ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ  คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

          จากการจัดการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพ พบว่า ผู้เรียนยังขาดโอกาสในการฝึกฝนการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง อีกทั้งการเรียนรู้ยังมุ่งเน้นเชิงทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ ดังนั้น ผู้จัดทำจึงใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ในการแก้ปัญหานี้ เป็นแนวทางที่จะช่วยพัฒนาสมรรถนะด้านการใช้ทักษะชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม เพราะผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ คิดวิเคราะห์ ทำงานเป็นทีม และตัดสินใจบนฐานของข้อมูลจริง ทำให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

1. วิเคราะห์ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง การออกแบบบรรจุภัณฑ์และประเมินราคา ในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองกรดพิทยาคม ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563 

2. ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning  

3. ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและสมาชิกในกลุ่ม PLC ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ในเนื้อหา การเฉลยของตัวอย่าง กิจกรรมและแบบฝึกหัด พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข

4. ครูผู้สอนนำแผนการจัดการเรียนรู้มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพโรงเรียนหนองกรดพิทยาคม   

5. ครูผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568   

6. บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจากการกิจกรรมการเรียนรู้ และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริมและทำการทดสอบใหม่ จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 

3.1 เชิงปริมาณ

3.1.1 นักเรียนร้อยละ 70 มีผลการประเมินชิ้นงานอยู่ในระดับดีขึ้นไป 

3.1.2 นักเรียนร้อยละ 80 มีผลการประเมินสมรรถนะด้านความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตอยู่ในระดับดีขึ้นไป 

3.1.3 นักเรียนร้อยละ 80 มีความคิดเห็นต่อกระบวนการเรียนรู้อยู่ในระดับมากขึ้นไป 

3.2 เชิงคุณภาพ

นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะการทำงานกลุ่ม การสื่อสาร และการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม