หอสมุดเกิดจากการที่กษัตริย์และสภาปราชญ์ตอนนั้นต้องการสร้างความเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับปัญญาขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ในเจมิไน ฝึกฝนนักคิดขึ้นมาในระบอบปกครองจึงจัดให้มีนักปราชญ์ผู้สืบทอดหอสมุดทั้งสามมาถึงปัจจุบัน สืบทอดตำแหน่งโดยการรับศิษย์
หอสมุดตะวันตก: ภายนอกเป็นหอสมุดสีขาว รวบรวมความรู้ทางอารยธรรม ประวัติศาสตร์ ศิลปะและการปกครอง นักปราชญ์ที่อาศัยอยู่ในหอสมุดจะถูกเรียกว่า ‘The white magi’
หอสมุดตะวันออก: ภายนอกเป็นหอสมุดสีดำ รวบรวมความรู้ทางการรบ ทางการทหาร ยุทธศาสตร์ เวทมนตร์ นักปราชญ์ที่อาศัยอยู่ในหอสมุดจะถูกเรียกว่า ‘The black magi’
หอสมุดทางใต้: ภายนอกหอสมุดสีฟ้า รวบรู้ความรู้ด้านการค้า เศรษฐกิจ การเงิน การต่อเรือ การเดินทะเล นักปราชญ์ที่อาศัยอยู่ในหอสมุดจะถูกเรียกว่า ‘The blue magi’
ทะเลสาบดาวเหนือ: กลายเป็นเขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวสำคัญ เนื่องจากการก่อสร้างท่าเรือทางผ่านทะเลเหนือร่วมมือกับซาเรสและวิทซ์ สถานที่ที่ผู้คนมักไปทำทุกอย่างในเจมิไน ทั้งเดินเล่น พักผ่อน ใช้เวลาร่วมกัน เวลาอากาศหนาวเย็นมากทะเลสาบบางส่วนจะกลายเป็นลานน้ำแข็ง มีร้านค้าสำหรับนักเดินทางอยู่จำนวนมาก เนื่องจากเป็นเมืองท่าของเจมิไน ทางผ่านสำคัญของประเทศทางเหนือ
: มีกิจการต่อเรือของเจมิไนอยู่บริเวณนี้ มีเขตเศรษฐกิจเรือประมงจับปลา แต่ผู้ที่ไม่ระวังจับได้ปลาสงวนหรือปลาที่ไม่ได้มีไว้อุปโภคจะถูกริบใบอนุญาตทันที
THE BRIDGE OF PEACE
เพื่อยุติสงครามยืดเยื้อ เจมิไนจึงใช้ความฉลาดของตนร่วมกับประเทศพันธมิตร ลงทุนทำเมกะโปรเจคขุดสร้างทางออกทะเลขึ้นมาขยายเมืองหน้าด่าน โดยมีสะพานกั้นยกตรงจุดคอขวด เพื่อเก็บค่าผ่านทางเพื่อออกทะเลเหนือ โดยเปิดให้เรือของซาเรสและวิทซ์ผ่านออกไปได้ด้วย มีการสร้างถนนหลายสายเพื่อเชื่อมทางมาที่นี่ เปลี่ยนให้เมืองหน้าด่านกลายเป็นเมืองท่าน่านน้ำทะเลเหนืออันสำคัญ สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล
เป็นสถานที่อยู่อาศัยและทำงานของกษัตริย์แห่งเจมิไน การประชุมวาระและวางแผนด้านต่างๆ ใช้ในการรับรองแขกจากต่างเมือง สถาปัตแบบเจมิไน การตกแต่งภายในค่อนข้างเรียบง่ายเป็นแพทเทิร์น แต่ดูสูงค่า สง่างาม
