ปีการศึกษา 2566 เกณฑ์ประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับอุดมศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ
1. ปีการศึกษา 2566 : 1 มิถุนายน 2566 – 31 พฤษภาคม 2567
2. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 : 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567
3. ปีปฏิทินที่ตรงกับปีประเมิน ปีการศึกษา 2566 : 1 มกราคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566
4. ตัวบ่งชี้ที่ 2.2 เงินสนับสนุนงานวิจัยฯ ตัวหารใช้ข้อมูลจำนวนอาจารย์ประจำและนักวิจัย โดยนับตามปีการศึกษาและนับเฉพาะที่ปฏิบัติงานจริง
5. ตัวบ่งชี้ที่ 2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ฯ ตัวหารใช้ข้อมูลจำนวนอาจารย์ประจำและนักวิจัยทั้งหมด โดยนับตามปีการศึกษาทั้งปฏิบัติงานจริงและลาศึกษา
กำหนดการและรายชื่อคณะกรรมการตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับคณะ
ประจำปีการศึกษา 2566 ระหว่างวันที่ 24 (ครึ่งวันบ่าย) - 25 (เต็มวัน) กันยายน 2567
อาจารย์ศุภชัย ดำคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
อาจารย์รัฐทิตยา หิรัณยหาด มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกพร ฉิมพลี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
องค์ประกอบที่ 1 การผลิตบัณฑิต
ตัวบ่งชี้ 1.1 ผลการบริหารจัดการหลักสูตรโดยรวม (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: คณะไม่ต้องนำผลการประเมินของทุกหลักสูตรมาคิดคะแนนในตัวบ่งชี้ที่ 1.1 แต่ คณะยังคงต้องรายงานผลการประเมินของทุกหลักสูตรในเล่มรายงานการประเมินตนเอง (SAR) เนื่องจากทุกหลักสูตร
ของมหาวิทยาลัยฯ ได้รับการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในระดับหลักสูตรโดยใช้เกณฑ์ AUN-QA
ตัวบ่งชี้ 1.2 อาจารย์ประจำคณะที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: 1) การนับจำนวนอาจารย์ประจำให้นับตามปีการศึกษาและ นับทั้งปฏิบัติงานจริงและลาศึกษาต่อ ในกรณีที่มีอาจารย์บรรจุใหม่ ให้คำนวณตามเกณฑ์อาจารย์ประจำที่ระบุในคำชี้แจงเกี่ยวกับการนับอาจารย์และนักวิจัย (นับตามเกณฑ์ สกอ.) 2) ตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนอาจารย์ในหลักสูตรกับคณะและกองบริหารงานบุคคลโดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนมีการตรวจประเมินหลักสูตร 3) การนับจำนวนคุณวุฒิปริญญาเอก (ตัวตั้ง) และจำนวนอาจารย์ (ตัวหาร) พิจารณาจาก 3.1 กรณีตัวตั้งให้นับเป็นจำนวนเต็ม
3.2 กรณีตัวหาร 3.2.1 เฉพาะอาจารย์ใหม่นับตามเกณฑ์ของ สกอ. 3.2.2 อาจารย์เก่านับเป็นจำนวนเต็ม อาจารย์เก่าที่ย้ายออกจากหลักสูตร/คณะให้นับเป็นจำนวนเต็ม 4) กรณีอาจารย์สังกัดหลักสูตรที่ไม่ได้อยู่ในคณะที่ตนเองสังกัด
4.1 ระดับหลักสูตร ให้นับในหลักสูตรที่ตนเองสังกัด 4.2 ระดับคณะ ให้นับในคณะที่สังกัด
ตัวบ่งชี้ 1.3 อาจารย์ประจำคณะที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: 1) การนับจำนวนอาจารย์ประจำให้นับตามปีการศึกษา และ นับทั้งปฏิบัติงานจริงและลาศึกษาต่อ ในกรณีที่มีอาจารย์บรรจุใหม่ให้คำนวณตามเกณฑ์อาจารย์ประจำที่ระบุในคำชี้แจงเกี่ยวกับการนับอาจารย์
