เรื่อง การแก้ไขปัญหานักเรียนขาดความมุ่งมั่นในการทำงาน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้ชุดการสอนเรื่องอาหารและโภชนาการ วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนรวมไทยพัฒนา ๓ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
สภาพปัญหาปัจจุบันการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 การเรียนการสอนในรายวิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนในห้องเรียน ในช่วงตลอดภาคเรียนที่ผ่านมา พบว่า มีความรับผิดชอบต่อการเรียนค่อนข้างน้อย จึงทำให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ต่ำซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเรียน จากการศึกษาเอกสารพบว่า นวัตกรรมการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญหลายๆ อย่างที่ได้มีการสร้างขึ้น เช่น รูปแบบการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจระหว่างครูกับนักเรียน เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นสภาพแวดล้อมทางการเรียนให้กับผู้เรียนเป็นการผสมผสานระหว่างทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคมกับทักษะด้านเนื้อหาวิชาการต่าง ๆ เข้าด้วยกันเป็นอย่างดี โดยให้ผู้เรียนได้อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ได้ช่วยกันทำงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน โดยแต่ละกลุ่มต้องประกอบไปด้วยผู้เรียนที่มีความรู้เป็นตัวนำการคิดและเป็นผู้ควบคุมเพื่อนได้หรือเพื่อนๆ ให้ความไว้วางใจ ซึ่งความสามารถแตกต่างกันจะให้ผู้เรียนที่เก่งช่วยเหลือผู้เรียนที่อ่อนได้ส่วนหนึ่ง และความสำเร็จของบุคคล คือความสำเร็จของกลุ่ม ดังนั้นเพื่อให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อการเรียนในรายวิชาวิชามากยิ่งขึ้น
ห้องเรียนบรรยากาศในชั้นเรียนมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสนใจใคร่รู้ใคร่เรียนให้แก่ผู้เรียน ชั้นเรียนที่มีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจ และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน ย่อมเป็นแรงจูงใจภายนอกที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรักการเรียน รักการอยู่ร่วมกันในชั้นเรียน และช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความประพฤติอันดีงามให้แก่นักเรียน นอกจากนี้การมีห้องเรียนที่มีบรรยากาศแจ่มใส สะอาด สว่าง กว้างขวางพอเหมาะ มีโต๊ะเก้าอี้ที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีมุมวิชาการส่งเสริมความรู้ มีการตกแต่งห้องให้สดใส ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผลทำให้ผู้เรียนพอใจมาโรงเรียน เข้าห้องเรียนและพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน ดังนั้น ผู้เป็นครูจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย ความสำคัญ ประเภทของบรรยากาศ หลักการจัดบรรยากาศในชั้นเรียนและการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีลักษณะตามที่หลักสูตรได้กำหนดไว้
ความหมายของการจัดบรรยากาศในชั้นเรียนการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน หมายถึง การจัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนให้เอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอน เพื่อช่วยส่งเสริมให้กระบวนการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา ตลอดจนช่วยสร้างเสริมความมีระเบียบวินัยให้แก่ผู้เรียนด้วยหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับปัจจุบัน มุ่งหวังให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง มีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขครูจึงเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างบรรยากาศให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขความหมายของการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างมีความสุขบรรยากาศการเรียนรู้อย่างมีความสุข คือ การจัดสภาพการเรียนการสอนให้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นักเรียนรู้สึกเป็นอิสระ ได้เรียนรู้โดยวิธีการต่างๆ อย่างหลากหลาย ครูยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ความสำคัญของการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างมีความสุขให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนทั้งปัจจุบันและอนาคต การเรียนรู้อย่างมีความสุขพระธรรมปิฎก ได้จัดแบบของการเรียนรู้อย่างมีความสุขไว้ 2 แบบคือ
1. ความสุขที่อาศัยปัจจัยภายนอก เป็นความสุขที่เกิดจากสภาพแวดล้อม คือมีกัลยาณมิตร เช่นครู อาจารย์ เป็นผู้สร้างบรรยากาศแห่งความรัก ความเมตตา และช่วยให้สนุก ซึ่งต้องระวังเพราะถ้าควบคุมไม่ดี ความสุขแบบนี้จะทำให้นักเรียนอ่อนแอลง ยิ่งถ้ากลายเป็นการเอาใจ หรือตามใจ จะยิ่งอ่อนแอลงไปทำให้เกิดลักษณะพึ่งพา
