้าร่วมด้วย เพื่อส่งเสริมศักยภาพให้ผู้เรียนมีความรู้รอบด้าน อีกทั้งยังสามารถตอบสนองต่อการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ผู้เรียนสามารถทบทวนบทเรียนซ้ำ ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ที่คงทน โดยใช้ Google Education ในการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการคิด การทำงาน การสืบค้นข้อมูล และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และใช้บทเรียนออนไลน์ใน Google Classroom ที่สร้างขึ้นเพื่อจัดการเรียนการสอนออนไลน์ โดยการอัพโหลดเอกสารประกอบการสอนในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ใบความรู้ ใบงานแบบทดสอบ รวมทั้งสร้างห้องเรียนออนไลน์เฉพาะกลุ่ม เพื่อสะดวกในการสื่อสารและนำเสนอผลงาน ในลักษณะของการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยสื่อการสอนที่หลากหลาย ดังที่ กุลธิดา ทุ่งค้าใน (2564: 34) ได้กล่าวว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่สนับสนุนการมีปฏิสัมพันธ์กันของผู้เรียน โดยใช้บทเรียนที่มีความยืดหยุ่น เน้นการสืบค้นให้การเรียนรู้ที่มีการส่งเสริมสนับสนุนผู้เรียน โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ คือ การเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอนหลากหลายวิธี โดยคำนึงถึงผู้เรียน สภาพแวดล้อม เนื้อหาสถานการณ์ เพื่อตอบสนองการเรียนรู้และความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยสามารถจัดการเรียนการสอนทั้งภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยมีการนำเทคโนโลยีทางการศึกษาแบบออนไลน์และออฟไลน์มาเป็นส่วนประกอบ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สูงสุด เกิดทักษะ และเกิดการเรียนรู้ที่ทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผนการศึกษาที่ต้องการให้คนไทยเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันเวทีโลก
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผู้วิจัยเกิดแนวคิดที่จะนำมาพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียน จึงได้ศึกษาทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ และการเรียนรู้แบบผสมผสาน นำมาพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งจะได้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน อันจะส่งต่อการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อการศึกษาในระดับสูง และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและชุมชนต่อไป
🙂2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุ💐
1. เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น โดยวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา มาตรฐานและตัวชี้วัด จัดทำเป็นจุดประสงค์การเรียนรู้ ลงสู่ขั้นตอนการเขียนขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
2. ทำเอกสารประกอบแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง สารบริสุทธิ์ วิชาวิทยาศาสตร์ รหัส ว21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 แผน 20ชั่วโมง
3. สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยผ่านกระบวนการขั้นตอนการวัดและประเมินผล โดยผู้เชี่ยวชาญ
4. สร้างแบบวัดสังเกตเชิงพฤติกรรม แบบประเมินชิ้นงาน แบบประเมินการทำงานเป็นทีม แบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อใช้ประกอบในการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน
รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
(SCIENCE Model) 7 ขั้นตอนประกอบด้วย
ขั้นที่ 1 S = Show & Share หมายถึง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นขั้นที่ผู้เรียนได้รับแรงจูงใจในการเรียนรู้ ด้วยกิจกรรมแชร์เรื่องราวหรือใกล้ตัวเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน หรือให้เล่นเกมออนไลน์ หรือให้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมสั้น
ขั้นที่ 2 C = Check หมายถึง ขั้นการตรวจสอบความรู้พื้นฐานของผู้เรียน และทบทวนความรู้เดิมจากที่เคยเรียนมาแล้ว เพื่อนำเข้าสู่เนื้อหาใหม่ รับรู้จุดมุ่งหมาย
ขั้นที่ 3 I = Information หมายถึง ขั้นสืบค้นข้อมูลความรู้ในใบความรู้ ในเอกสารประกอบการสอน สื่อต่าง ๆ หรือเว็บไซต์ และแหล่งเรียนรู้ที่ครูแนะนำไว้ เพื่อค้นหาคำตอบอย่างมีวิจารณญาณ เชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิม
ขั้นที่ 4 E = Experiment หมายถึง ขั้นที่ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมโดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม อธิบายเพิ่มเติมความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและกระบวนการกลุ่ม
ขั้นที่ 5 N = New Knowledge หมายถึง ขั้นสรุปความรู้ใหม่ เป็นขั้นตอนที่ผู้เรียนรวบรวมความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน แล้วช่วยกันสังเคราะห์ความรู้ด้วยการอภิปรายแสดงความคิดอย่างมีวิจารณญาณร่วมกัน แล้วสรุปสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ขั้นที่ 6 C = Communication หมายถึง ขั้นสื่อสารนำเสนอความรู้ เป็นขั้นที่ผู้เรียนนำเสนอความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ฝึกทักษะการสื่อสาร
กล้าแสดงออก และมีความเชื่อมั่นในการสื่อสารนำเสนอความรู้ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนห้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์
ขั้นที่ 7 E = Evaluation หมายถึง ขั้นการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ ผู้เรียนร่วมกันสรุปความรู้จากเรื่องที่เรียนร่วมกัน โดยครูเป็นผู้ช่วยสรุปเพิ่มเติม ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
🙂 ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง สารบริสุทธิ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ว21101 ประกอบด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
2. ผู้สอนดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (SCIENCE Model) เรื่องสารบริสุทธิ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเดื่อศรีไพรวัลย์ จำนวน 20 ชั่วโมง ท้ายแผนทุกแผนจะมีการวัดประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบหลังเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินชิ้นงาน แบบประเมินการทำงานกลุ่ม เพื่อใช้เป็นคะแนนเก็บระหว่างเรียน
3. เมื่อเรียนจบหน่วยการเรียนรู้ เรื่องสารบริสุทธิ์ ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเปรียบเทียบผลการจัดการเรียนรู้ และผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์และทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณสูงขึ้นจากเดิมหรือไม่ เป็นไปตามสมติฐานที่ตั้งไว้หรือไม่ เพื่อนำไปสู่การรายผลการจัดการเรียนรู้ต่อไป