และนักวิจัย (นับตามเกณฑ์ สกอ.เดิม) 2) การนับตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ ให้นับในกรณีที่ผ่านความเห็นชอบในสภามหาวิทยาลัยในรอบปีการศึกษาที่ประเมิน 3) การนับจำนวนตำแหน่งทางวิชาการ (ตัวตั้ง) และจำนวนอาจารย์ (ตัวหาร) พิจารณาจาก 3.1 กรณีตัวตั้งให้นับเป็นจำนวนเต็ม 3.2 กรณีตัวหาร 3.2.1 เฉพาะอาจารย์ใหม่นับตามเกณฑ์ของ สกอ. 3.2.2 อาจารย์เก่านับเป็นจำนวนเต็ม อาจารย์เก่าที่ย้ายออกจากหลักสูตร/คณะให้นับเป็นจำนวนเต็ม 4) กรณีอาจารย์สังกัดหลักสูตรที่ไม่ได้อยู่ในคณะที่ตนเองสังกัด 4.1 ระดับหลักสูตร ให้นับในหลักสูตรที่ตนเองสังกัด 4.2 ระดับคณะ ให้นับในคณะที่สังกัด 5) ตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนอาจารย์ในหลักสูตรกับคณะและกองบริหารงานบุคคลโดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนมีการตรวจประเมินหลักสูตร
ตัวบ่งชี้ 1.4 การบริการนักศึกษาระดับปริญญาตรี (ปีการศึกษา)
ตัวบ่งชี้ 1.5 กิจกรรมนักศึกษาระดับปริญญาตรี (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: การจัดทำแผนพัฒนานักศึกษาในระดับคณะควรให้สอดคล้องกับคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ และครอบคลุมมาตรฐานการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
ตัวบ่งชี้ 1.6 การส่งเสริมสมรรถนะและทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: 1) เป็นตัวชี้วัดกระบวนการเพื่อวัดระบบและกลไกในการส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะและทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยมุ่งหวังให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขาสอบ
ผ่านเกณฑ์การวัดผล CEFR (B1)ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของนักศึกษาชั้นสุดท้ายที่เข้าสอบ 2) นักศึกษาที่เข้าสอบต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายทั้งหมดของคณะในปีที่ประเมิน 3) การคิดคำนวณร้อยละการสอบผ่านตามเกณฑ์ CEFR จะคิดเฉพาะนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายในปีที่ประเมินเท่านั้น เช่น ในการประเมินปีการศึกษา 2566 จะใช้ผลการสอบของนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายรหัส 63 ที่เข้าสอบและสอบผ่านเป็นฐานในการคิดคำนวณเท่านั้นถึงแม้ว่าในปีการศึกษานั้นจะมีนักศึกษารหัส 64 เข้าสอบด้วยก็ตามซึ่งนักศึกษารหัส 64 จะถูกนำไปประเมินผลในปีการศึกษา 2567 ต่อไป 4) จัดให้นักศึกษาทุกคนทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษตามแบบทดสอบมาตรฐานระดับอุดมศึกษาที่สถาบันสร้างขึ้น หรือที่เห็นสมควรจะนำมาใช้วัดสมิทธิภาพทางภาษาอังกฤษ (English proficiency) โดยสามารถเทียบเคียงผลกับ Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) หรือมาตรฐานอื่นเพื่อให้ทราบระดับความสามารถของนักศึกษาแต่ละคนโดยการเทียบเคียงคะแนนจะต้องมีหลักฐานรับรองการเทียบเคียงจากเจ้าของแบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษ และเสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาเห็นชอบ
ตัวบ่งชี้ 1.7 การส่งเสริมสมรรถนะและทักษะด้านดิจิทัล (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: 1) เป็นตัวชี้วัดกระบวนการเพื่อวัดระบบและกลไกในการส่งเสริมและพัฒนาการส่งเสริมสมรรถนะและทักษะด้านดิจิทัลของนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยมุ่งหวังให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขาสอบผ่านเกณฑ์การวัดผล IC3 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของนักศึกษาชั้นสุดท้ายที่เข้าสอบ 2) นักศึกษาที่เข้าสอบต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายทั้งหมดของคณะในปีที่ประเมิน 3) การคิดคำนวณร้อยละการสอบผ่านตามเกณฑ์ IC3 จะคิดเฉพาะนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายในปีที่ประเมินเท่านั้น เช่น ในการประเมินปีการศึกษา 2566 จะใช้ผลการสอบของนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายรหัส 63 ที่เข้าสอบและสอบผ่านเป็นฐานในการคิดคำนวณเท่านั้นถึงแม้ว่าในปีการศึกษานั้นจะมีนักศึกษารหัส 64 เข้าสอบด้วยก็ตามซึ่งนักศึกษารหัส 64 จะถูกนำไปประเมินผลในปีการศึกษา 2567 ต่อไป
