เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวกาญจนบุรีที่มีประวัติยาวนานกว่า 500 ปีแล้ว. มักจะเล่นกันในเทศกาลตรุษสงกรานต์และปีใหม่. ผู้เล่นจะยืนล้อมวงกัน ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะร้องนำ ร้องแก้ และลูกคู่ พร้อมกับปรบมือเป็นจังหวะ. ในขณะที่ร้องแก้ ผู้เล่นจะออกมาร่ายรำทีละคู่สลับกันไป
https://www.thaihealth.or.th/%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89/
เป็นเกมที่เด็ก ๆ ชอบเล่น. เด็ก ๆ จะวางมือข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างไว้บนพื้น คนใดคนหนึ่งจะร้องเพลง "จ้ำจี้" เมื่อเพลงจบแล้ว ผู้ที่ถูกนิ้วไปจะเป็นผู้ที่ต้องนับมือออกมา. ผู้ที่นำมือออกมาได้หมดก่อนจะเป็นผู้ชนะ
https://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/generality/10000-6153.html
ผู้เล่นมีจำนวน ๘-๑o คน แบ่งผู้เล่นเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายที่ ๑ จะต้องเป็น “พ่องู” ๑ คน ฝ่ายที่ ๒ มี “แม่งู” ๑ คน ที่เหลือเป็น “ลูกงู” ซึ่งผู้เล่นเป็นลูกงูจะต้องเกาะเอวผู้เล่นเป็นแม่งู จากนั้น พ่องูเริ่มถามว่า “แม่งูเอ๋ย” แม่งูและลูกงูก็ร้องตอบว่า “เอ๋ย” พอช่วงท้ายพ่องูถามว่า “กินหัว กินหาง” แม่งูตอบว่า “กินกลางตลอดตัว” ผู้เป็นพ่องูจะไล่จับลูกงูจากปลายแถว ฝ่ายแม่งูจะต้องกางมือเพื่อป้องกันลูก หากลูกงูตัวใดถูกพ่องูดึงจนหลุดออกจากแถวไป ก็จะต้องออกจากการเล่น ผู้เล่นที่เหลือก็เริ่มเล่นกันอีกจนกว่าลูกงูจะถูกจับจนหมด
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%87
1. ผู้เล่นที่ไม่ใช่ผู้ซ่อนผ้านั่งล้อมกันเป็นวงกลมและเว้นระยะห่างกันพอสมควร
2. ผู้เล่นที่นั่งอยู่ในวงต้องนั่งอยู่เฉยๆ โดยเอามือมาวางไว้บนตักและไม่สามารถหันไปมามองข้างหลังหรือมองผู้ที่ถือผ้าอยู่ ที่สำคัญไม่สามารถบอกผู้ที่ถูกซ่อนผ้าว่ามีผ้าซ่อนไว้อยู่ข้างหลัง
3.ผู้ที่ถือผ้านั้นจะต้องเดินไปรอบๆวง และผู้ที่นั่งจะต้องร้องเพลงมอญซ่อนผ้าที่มีเนื้อร้องว่า "มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้นู่นไว้นี้ ฉันจะตีก้นเธอ"
4.จากนั้นผู้ซ่อนผ้าจะต้องแอบซ๋อนผ้าไว้ข้างหลังผู้เล่นที่นั่งอยู่คนใดคนหนึ่ง และให้เดินวนรอบวงอีกหนึ่งรอบ เพื่อแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
5.ผู้ที่ถูกซ่อนผ้าจะต้องลุกขึ้นมาวิ่งไล่ตีผู้ซ่อนผ้าโดยการวิ่งไล่รอบๆวงให้ทันเวลา ส่วนผู้ซ่อนผ้าจะต้องวิ่งมานั่งรวมวงในที่ที่มีที่ว่าง
5. หากผู้ที่ถูกซ่อนผ้าไม่สามารถไล่ผู้ซ่อนผ้าทัน ผู้นั้นจะต้องกลายเป็นผู้ซ่อนผ้าเอง
https://www.silpa-mag.com/culture/article_10230
“ผู้หา” ต้องปิดตา และให้เพื่อน ๆ ไปหลบหาที่ซ่อน โดยอาจจะนับเลขก็ได้ ส่วน “ผู้ซ่อน” ในสมัยก่อนจะต้องร้องว่า “ปิดตาไม่มิด สาระพิษเข้าตา พ่อแม่ทำนาได้ข้าวเม็ดเดียว” แล้วแยกย้ายกันไปซ่อน เมื่อ “ผู้หา” คาดคะเนว่าทุกคนซ่อนตัวหมดแล้ว จะร้องถามว่า “เอาหรือยัง” ซึ่งเมื่อ “ผู้ซ่อน” ตอบว่า “เอาละ” “ผู้หา” ก็จะเปิดตาและหาเพื่อน ๆ ตามจุดต่าง ๆ เมื่อหาพบจะพูดว่า “โป้ง..(ตามด้วยชื่อผู้ที่พบ)” ซึ่งสามารถ “โป้ง” คนที่เห็นในระยะไกลได้จากนั้น “ผู้หา” จะหาไปเรื่อย ๆ จนครบ ผู้ที่ถูกหาพบคนแรกจะต้องมาเปลี่ยนมาเป็น “ผู้หา” แทน
https://www.sanook.com/women/246681/
รอบแรก กรรมการรับสมัครเรือจำนวน ๑๖ ลำ จับสลากแบ่งสายออกเป็น ๔ สาย แข่งขันแบบพบกันหมดในสาย เปลี่ยนลู่น้ำ นำเรือที่ได้คะแนนที่ ๑-๒ ของแต่ละสายไปจับสลากแบ่งออกเป็น ๒ สาย (สาย ก - ข) เพื่อแข่งขันในรอบที่ ๒รอบที่สอง ดำเนินการแข่งขันเหมือนรอบแรก เรือที่มีคะแนนที่ ๑ - ๒ มีสิทธิ์เข้าแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ
รอบรองชนะเลิศ จัดแข่งขันดังนี้
คู่ที่ ๑ เรือชนะที่ ๑ สาย ก. พบกับเรือที่ ๒ สาย ข.