2. ความสุขที่เกิดจากปัจจัยภายใน เป็นความสุขที่เกิดจากภายในตัวผู้เรียนเอง ซึ่งเป็นอิสระ ไม่ต้องพึ่งผู้อื่น กล่าวคือ ผู้เรียนเกิดนิสัยใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ใฝ่สร้างสรรค์ และมีความสุขจากการสนองความใฝ่รู้ ความสุขแบบนี้ทำให้คนเข้มแข็ง เขาจะมีความสุขเมื่อได้เรียนรู้ เมื่อยิ่งทำก็ยิ่งมีความสุข และยิ่งมีความเข้มแข็ง
ดังนั้น การสร้างบรรยากาศให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขจึงควรมุ่งสร้างความสุขจากปัจจัยภายใน โดยมีปัจจัยภายนอกเป็นองค์ประกอบนำทาง ก็จะช่วยพัฒนานักเรียนให้เป็นผู้รักการเรียนรู้อย่างแท้จริง
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักทางด้านศึกษาฉบับแรกของประเทศไทยที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลอย่างกว้างขวาง เพื่อกำหนดเนื้อหาสาระต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการศึกษาของประเทศ อันส่งผลกระทบที่สำคัญในการจัดการเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาของชาติอย่างมาก โดยในการจัดการศึกษายึดหลักว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามธรรมชาติ ความสนใจและเต็มศักยภาพ เน้นความรู้คู่คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และการบูรณาการความรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสังคมเพื่อพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข กำหนดให้สถานศึกษาใช้วิธีการที่หลากหลายในการประเมินผลผู้เรียน และการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
ด้วยเหตุนี้ผู้สอนจึงเลือกวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อนำมาปรับพฤติกรรมความรับผิดชอบ และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนได้อย่างยั่งยืนตามหลักการของยุทธศาสตร์ชาติที่ได้วางไว้ และเป็นแนวทางในการเรียนรู้ของนักเรียนที่ดีอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเรียนได้อย่างยั่งยืน
1. การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพ ใบงาน แบบฝึกทักษะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง อาหารและโภชนาการ มีขั้นตอนดังนี้
1.1. ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ เพื่อให้ทราบเนื้อหา มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด
1.2. กำหนดโครงสร้างของเนื้อหาสาระ จุดประสงค์ของการสอน ตลอดปีการศึกษา
1.3. ศึกษาเนื้อหาที่จะใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในการวิจัย จากหนังสือเรียนพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 มาเป็นกรอบในการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้
1.4. วิเคราะห์สาระการเรียนรู้ มาตรฐานและตัวชี้วัด โดยทำความเข้าใจมาตรฐานการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รวมทั้งแนวคิดขอบเขตของกลุ่มสาระการเรียนรู้นี้มาเป็นกรอบในการทำแผนการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง อาหารและโภชนาการ
1.5. ศึกษาวิธีการ หลักการ ทฤษฎี ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551
2. ศึกษาวิธีการ หลักการ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำแบบฝึกทักษะ เพื่อนำมาจัดทำแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
3. จัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนด้วยการจัดทำสื่อ/นิทรรศการ/ป้ายนิเทศ ที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองเมื่อมีเวลาว่าง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนรวมไทยพัฒนา ๓ จำนวน ๕๖ คน ร้อยละ ๘๐ มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย และพึงพอใจต่อการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนรวมไทยพัฒนา ๓ จำนวน ๕๖ คน ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และมีทักษะทางวิชาการสูงขึ้น โดยการเรียนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือและแบบฝึกทักษะทางวิชาการ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สามารถแสวงหาความรู้ เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนให้มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง
1. วิจัย เรื่อง การแก้ไขปัญหานักเรียนขาดความมุ่งมั่นในการทำงาน
ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้ชุดการสอนเรื่อง อาหารและโภชนาการ
วิชาการงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 📂เอกสารแนบ
2. ชุดการสอน เรื่อง อาหารและโภชนาการ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 📂เอกสารแนบ
3. รายงานผลการพัฒนางานตามข้อตกลง (Performance Agreement : PA) สําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 📂เอกสารแนบ
แผนการจัดการเรียนรู้📂เอกสารแนบ
คลิปการสอน📂เอกสารแนบ