สภาปราชญ์: ในสมัยก่อนเป็นที่นั่งที่จัดขึ้นเพื่อความสะดวกในการปกครองและจูงใจประชาชนให้พัฒนาตนเอง ปัจจุบันสภาครองตำแหน่งโดยนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลในประเทศเจมิไน ได้แก่ นักปราชญ์แห่งหอสมุดทั้งสาม (และอาจมีเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับการเสนอชื่อของปราชญ์และกษัตริย์) - ในทุกเดือนจะมีการนำหัวข้อที่ประชาชนเสนอทางจตุรัส หรือประเด็นที่น่าสนใจมาถกเถียงกันที่นี่ อาจมีการเชิญปราชญ์ทั้งสามห้องสมุดบ้างในแต่ละเดือน
ภาคีอัศวิน: จัดตั้งเพื่อปกครองกำลังทางการรบและพัฒนาของประเทศเจมิไน ประกอบไปด้วย 4 หน่วย
1.หน่วยอัศวิน: จะแบ่งภายในเป็น กองทัพเรือ และ กองทัพอัศวิน หน้าที่ส่วนใหญ่ปกป้องเรื่องความสงบของประเทศ ออกปราบโจร, โจรสลัด, จับผู้ร้าย, ปกป้องชายแดน, ลาดตระเวน ช่วยเหลือประชาชน
2.หน่วยจอมเวทอัศวิน: หน้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นการคิดค้นนวัตกรรมทางทหารร่วมกับเวทมนตร์
3.หน่วยสัตว์วิเศษอัศวิน: หน้าที่สนับสนุนเรื่องสัตว์วิเศษต่างๆ รับผิดชอบพิธีการทุกอย่างภายในประเทศรวมถึงสัตว์สามัญ
4.หน่วยอัศวินราของครักษ์: รับผิดชอบความปลอดภัยของเหล่าผู้ปกครอง
5.หน่วยแพทย์อัศวิน: มีหน้าที่รักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้นให้เหล่าอัศวิน - (รับคนจากประเทศอื่นเข้าทำงานได้ แต่ต้องสอบผ่านใบอนุญาตของกองทัพ
*ประชาชนเจมิไน หลังจากจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่ออายุ 12 ปี สามารถเข้าโรงเรียนอัศวินฝึกหัดได้เลย แต่จะถูกเลือกเข้าบรรจุเฉพาะผู้ที่สอบผ่าน
สมาคมนักล่าแห่งเจมิไน: มีขึ้นเพื่อลงทะเบียนลายชื่อนักล่าให้เป็นข้อมูล จัดการแข่งขันเทศกาลอินทรีทอง สนับสนุนทรัพยากรทางการฝึกของนักล่า ติดต่อกับสมาคมนักล่าในประเทศอื่นๆ เพื่อไปแลกเปลี่ยนความรู้ มีการนำความรู้จากประเทศต่างๆ มาเก็บรวบรวมไว้ มีสมุนไพรต่างถิ่น และสัตว์สตัฟฟ์ต่างถิ่นให้ศึกษา คนภายนอกเข้าชมได้
(*หมายเหตุ เทศกาลอินทรีทอง เป็นกิจกรรมที่จะจัดตอนปิดเทอม ให้ผู้เล่น 4 คนจับทีมแข่งขันกันล่าสัตว์ (บังคับในทีมต้องมีคนเจมิไนสำหรับสมัคร) กิจกรรมจะจัดประมาณ 3 วันในชีวิตจริง หนึ่งสัปดาห์ในโลกเอดินเบิร์ก)
หอคอยดวงดารา: หอคอยที่อยู่อาศัยของเหล่าจอมเวทดวงดารา รับศิษย์ตอนอายุ 12 ปี จบการศึกษาพื้นฐานจากโรงเรียนเจมิไนเท่านั้น ปกครองโดยตำแหน่งหัวหน้าหอคอย