ตัวบ่งชี้ 1.8 ผลลัพธ์ของหลักสูตรที่นักศึกษามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: 1) นักศึกษาที่มีส่วนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมในแต่ละหลักสูตรไม่จำกัดจำนวนนักศึกษา 2) หลักสูตรที่นักศึกษามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม นักศึกษาต้องมีส่วนร่วมตั้งแต่การวางแผนดำเนินการและการประเมินผล และต้องเกิดนวัตกรรมในปีที่ประเมิน 3) หากจะมีการบูรณาการการมีส่วนร่วมของนักศึกษาในการสร้างนวัตกรรมระหว่างหลักสูตร ควรพิจารณาถึงความเกี่ยวข้องระหว่างศาสตร์ในแต่ละสาขาด้วย 4) หลักฐานประกอบ ได้แก่ รายงานสรุปการมีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมของนักศึกษาที่ประกอบด้วยชื่อนวัตกรรม ลักษณะของนวัตกรรม กระบวนการที่นักศึกษามีส่วนร่วม ผู้ใช้ประโยชน์ (ชื่อหน่วยงาน ตำแหน่ง) ผลที่เกิดขึ้นกับการนำนวัตกรรมไปใช้ โดยนวัตกรรมที่นักศึกษามีส่วนร่วมควรตรงหรือสัมพันธ์กับศาสตร์ของนักศึกษา
องค์ประกอบที่ 2 การวิจัย
ตัวบ่งชี้ 2.1 ระบบและกลไกการวิจัย งานสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: เกณฑ์มาตรฐานข้อที่ 7 แนวทางการรายงานต้องมีการดำเนินการอย่างน้อยเกินกึ่งหนึงของระบบที่ดีในระบบใดระบบหนึ่ง เช่น ระบบคุ้มครองสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร ฯลฯ
ตัวบ่งชี้ 2.2 เงินสนับสนุนงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ (ปีงบประมาณ) แนวทางการประเมิน: 1) การนับจำนวนอาจารย์ประจำและนักวิจัยให้นับเฉพาะที่ปฏิบัติงาน 2) เงินสนับสนุนงานวิจัยและงานสร้างสรรค์นับตามปีงบประมาณ
ตัวบ่งชี้ 2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจำและนักวิจัย (ปีปฏิทินที่ตรงกับปีประเมิน) แนวทางการประเมิน: 1) บทความวิจัยหรือบทความบริการวิชาการที่ตีพิมพ์เผยแพร่นับตามปีปฏิทิน 2) ค่าน้ำหนักในการประเมินคุณภาพผลงานวิชาการ มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ให้พิจารณาตามคู่มือประกันคุณภาพประจำปี 2565 3) หลักสูตรและคณะควรตรวจสอบจำนวนและระดับคุณภาพผลงานวิชาการ (ค่าน้ำหนัก) กับสถาบันวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน และควรดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจประเมินระดับหลักสูตร 4) การนำเสนอในการประชุมวิชาการต้องเป็น Full paper ที่ตีพิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์ในรูปแบบเอกสารหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 5) การนับการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานของนักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษา นับ ณ วันที่ได้รับการตีพิมพ์ผลงานในวารสาร ไม่ได้นับจากวันที่ได้รับการตอบรับ (Accepted)
