ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครูวิทยฐานะชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้สูงขึ้น โดยการปรับประยุกต์ใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ "Flipped Classroom" ห้องเรียนกลับด้าน
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
การศึกษามีบทบาทต่อการพัฒนาเด็ก เยาวชนและประชาชนให้เป็นผู้มีคุณภาพที่จะสามารถพัฒนาชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจากการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกจำเป็นที่การจัดการศึกษาของประเทศไทยจะต้องเร่งรัดพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีศักยภาพเพียงพอต่อการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งยังสามารถอนุรักษ์ความเป็นไทยได้ในประชาคมโลก โลกในยุคปัจจุบันเป็นโลกยุคโลกาภิวัตน์ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างกว้างขวางรวดเร็วและทั่วถึงกันทุกมุมโลกกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนจึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงเพิ่มพูนศักยภาพของบุคคลทั้งด้านความรู้ ทักษะทัศนคติค่านิยม โดยการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการศึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นบุคคลที่มีคุณค่ามีความสามารถมีคุณภาพในการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาประเทศชาติได้อย่างเต็มศักยภาพมี “การพัฒนาที่ยั่งยืน (sustainable development) และความอยู่ดีมีสุขของคนไทย” เป็นการพัฒนาแบบองค์รวมที่ยึดคนเป็นศูนย์การพัฒนา ดังนั้นแนวทางและทิศทางการศึกษาของชาติจึงเป็นการเพื่อก่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน มีความสอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สังคม และเจริญก้าวหน้าของวิทยาการ องค์ความรู้ต่าง ๆ เกิดขึ้นจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้เป็นปัจจัยให้คนเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ส่งเสริมให้พัฒนาองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีให้มีประสานวิทยาการสากลกับภูมิปัญญาท้องถิ่น
ปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในโรงเรียนถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เร่งรัดแก้ไขอย่างจริงจังจะทำให้เด็กที่ต้องอยู่ในระบบนี้กลายเป็นเด็กด้อยโอกาสที่ได้รับการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพและต้องออกจากระบบการศึกษาในที่สุด อนาคตของเด็กกลุ่มนี้จะกลายเป็นแรงงานไร้ฝีมือที่อยู่ในกลุ่มคนยากจนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนครูที่ต้องสอนอยู่ในโรงเรียนเหล่านี้ก็จะกลายเป็นครูที่ขาดขวัญกำลังใจ ท้อแท้และสิ้นหวังที่ตนเองถูกทอดทิ้งให้ต้องทำงานอยู่ในสภาพที่ขาดแคลนและไร้อนาคต การแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กต้องคำนึงถึงความยั่งยืนและประโยชน์ของนักเรียนและของครูทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคุ้มค่าในการลงทุนพัฒนากำลังคนของชาติในระยะยาว (สมบัติ ธำรงธัญวงศ์, 2557)
โรงเรียนอนุบาลกันทรารย์ เป็นโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 1 ที่ประสบปัญหาจำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ ปัญหาคุณภาพผู้เรียน ที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนขาดความสนใจ ไม่มีความกระตือรือร้นในการเรียนวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เนื่องจากเป็นวิชาที่มีขอบข่ายเนื้อหากว้างจนเกินไป ไม่มีหลักการและแนวคิดที่ตายตัว ด้วยเนื้อหาที่เยอะและส่วนใหญ่เป็นนามธรรม ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างในการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนจำเป็นต้องเร่งรัดเนื้อหา กระบวนการสอนส่วนใหญ่เน้นไปที่การบรรยายและการท่องจำ เป็นต้นเหตุทำให้นักเรียนเกิดความรู้สึกเบื่อ ขาดความสนใจในการเรียน ด้วยรายวิชาสังคมศึกษา เป็นวิชาที่ เรียนแล้วจำ ทำให้ง่วง การท่องจำ ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาในหลายตัวชี้วัดของหลักสูตรได้ ผู้เรียนยึดติดกับการเรียนแบบท่องจำ และไม่สามารถเข้าใจ วิเคราะห์ในเนื้อหาสาระความรู้อย่างเป็นระบบได้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ ครูผู้สอนจึงใช้วิธีการจัดการเรียนรู้โดยรูปแบบวิธีการสอนที่เรียกว่า "Flipped Classroom" หรือ "ห้องเรียนกลับด้าน" “เรียนที่บ้าน ทำการบ้านที่โรงเรียน”เพื่อช่วยให้การเรียนในชั้นเรียนเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด แทนที่ครูจะใช้เวลาในการสอนเนื้อหาที่นักเรียนสามารถเรียนเองได้ที่บ้าน ครูทำการผลิตสื่อการสอน เช่น ใบความรู้ คลิปการสอนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้น ให้ผู้เรียนได้เรียนที่บ้านมาก่อน ข้อดีคือ สำหรับนักเรียนที่ตามไม่ทันเพื่อน