จอมเวทดวงดารา: ทิศทางเวทที่ถนัด: ลม, แสง, ความมืด จอมเวทดวงดาราในเจมิไนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหอคอยดวงดารา อาจมีบ้างที่เดินทางอย่างโดดเดี่ยวไปทั่วเอเดน แต่ทั้งหมดจะฝากตัวเข้าร่วมกับหอคอยเป็นนักเวทดวงดาราตอนอายุสิบสองปี หากเด็กกว่านั้นสามารถมาอยู่ที่หอคอยได้ในฐานะผู้ติดตาม เด็กรับใช้ พนักงานทำความสะอาด หรืออื่นๆ แล้วแต่หอคอยดวงดาราจะเปิดรับ
หน้าที่: หน้าที่ของจอมเวทดวงดารา พวกเขาจะจดบันทึกศึกษาปรากฎการณ์ทางอวกาศบนฟ้า ทั้งดาวตก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ เมฆ ดวงดาวแปดสิบแปดกลุ่มดาว จากนั้นพวกเขาจะทำนายสภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงของประเทศกับกลุ่มดาวตลอดทั้งปี หนังสือพิมพ์จากหอคอยดวงดาราจะตีพิมพ์ทุกวันที่ 31 ธันวาคม สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า และวันที่ 1 มกราคม ทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นของปีใหม่
บริเวณหอดูดาวจะมีแบบท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดอยู่ชั้นบนสุด เกิดจากการลงอาณาเขตเวทของจอมเวทดวงดาราขั้นสูง(หัวหน้าหอคอย) ร่วมกับคริสตัลพลังเวทระดับสูง สิ่งของมีพลังเวทมหาศาล
สิ่งที่ได้รับอิทธิพลจากดวงดาว
การเดินเรือ: การเดินเรือจะต้องใช้จอมเวทดวงดารา พวกเขาจะต้องดูการทำนายปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นในทะเล การเปลี่ยนแปลงของดวงดาวระหว่างเดินเรือจะนำพาสิ่งใดมา
การสงคราม: การสงครามเองก็ต้องใช้จอมเวทดวงดาราในการดูทิศเกื้อหนุนของลม สภาพอากาศ การทำนายล่วงหน้า
การคมนาคม: การคมนาคมทางบกยังต้องพยากรณ์เรื่องฝน ส่วนการคมนาคมทางอากาศจะใช้พยากรณ์เรื่องพายุ
การเกษตร: ต้นไม้และพืชก็มีอิทธิพลของดวงดาวแตกต่างกันออกไป ปีนี้จะเป็นปีที่อิทธิพลของดวงจันทร์เป็นใหญ่ ผู้คนในเจมิไนก็จะเลือกปลูกพืชที่ชื่นชอบแสงจันทร์
โดยพื้นฐานแล้ว ประเทศเจมิไนเป็นประเทศที่ใฝ่รู้ ดังนั้นผู้คนจึงให้เสียงตอบรับดีมากกับเรื่องราวบนท้องฟ้าที่ไม่อาจทราบแน่ชัด พวกเขาเชื่อว่าเมื่อดวงดาวเปลี่ยน บรรยากศเปลี่ยน เวทมนตร์และสรรพสิ่งในโลกย่อมเปลี่ยนไปตามอิทธิพลของดวงดาว ผู้คนก็ต้องปรับตัวเตรียมรับมือเช่นกัน
จอมเวทดวงดารา
ขั้นต้น: นักเรียนจอมเวทดวงดาราเริ่มตั้นจะเรียนภาคทฤษฎีเหมือนกันหมด พวกเขาจะต้องหัดใช้สิ่งของให้เป็นตั้งแต่ยุคโบราณ ท่องจำปรากฎการณ์ต่างๆ หัดวาดแผนที่ดวงดาว หัดใช้กล้องดูดาวและเข็มทิศ เวทมนตร์ที่เหรียญจะเริ่มเรียนเวทลมในเบื้องต้น