ตัวบ่งชี้ 2.4 งานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรมที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อชุมชน (ปีปฏิทินที่ตรงกับปีประเมิน) แนวทางการประเมิน: 1) นับจำนวนชิ้นงานของงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรมที่นำไปใช้ประโยชน์ในปีที่ประเมิน 2) งานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรมที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อชุมชน อาจนับคะแนนซ้ำได้ในกรณีต่างชุมชนในปีที่รับการประเมินกรณีที่มีการนำไปใช้ประโยชน์แต่ละชุมชน ต้องมีหลักฐานการพัฒนาชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม 3) สำหรับงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรมที่เคยถูกนำไปใช้ประโยชน์สามารถนำไปใช้ในการประเมินในปีถัดไปได้ โดยงานวิจัยดังกล่าวต้องแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาต่อยอดอย่างเป็นรูปธรรม 4) บุคคลที่สามารถรับรองการนำไปใช้ประโยชน์ได้ให้ใช้เกณฑ์เดียวกับตัวบ่งชี้ที่ 1.8 5) คำอธิบายของสูตรคำนวณ ตัวตั้ง หมายถึง ผลรวมของงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรมที่นำไปใช้ประโยชน์ที่ใช้ประโยชน์ในปีที่ประเมิน ตัวหาร หมายถึง จำนวนงานวิจัย งานสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรมทั้งหมดในปีที่ประเมิน (งานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยในปีที่ปะเมินเท่านั้น โดยมีสัญญาการรับทุนสนับสนุนการวิจัย และห้ามนับซ้ำ)
องค์ประกอบที่ 3 การบริการวิชาการ
ตัวบ่งชี้ 3.1 ระบบและกลไกการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนเพื่อพัฒนาท้องถิ่น (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: 1) ต่อเนื่อง หมายถึง การดำเนินงานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป 2) กรณีมหาวิทยาลัยพัฒนาชุมชนเดิมต่อเนื่องมากกว่า 3 ปี จะต้องมีการเปลี่ยนประเด็นการพัฒนา
ตัวบ่งชี้ 3.2 จำนวนชุมชนเป้าหมายที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามแผนเสริมสร้างความสัมพันธ์ชุมชน (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: นับจำนวนชุมชนเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนเสริมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนที่มหาวิทยาลัยได้เข้าไปร่วมดำเนินการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์
องค์ประกอบที่ 4 ด้านศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย
ตัวบ่งชี้ 4.1 ระบบแลกลไกด้านศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย (ปีการศึกษา)
องค์ประกอบที่ 5 การบริหารจัดการ
ตัวบ่งชี้ 5.1 การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการกับการทำงาน (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: เกณฑ์มาตรฐานข้อที่ 1 หมายถึง คณะต้องมีระบบและกลไกในการส่งเสริมให้หลักสูตรจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการกับการทำงาน ซึ่งแผนดังกล่าวหลักสูตตจะต้องอธิบายถึงผลการดำเนินการในสถานประกอบการ
ตัวบ่งชี้ 5.2 การบริหารของคณะเพื่อการกำกับติดตามผลลัพธ์ตามพันธกิจกลุ่มสถาปัน และเอกลักษณ์ของคณะ (ปีการศึกษา)
5.2 (2) วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน
ตัวบ่งชี้ 5.3 ระบบกำกับการประกันคุณภาพหลักสูตร (ปีการศึกษา) แนวทางการประเมิน: คุณภาพหลักสูตรดีขึ้นอย่างต่อเนื่องให้พิจารณาตามเกณฑ์ทั้ง 2 ประเด็น ดังนี้ 1) ผลรวมของคะแนนเฉลี่ยทุกหลักสูตรต้องดีขึ้นต่อเนื่องโดยไม่พิจารณาจากเส้นแนวโน้ม (Trendline) ใช้ข้อมูล 3 ปีย้อนหลัง 2) ผลการประเมินคุณภาพฯ ของแต่ละหลักสูตรดีขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของหลักสูตรทั้งหมดโดยไม่พิจารณาเส้นแนวโน้ม (Trendline) ใช้ข้อมูล 3 ปีย้อนหลัง **กรณีหลักสูตรไม่ผ่านเกณฑ์ตัวบ่งชี้ที่ 1.1 การกำกับมาตรฐานจะไม่พิจารณาผ่านเกณฑ์ข้อที่ 5**