เรียนขลุ่ยออนไลน์
แบบคลิปวิดีโอ และแบบตัวต่อตัว
แบบคลิปวิดีโอ และแบบตัวต่อตัว
พบกับคอร์สเรียนขลุ่ยออนไลน์สุดพิเศษและวิดีสำหรับฝึกขลุ่ยเร็ว ๆ นี้
เรียนขลุ่ยเบื้องต้นผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ "ขลุ่ยในบทเพลงไทยลูกทุ่ง"
เรียนขลุ่ยด้วยต้นเองผ่านโน้ตขลุ่ย
เหมาะกับใคร?
เหมาะกับผู้เรียนในระดับเริ่มต้นที่ยังไม่มีพื้นฐานการเป่าขลุ่ย ผู้เรียนสามารถฝึกฝนตามคลิปวิดีโอตั้งแต่ ep.1 - ep.10 ได้ด้วยตนเอง โดยการเรียนการสอนจะเป็นการฝึกตั้งแต่พื้นฐานการเป่าขลุ่ยอย่างถูกวิธี การวางนิ้ว การใช้ลม ท่าทาง การอ่านโน้ตจังหวะแบบไทย การฝึกเทคนิคเพื่อนำไปใช้กับเพลง เช่นการเอื้อน การพรมนิ้ว
ข้อดีของการเรียนแบบวิดีโอ
ข้อดีของการเรียนผ่านวิดีโอมีหลายประการ โดยเฉพาะสำหรับการเรียนดนตรีหรือทักษะที่ต้องฝึกปฏิบัติ เช่น การเรียนขลุ่ย ข้อดีหลัก ๆ ได้แก่:
1. เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามตารางเวลาของตัวเอง ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ทำให้การเรียนยืดหยุ่นและสะดวกสบาย
2. ดูซ้ำได้ไม่จำกัด วิดีโอสามารถดูซ้ำได้หลายครั้งจนกว่าจะเข้าใจ ผู้เรียนไม่ต้องกังวลว่าพลาดข้อมูลสำคัญ สามารถย้อนกลับไปดูเนื้อหาที่ต้องการทบทวนได้
3. การแบ่งบทเรียนที่เป็นระบบ วิดีโอสามารถแบ่งเนื้อหาออกเป็นบทเรียนย่อย ๆ ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบ และก้าวหน้าได้ตามความพร้อมของตัวเอง
4. ปรับความเร็วในการเรียนรู้ วิดีโอสามารถปรับความเร็วได้ หากผู้เรียนเข้าใจแล้วก็สามารถเร่งความเร็ว หรือหากต้องการช้าลงเพื่อทบทวนก็ทำได้
5. โอกาสในการเข้าถึงผู้สอน วิดีโอออนไลน์ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการสอนจากครูผู้สอน โดยไม่ต้องเดินทางไปพบครูตัวต่อตัว
6. ความสะดวกในการติดตามความก้าวหน้า ผู้เรียนสามารถจัดตารางเรียนและตรวจสอบความก้าวหน้าของตัวเองได้อย่างเป็นระบบ ทำให้มีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง
7. ลดความกังวลหรือความกดดันในการเรียน การเรียนผ่านวิดีโอช่วยให้ผู้เรียนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เนื่องจากไม่มีความกดดันจากครูหรือเพื่อนร่วมชั้น
การเรียนผ่านวิดีโอเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและปรับตัวตามจังหวะของตัวเอง
เหมาะกับใคร?
การเรียนแบบตัวต่อตัวเหมาะกับผู้เรียนหลายประเภทที่ต้องการการสนับสนุนและความใส่ใจเฉพาะตัวมากขึ้นในกระบวนการเรียนรู้ โดยผู้ที่เหมาะกับการเรียนแบบตัวต่อตัว ได้แก่:
1. ผู้ที่ต้องการคำแนะนำส่วนตัว การเรียนแบบตัวต่อตัวช่วยให้ครูสามารถให้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของผู้เรียนแต่ละคนได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการปรับปรุงทักษะหรือเทคนิคเฉพาะบุคคล
2. ผู้ที่มีพื้นฐานหรือความสามารถต่างกัน ผู้เรียนที่มีพื้นฐานความรู้หรือทักษะที่ไม่เท่ากัน การเรียนแบบคลิปวิดีโออาจจะไม่เหมาะสมเท่าที่ควร การเรียนตัวต่อตัวช่วยให้ครูสามารถปรับวิธีการสอนตามระดับของผู้เรียนได้
3. ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ในอัตราที่เร็วขึ้นหรือช้าลง การเรียนในชั้นเรียนทั่วไปอาจจะมีจังหวะที่เร็วหรือช้ากว่าที่ผู้เรียนต้องการ การเรียนแบบตัวต่อตัวทำให้ผู้เรียนสามารถควบคุมความเร็วในการเรียนตามที่ตัวเองถนัดและสบายใจ
4. ผู้ที่มีเป้าหมายหรือความต้องการเฉพาะทาง หากผู้เรียนมีเป้าหมายเฉพาะ เช่น การเตรียมตัวสอบ การแข่งขัน หรือการเล่นเพลงบางเพลง การเรียนแบบตัวต่อตัวสามารถปรับการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายเหล่านั้นได้
5. ผู้ที่ต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษในการเรียนรู้ การเรียนแบบกลุ่มอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่ได้รับความสนใจหรือการดูแลอย่างทั่วถึง แต่การเรียนตัวต่อตัวทำให้ครูสามารถสังเกตและให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจงได้ตลอดเวลา รวมถึงแก้ไขจุดบกพร่องเพื่อนำไปสู่การเป่าขลุ่ยอย่างถูกต้อง
6. ผู้ที่ต้องการการแก้ไขทักษะหรือปัญหาเฉพาะบุคคล การเรียนตัวต่อตัวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการแก้ไขข้อบกพร่องในการเล่นอย่างละเอียด เช่น ท่าทาง เทคนิค หรือการหายใจที่ถูกต้อง รายละเอียดที่คาดไม่ถึง ซึ่งครูสามารถให้คำแนะนำทันทีและปรับปรุงทักษะให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจง่าย