คู่ที่ ๒ เรือชนะที่ ๑ สาย ข. พบกับเรือที่ ๒ สาย ก.
การแข่งขันในแต่ละคู่เปลี่ยนทางน้ำมีผลแพ้ - ชนะ ๒ ใน ๓ เที่ยว เพื่อหาเรือไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ
รอบชิงชนะเลิศ จัดแข่งขันดังนี้
- นำเรือที่ชนะของแต่ละคู่ของรอบรองชนะเลิศมาแข่งขันชิงที่ ๑ และ ๒
- นำเรือที่แพ้ของแต่ละคู่ของรอบรองชนะเลิศมาแข่งขันชิงที่ ๓ และ ๔
- แพ้-ชนะ ๒ ใน ๓ เที่ยว
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7
ว่าวโดยทั่วไปมีโครงสร้างประกอบด้วยไม้ไผ่สีสุก นำมาผ่าแล้วเหลา ให้ได้ตามที่ต้องการแล้วนำมาประกอบกันให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ผูกติดกันด้วยเชือกโยงยึดกัน เป็นโครงสร้างและปิดด้วยกระดาษชนิดบางเหนียว เช่น กระดาษสาและตกแต่งลวดลายด้วยจุด หรือดอกดวงเพื่อปิดยึดกระดาษกับเชือกให้แน่นว่าว
https://moszajahotmail.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5/
เล่นได้ทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ตั้งแต่ 2-4 คนขึ้นไป อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นคือ ก้อนกรวดกลมๆ 5 ก้อน หรืออาจใช้สิ่งของอื่นๆ ที่มีลักษณะกลมๆ เล็กๆ แทนได้ เช่น ลูกแก้ว หรือลูกหิน วิธีการเล่นมีหลายแบบ แต่หลักๆ คือการโยนก้อนหินขึ้นไปแล้วเก็บก้อนหินทีละก้อน หรือเก็บทีละหลายๆ ก้อน พร้อมกับรับก้อนหินที่โยนขึ้นไปไม่ให้ตก https://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/literature/10000-4489.html
รีรีข้าวสาร การเล่นเป็นกลุ่มผู้เล่นสองคนมีหน้าที่ทำสุ้มด้วยการใช้มือทั้วสองของแต่ละคนยึดกันไว้แล้วยกให้สูง ให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ลอดผ่านซุ้มไป ขณะเดียวกันนั้นผู้เล่นทำซุ้มจะร้องว่า "รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน พานเอาคนข้างหลังไว้" แล้วรีบเอามือกั้นคนหลังไว้ให้ได้ https://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/generality/10000-6151.html
เป็นการวิ่งหลบหลีกเส้นที่ขีดเป็นตาราง ผู้เล่นจะแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งยืนประจำเส้น อีกฝ่ายจะวิ่งผ่านไปมาโดยไม่ให้ถูกแตะ https://activekidsthailand.com/portfolio/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%81/
ศิลปะการแสดงประจำท้องถิ่นอย่างหนึ่งของภาคใต้ เป็นการเล่าเรื่องราวที่ผูกร้อยเป็นนิยาย ดำเนินเรื่องด้วยบทร้อยกรองที่ขับร้องเป็นสำเนียงท้องถิ่น
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87
ซึ่งเป็นการแข่งขันการตีกลองคู่ด้วยไม้ค้อนสองมือ กลองลูกหนึ่งจะหนักมาก ใช้คนหาม 2 คน สนามแข่งขันส่วนใหญ่อยู่ในวัด ตัดสินโดยการฟังเสียงกังวานที่ดังก้องสลับกัน ประกอบด้วยท่าตีที่สวยงาม เจ้าของกลองมักจะเป็นวัดในแต่ละหมู่บ้านที่สร้างกลองชนิดนี้ไว้ นิยมเล่นในเทศกาลเดือนหก จนถึงเข้าพรรษา https://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/?p=3011
เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการร่ายรำหมู่ ทั้งหมู่หญิงล้วน ชายล้วน และผสมทั้งชายหญิง เซิ้งเป็นคู่ ตั้งแต่ 3-5 คู่ เครื่องดนตรีประกอบการเล่นได้แก่ แกร๊ป โหม่ง กลองแตะ และกลองยาว ลีลาของการเซิ้งต้องกระฉับกระเฉง แคล่วคล่องว่องไว ทั้งนี้เพื่อมุ่งความสนุกสนานเพลิดเพลิน และผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการตรากตรำทำงาน https://sawlanla.wordpress.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87/
เกมที่แทบทุกคนรู้จักก็คือการขว้างคอน (หรือการขว้างคอน) ของกลุ่มชาติพันธุ์ไทย คนไทยในไลโจวเฉลิมฉลองปีใหม่ตามประเพณีของพวกเขาในช่วงเวลาเดียวกับวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติของทั้งประเทศ เมื่อมาถึงหมู่บ้านวังเพียว (ตำบลม่งโซ อำเภอฟองโถ) ซึ่งถือเป็น "แหล่งกำเนิด" ของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยผิวขาวในไลโจว นอกจากจะได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองและชมการเต้นเชออันมีจังหวะของคณะศิลปะประจำหมู่บ้านแล้ว นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการขว้างคอนซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านที่มีมายาวนานและมีความหมายอีกด้วย
https://www.twinathletics.com/content/28240/%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%99