ค่าปรับที่นำมาให้ดูเป็นแค่การประมาณการณ์เท่านั้น โดยแยกตามประเภทไว้ดังนี้
1.เสาไฟฟ้า ต้นละประมาณ 50,000 - 300,000 บาท
เสาไฟ้าถือเป็นทรัพย์สินของหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรการไฟฟ้าที่ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่โดยจะมีทั้งการไฟฟ้านครหลวงหรือส่วนภูมิภาค หากเกิดการเสียหายจากอุบัติเหตุ จะต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยจะดูจากความสูงของเสา และประเภทกำลังไฟ เช่น เสาไฟฟ้าแรงสูง เสาไฟฟ้าแรงกลาง และเสาไฟฟ้าแรงต่ำ สายไฟ หม้อแปลง หลอดไฟ รวมถึงค่าแรงที่จะต้องรื้อถอน และติดตั้งใหม่ จะมีราคาประมาณ 50,000-150,000 หรือถ้าเป็นเสาไฟไฮแมส หรือ เสาสูง (HIGH MAST POLE) ที่มีขนาดสูงตั้งแต่ 15-30 เมตร จะมีราคาสูงถึง 10,000- 300,000 บาท ทั้งนี้ถ้าหากเสาไฟฟ้าดังกล่าวพ่วงสายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตจากเอกชนด้วย ก็จะมีการเพิ่มค่าเสียหายร่วมด้วย
2.เสาไฟจราจร ต้นละ 8,000 - 15,000 บาท ตามสภาพความเสียหายและขนาดของเสา
3.แบริเออร์ หรือ อุปกรณ์กั้นข้างทาง ค่าเสียหายประมาณ 800 – 3,500 บาทต่อชิ้น ขึ้นอยู่กับวัสดุของแบริเออร์และจำนวนที่เกิดความเสียหาย
4.ป้ายจราจร ค่าเสียหายประมาณ 1,000 - 3,000 บาท เป็นทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมทางหลวง ขึ้นอยู่กับขนาด และอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนป้ายด้วย
5.ต้นไม้ พุ่มไม้ ค่าเสียหายประมาณ 3,000 - 10,000 บาท จะมีสำนักงานเขตแต่ละเขต หรือเทศบาลถิ่นนั้น ๆ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบและเป็นผู้ประเมินราคา ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้และอายุของต้นไม้ที่ขับรถชน
6.กรวยจราจร ค่าเสียหายประมาณ 200 - 800 บาทต่อชิ้น ขึ้นอยู่กับขนาดของกรวย และจำนวนที่เสียหายทั้งหมด
7.แผงกั้นจราจร ค่าเสียหายประมาณ 800 - 5,000 บาทต่อชิ้น ขึ้นอยู่กับขนาด หรือวัสดุ
8.เสาล้มลุก ค่าเสียหายประมาณ 1,000 - 5,000 บาทต่อต้น