1.ข้อมูลผู้เอาประกันภัย ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์ และวันที่เริ่มและสิ้นสุดความคุ้มครอง
ซึ่งผู้เอาประกันภัยและผู้รับผลประโยชน์อาจเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ก็ได้ หรืออาจเป็นนผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คันนี้ก็ได้ หรือแม้แต่ชื่อผู้เอาประกันภัยจะไม่ตรงกับชื่อในเล่มทะเบียนรถก็ได้
2️.ข้อมูลรถคันที่เอาประกันภัย
ซึ่งจะระบุรายละเอียด รหัสชนิดชนิด ยี่ห้อ รุ่น หมายเลขทะเบียน เลขตัวถัง ปี รุ่น จำนวนที่นั่งผู้โดยสาร โดยเฉพาะข้อมูลเลขตัวถังรถห้ามผิดเพี้ยนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะบริษัทประกันจะยึดข้อมูลเลขตัวถังรถเป็นหลักในเวลาตรวจสอบการแจ้งเคลมประกันภัย
3️.รายละเอียดความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ได้แก่
- ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก ต่อคน หรือต่อครั้งที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
- ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกต่อครั้งที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
- ความรับผิดต่อความเสียหายส่วนแรกของผู้เอาประกันต่อครั้ง(แล้วแต่บริษัทประกันภัยจะระบุหรือไม่ระบุก็ได้)
4️.ความรับผิดต่อตัวรถยนต์คันที่เอาประกันหรือทุนประกัน
ความรับผิดส่วนนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยว่าเป็นประเภทไหน ดังนี้
- ประกันภัยประเภท 1 หรือประกันชั้น 1 จะคุ้มครองการแจ้งเครม ของ รถคันที่เอาประกัน ไม่ว่า การชนโดยมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ได้ ,รถหาย, ไฟไหม้,น้ำท่วม
- ประกันภัยประเภท 3 หรือประกันชั้น 3 จะไม่คุ้มครองรถคันที่เอาประกันจึงไม่ระบุทุนแต่อย่างใดแต่จะซ่อมรถให้กับคู่กรณีเท่านั้น
- ประกันภัยประเภท 5 2+ หรือประกัน 2+ จะคุ้มครองการชนที่มีคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบกตามกฎหมายเท่านั้นโดยซ่อมรถคันที่เอาประกันและรถของคู่กรณี รวมถึง รถหาย,ไฟไหม้ และน้ำท่วม(บางบริษัท)
- ประกันภัยประเภท 5 3+ หรือประกันภัย 3+ คุ้มครองการชนที่มีคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบกตามกฎหมาย ซ่อมรถคันที่เอาประกันแล ะรถคู่กรณี เท่านั้น ไม่คุ้มครองรถหายหรือไฟไหม้แต่อย่างใด
5️.ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
ในส่วนนี้จะระบุความคุ้มครอง ชีวิต ร่างกาย อนามัย ค่ารักษาพยาบาล ของผู้โดยสารมากับรถคันที่เอาประกัน ต่อคนรวมถึงจำนวนเงินประกันตัวผู้ขับขี่ต่อครั้งกรณีที่ขับรถชนคนตายหรือได้รับบาดเจ็บจนเป็นคดีอาญา
6.ค่าเบี้ยประกันภัย
ในส่วนนี้จะระบุค่าเบี้ยประกันภัยต่อปีที่จ่ายให้กับบริษัทประกันภัย ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองแต่ละแผนที่ซื้อ และค่าเบี้ยประกันต่อปีอาจเพิ่มหรือลดราคาลงตามประวัติการเคลมประกันของบริษัทประกันนั้นๆ