ชื่อ-นามสกุล นางสาวพัทยา ทาเกิด
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
ตำแหน่งเลขที่ 7285
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองโค้ง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่งครู
วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์ดังนี้
- กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมสร้างสรรค์ จำนวน 3 ชั่วโมง 20 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมเสรี/เล่นตามมุม จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมเสริมประสบการณ์ จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมกลางแจ้ง จำนวน 3 ชั่วโมง 20 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที /สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จํานวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
- คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เขียนแผนการจัดประสบการณ์ออกแบบการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำเครื่องมือวัดและประเมินผล/ประเมินพัฒนาการเด็ก จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำสื่อการสอนและนวัตกรรม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนา การจัดการเรียนรู้ (PLC)
จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
- หัวหน้าวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ระดับการศึกษาปฐมวัย จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานประกับคุณภาพการศึกษา จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- ครูที่ปรึกษา/ครูประจำชั้น/งานดูแลช่วยเหลือนักเรียนชั้นอนุบาล 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานตรวจใบงาน / การบ้านนักเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เจ้าหน้าที่การเงิน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมง 50 นาที/สัปดาห์ดังนี้
- กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมสร้างสรรค์ จำนวน 3 ชั่วโมง 20 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมเสรี/เล่นตามมุม จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมเสริมประสบการณ์ จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมกลางแจ้ง จำนวน 3 ชั่วโมง 20 นาที /สัปดาห์
- กิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที /สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จํานวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
- คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เขียนแผนการจัดประสบการณ์ออกแบบการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำเครื่องมือวัดและประเมินผล/ประเมินพัฒนาการเด็ก จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำสื่อการสอนและนวัตกรรม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนา การจัดการเรียนรู้ (PLC)
จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
- หัวหน้าวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ระดับการศึกษาปฐมวัย จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานประกับคุณภาพการศึกษา จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- ครูที่ปรึกษา/ครูประจำชั้น/งานดูแลช่วยเหลือนักเรียนชั้นอนุบาล 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานตรวจใบงาน / การบ้านนักเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เจ้าหน้าที่การเงิน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย จำนวน 1 ชั่วโมง /สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน
ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ได้กำหนดหลักสูตรสถานศึกษาสำหรับเด็กอายุ 3-5 ปี ที่มีสาระการ เรียนรู้ที่เกี่ยวกับตัวเด็ก บุคคล และสถานที่แวดล้อมรอบตัวเด็ก บุคคลสำคัญ และธรรมชาติ รอบตัว สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ซึ่งเด็กควรจะได้รู้จักสี ขนาด รูปทรง น้ำหนัก ผิวสัมผัสของสิ่ง ต่างๆที่เด็กได้สัมผัสและเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน
จึงได้จัดประสบการณ์ในเรื่องขนาด รูปร่าง รูปทรง ถือเป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งในการพัฒนาทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ที่สถานศึกษา ได้จัดประสบการณ์ทางด้านคณิตศาสตร์ให้กับเด็กมี การนับ การจัดประเภท การเปรียบเทียบ การเรียงลำดับ และรูปทรง
จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนการสอนพบว่า การจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนโดยใช้เกมการศึกษาเป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนสูงสามารถ ดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้และมีความสำคัญในการช่วยพัฒนาความรู้ความจำของผู้เรียน อย่างที่เรียกว่า “Play to Leaning” หรือ “การเรียนรู้ขณะเล่น” การเล่นเกมทำให้ผู้เรียนเกิดการ เรียนรู้ขณะหรือหลังเล่นเกม เรียนและสนุกไปด้วยพร้อมกัน (นุชจรี สละริม, 2012) กิจกรรมเกม การศึกษาช่วยฝึกการสังเกตและคิดหาเหตุผล ฝึกการแยกประเภทและจัดหมวดหมู่ ในการเล่นเกม การศึกษาจึงเป็นวิธีอย่างหนึ่งที่สามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และยังช่วยพัฒนาทักษะ ต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมกระบวนการในการท างานและการอยู่ร่วมกันในสังคม เกมการศึกษา จึงเป็น อีกวิธีการหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้ดีซึ่งเทคนิคการจัดการเรียนรู้โดยใช้ เกมการศึกษา (ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์, 2559) กล่าวว่า เกมเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ในการสอนได้เกมส่งผลให้เกิดความกระตือรือร้น และนักเรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ ก่อให้เกิดแรงจูงใจสูง ส่งเสริมให้นักเรียนได้ทำกิจกรรม ร่วมกัน และมีกิจกรรมการติดต่อสื่อสารร่วมกันซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนตัดสินใจ และ พัฒนาเกมให้ผลหรือข้อมูลย้อนกลับทันที สนับสนุนให้นักเรียนมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น จึงได้ทำเกมเตรียมความพร้อมด้านคณิตศาสตร์ การพัฒนาเกมพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ เรื่อง “รูปทรง” “Play to Leaning” สำหรับเด็กปฐมวัย
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2560 และหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย เพื่อออกแบบกิจกรรมการใช้เกมการศึกษาตามหน่วยการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และตัวบ่งชี้
2. ศึกษาการจัดประสบการณ์โดยการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาพัฒนาเด็กปฐมวัยด้านทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์การนับ การจัดประเภท การเปรียบเทียบ การเรียงลำดับ และรูปทรง งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
3. ใช้กระบวนการ Plc เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจัดทำหน่วยการจัดประสบการณ์และแผนการจัดประสบการณ์ โดยการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ เพื่อนำสู่การจัดประสบการณ์ในชั้นเรียน
4. นำสื่อไปทดลองใช้และนำผลที่ได้มาปรับปรุง พัฒนาสื่อให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และนักเรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง
5. ดำเนินการแผนการจัดประสบการณ์ โดยการจัดกิจกรรมเกมพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ เรื่อง “รูปทรง” “Play to Leaning” สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3
6. นำผลสะท้อนในการจัดกิจกรรมบันทึกข้อมูลลงระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้เพื่อประเมินการเรียนรู้ นำข้อมูลที่ได้พัฒนาการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
3.1.1 เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองโค้ง ร้อยละ 100 ได้รับการจัดกิจกรรมเกมเตรียมความพร้อมด้านคณิตศาสตร์ เรื่อง “รูปทรง” สำหรับเด็กปฐมวัย
3.1.2 เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองโค้ง ร้อยละ 80 รู้จักรูปทรงต่างๆ และมีเจตคติที่ต่อการเรียนรู้ตรงตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และตัวบ่งชี้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2560 สูงขึ้น
3.2 เชิงคุณภาพ
เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองโค้ง ภายหลังได้รับการจัดกิจกรรมเกมพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ เรื่อง “รูปร่าง รูปทรง” “Play to Leaning” สำหรับเด็กปฐมวัย ที่สูงขึ้น และส่งผลต่อพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สูงขึ้น เป็นไปตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และตัวบ่งชี้ในหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยกำหนดแสดงให้เห็นกิจกรรมเกมการศึกษาเป็นสื่อนวัตกรรมพัฒนาเด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ผ่านการเล่นซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาเด็กปฐมวัยได้ดียิ่งขึ้น
ลงชื่อ นางสาวพัทยา ทาเกิด
(นางสาวพัทยา ทาเกิด)
ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
1 กันยายน พ.ศ. 2567