สามารถค้นคว้าใบความรู้เนื้อหาต่างๆ ได้ในหนังสือเรียนจาก Google หรือหยุดวีดีโอ ฟังซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะเข้าใจได้ หลังจากนั้น จึงเข้ามาในห้องเรียน ในการทำกิจกรรมการเรียนรู้การสอน ส่งเสริมให้เรียนแบบเชิงรุก (active learning) มีการทำงานร่วมกัน (collaborative learning ) และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (student centered) ซึ่งครูผู้สอนสามารถสังเกต สอบถาม ให้นักเรียนได้อภิปราย เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนได้ ผ่านกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการหยิบยกประเด็นที่ผู้เรียนยังไม่เข้าใจ มาอภิปราย ค้นหาคำตอบในชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากแนวคิดดังกล่าว ครูผู้สอนวิชาสังคมศึกษา จำเป็นต้องหารูปแบบ วิธีการที่มีประสิทธิภาพในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน จึงได้ดำเนินการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้สูงขึ้น โดยการปรับประยุกต์ ใช้กระบวนการเรียนการสอน แบบ "Flipped Classroom" ห้องเรียนกลับ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนต่อไป
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผลให้บรรลุผล
2.1 วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนในการปรับประยุกต์ ใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ "Flipped Classroom" ห้องเรียนกลับ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง วันสำคัญทางพุทธศาสนา
2.2 เป้าหมาย
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้สูงขึ้น
2.3 วิธีการดำเนินงาน
1. ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง มาตรฐาน ตัวชี้วัดที่นักเรียนต้องรู้ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมรายวิชาสังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อออกแบบหน่วยการเรียนรู้ตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด
2. ทำการวิเคราะผู้เรียนและนำผลของการวิเคราะห์ไปจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสมรรถนะของผู้เรียน
3. จัดทำสื่อในรูปแบบที่หลากหลาย ให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เช่น ใบความรู้ คลิปการสอน และจัดสภาพแวดล้อมในการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสม มีสื่อ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ
4. ใช้รูปแบบในการวัดและประเมินผลในรูปแบบที่หลากหลายสอดคล้องกับผู้เรียน เช่น การสังเกต สอบถาม อภิปรายและการทดสอบ เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มากน้อยเพียงใดเพื่อครูจะได้นำผลไปปรับปรุงในการเรียนครั้งต่อไป
5. ใช้กระบวนการ PLC เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหา พัฒนาสื่อและนวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพ หลากหลายรูปแบบ ทันสมัย เหมาะสมกับผู้เรียน
6. รายงานต่อผู้บริหารและนำผลมาสะท้อนในการจัดการเรียนรู้ ดูจากการสังเกต สอบถาม เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อประเมินการเรียนรู้ นำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาในการจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไปเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลกันทรารมย์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น หลังจากได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ สื่อการเรียนการสอน ในการปรับประยุกต์ ใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ "Flipped Classroom" ห้องเรียนกลับ นักเรียนร้อยละ 75 มีคะแนนทดสอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 (อิงค่าเป้าหมายของแต่ละกลุ่มสาระฯ ในปีนั้นๆ)
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลกันทรารมย์ ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้สื่อการเรียนการสอนในการปรับประยุกต์ ใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ "Flipped Classroom" ห้องเรียนกลับ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
4. ผลการพัฒนาตามประเด็นท้าทาย
4.1 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลกันทรารมย์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น หลังจากได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ สื่อการเรียนการสอน ในการปรับประยุกต์ ใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ "Flipped Classroom" นักเรียนร้อยละ 75 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
4.2 นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้สื่อการเรียนการสอนในการปรับประยุกต์ ใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ "Flipped Classroom" ห้องเรียนกลับ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น