ขั้นกลาง: จอมเวทดวงดาราจะเริ่มเรียนเวทมนตร์เพิ่มขึ้น เรียนเวทแสงและความมืดในเบื้องต้นถึงกลาง เรียนรู้การติดต่อเปิดข่ายเวทมนตร์รับพลังจากเหล่าดวงดาว เวทแรกที่พวกเขาจะต้องทำให้เป็นคือการจำลองท้องฟ้าที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ให้เป็นขนาดย่อบนมือ, การพยากรณ์ด้วยดวงตา, ในช่วงปลายจอมเวทดวงดาราที่เริ่มใช้พลังเป็นแล้วก็มักจะเดินทางออกไปกับเรือ ติดตามผู้ใหญ่ในหอคอยไปทำงานด้านอื่นๆ
ขั้นสูง: จอมเวทดวงดาราขั้นสูงสามารถใช้อาณาเขตดวงดาว เปลี่ยนพื้นที่ให้ได้รับอิทพลจากดวงดาว สามารถรักษาบาดแผลขั้นตั้น เสริมพลังเวทธาตุ สามารถใช้อิทธิผลของสิ่งต่างๆ บนท้องฟ้ามาเพิ่มพลังหรือรับมือ เวทส่วนใหญ่จะเป็นประเภทสนับสนุน
จอมเวทดวงดาราทุกคนจะได้รับเหรียญประจำตัว สลักรูปดวงดาวสัญลักษณ์ของหอคอยดวงดาราและลำดับขั้น
ผู้ปกครองจะถูกเรียกว่า 'เจ้าหอ' สั้นๆ สำหรับคนภายใน คนภายนอกจะเรียก 'เจ้าหอคอย' คัดเลือกจากการรับลูกศิษย์ภายในมาเป็นลูกศิษย์สายตรง ก่อนขึ้นเป็นเจ้าหอคนถัดไป เจ้าหอคนปัจจุบันอายุ 93 ปีแล้ว
ศาลยุติธรรมของเจมิไน:
มีเพียงศาลเดียวที่ขึ้นชื่อเรื่องความเที่ยงตรง รับตัดสินทุกคดีความเพื่อนบ้านก็รับ แต่จ่ายเงินเข้าเจมิไนด้วย พิพากษาคดีทั้งปวง
ตำแหน่งหน้าที่ในศาล:
1.ตุลาการสูงสุด - มาจากการเลือกตั้งในการประชุมสภาปราชญ์ พร้อมด้วยรองตุลาการซ้ายขวา เป็นผู้ช่วยและสามารถปฏิบัติหน้าที่แทนได้กรณีฉุกเฉิน
2.คณะตุลาการ (สิบคน) - ปราชญ์ที่บรรจุหน้าที่ในศาล ร่วมพิจารณา
3.ปราชญ์ฝ่ายจำเลยและโจทย์ - มีหน้าที่ชี้แจงเกี่ยวกับกฎหมายและหลักการณ์ ทำหน้าที่แทนประชาชนทั่วไป
การแต่งกาย:
สวมชุดสุภาพก็พอ
สถาบันกฏหมาย: เปิดให้ปราชญ์ทั่วประเทศสามารถเข้ามาเรียนต่อ เมื่อสอบผ่านแล้วจะได้รับใบอนุญาตสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในศาล
สะพานภาวนา
สะพานแขวนที่อยู่ระหว่างเทือกเขาที่สูงที่สุดทางตะวันออกของประเทศ ได้ยินว่าถ้ากลั้นหายใจแล้วเดินผ่านคำอธิษฐานจะเป็นจริง
หุบเขาเกียรติยศ:
เทือกเขาสูงและที่ราบลุ่มทางตอนใต้ มีไว้ฝังศพสายเลือดเจมิไน
หอดูดาวทางตะวันตก:
เรียกว่าหอดูดาว แต่บางทีก็แอบดูวิทช์ว่าพวกเขาทำอะไรเคลื่อนไหวแปลกๆ หรือไม่
จตุรัสยูโทเปีย:
สถานที่ศูนย์กลางของชาวเจมิไน มักเป็นพื้นที่แสดงออกความคิดเห็น ชุมนุม จัดกิจกรรมอย่างเสรีของชาวเจมิไน