psychology
จิตวิทยา
psychology
จิตวิทยา
การใช้เวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง เข้าใจ "สัดส่วนเวลา" ของตัวเอง ทำไม "สตีฟ จ็อบส์" ถึงตื่นเช้า วิธีปลดปล่อย "ช่วงเวลาที่ทำให้กังวลง่ายที่สุด" ออกจากชีวิตคืออะไร ยิ่งไม่มีเวลายิ่งเปลี่ยนพฤติกรรมง่าย วิธี "10 เปอร์เซ็นต์" ที่ช่วยให้ทุกคนตื่นเช้าได้ วิธีเปลี่ยนการไปทำงานตอนเช้าให้เป็นบวก ถ้าเปลี่ยนเวลาไม่ได้ ลองเปลี่ยนวิธีใช้เวลาดู
ทุกคนต้องการเป็นที่ชื่นชอบและได้รับการยอมรับกันทั้งนั้น แต่บางคนก็แคร์สายตาคนอื่นมากไปจนไม่เป็นตัวของตัวเอง สุดท้ายก็กดดันและเป็นทุกข์.. "เลิกเป็นคนดี แล้วจะมีความสุข" จะช่วยให้คุณกล้าเป็นตัวเองมากขึ้น และแคร์สายตาคนอื่นน้อยลง เช่น เลิกกลัวการถูกเกลียด เลิกเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคนอื่น และเลิกเกรงใจจนเกินเหตุ เป็นต้น
เมื่อกล้ายืนหยัด "ความคิด" ของตัวเอง กล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่ทำไม่ได้ และสิ่งที่ทำไม่ไหว เราก็จะไม่ต้องเสแสร้ง ไม่อึดอัด และไม่ถูกคนอื่นเอาเปรียบอีกต่อไป.. "เลิกเป็นตัวเองที่คนอื่นชอบ.. หันมาเป็นตัวเองที่อยากเป็น แล้วจะใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากขึ้น"
มนุษย์เกิดมาพร้อมกับเชาว์ปัญญา และสามารถพัฒนาเชาว์ปัญญขึ้นได้ แต่สังคมกลับขัดขวางการพัฒนาเชาว์ปัญญาของมนุษย์ ไม่เคารพในความเป็นปัจเจกบุคคล แล้วเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นหุ่นยนต์แทน ด้วยการป้อนคำสั่งต่างๆ มากมาย ตั้งค่าลักษณะต่างๆ ที่ต้องการ ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่ลักษณะที่แท้จริงของคนคนนั้นก็เป็นได้ เราผลิตมนุษย์ที่มี "ความรู้" มี "ความจำ" แต่เราไม่ได้พัฒนาเชาว์ปัญญาอันจะนำมาซึ่งการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีลักษณะเฉพาะ และเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง
คนเก่งมาจากไหน? หลายคนอาจนึกสงสัย แต่มันไม่ใช่คำถามที่ตอบได้ง่าย ๆ เลย "Daniel Coyle" นักเขียนชื่อดังจึงได้ศึกษาคนเก่งระดับโลกในหลากหลายวงการไล่ตั้งแต่ดนตรี ศิลปะ กีฬา วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงธุรกิจผ่านการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์ จนค้นพบว่า แท้จริงแล้วเบื้องหลังความเก่งของคนเหล่านั้นมีต้นกำเนิดมาจากปัจจัยเพียง 3 อย่าง หากเข้าใจปัจจัยเหล่านี้และนำไปปรับใช้ คนธรรมดาก็สามารถกลายเป็นคนเก่งระดับโลกได้เช่นกัน แล้วปัจจัยทั้ง 3 อย่างนั้นมีอะไรบ้าง? หาคำตอบได้ในหนังสือเล่มนี้!
"ไซโต ทาคาชิ" เป็นคนหนึ่งที่ต้องตื่นมาทำงานตอนเช้า ทั้ง ๆ ที่เป็นพวกนอนดึกตัวยง จนในที่สุดเขาก็ค้นพบเทคนิคการพัฒนาตัวเองและสร้างผลงานแจ่ม ๆ ในช่วงเวลาทองอย่างตอนกลางคืน อาทิ ความจำจะแม่นยำ "ตอนกลางคืน" , การชมภาพยนตร์ในเวลากลางคืนเป็นขุมทรัพย์แห่งภูมิปัญญา, ตอนกลางคืนเป็นเวลาที่พลังจินตนาการกระพือปีก, ความลุ่มลึกของ "คำพูด" จะเปลี่ยนไป ด้วยการอ่านหนังสือในช่วงเวลาตอนกลางคืน เป็นต้น จะทนทำงานในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะกับตัวเองไปทำไม มาเพิ่มผลงานในช่วงเวลาที่ใช่กันดีกว่า!
หนังสือ "Burn-out Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน" เล่มนี้ จะเป็นคู่มือสำรวจตนเองและบุคคลใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะหมดไฟในการทำงานในแง่มุมสุขภาพ หากใครพบว่าตนเองกำลังหมดไฟในการทำงาน ขอให้รีบนำร่างกาย จิตใจ สมอง และสติกลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อให้อาการเบิร์น-เอ๊าต์หนีหายไป และไฟกลับมาลุกโชนพร้อมลุยงานใหม่ได้อีกครั้ง!
เมื่อชีวิตของเราเดินทางมาถึงจุดจุดหนึ่ง เราอาจจะไม่ได้ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ไม่ได้ต้องการเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ไม่ได้ต้องการชื่อเสียง เงินทอง หรือทรัพย์สินใด ๆ แต่สิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง คือ "ความสุข" เริ่มต้นค้นหาความสุขให้แก่ตัวคุณเองได้อย่างง่าย ๆ ด้วยหนังสือ "ความสุขหมุนรอบตัวเรา" เล่มนี้ ที่จะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนความคิด มุมมอง และลองเปิดใจ คุณก็จะได้รู้จักกับคำว่า...ความสุข เพราะความสุขนั้นอบอวลอยู่รอบ ๆ ตัวเรา เพียงแต่เราจะรู้สึกถึงไหม....นั่นคือคำตอบ!
ชีวิตของคุณวุ่นวายมากพอแล้ว ทำไมต้องไปสนใจความคิดของผู้อื่น ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สวย คุณต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้ใบหน้าในการดำเนินชีวิต คุณก็ยังสามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขได้! เมื่อเรามีความมั่นใจมากพอ เราจะสามารถออกแบบชีวิตของเราเองได้ราวกับว่าเราเป็นผู้กำกับชีวิตของเราเอง จงกล้าที่จะตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่หวาดกลัวต่อทุกความรู้สึกของตัวคุณเอง เพื่อทำให้จิตใจของคุณผ่อนคลาย ช่วยให้ตัวตนที่แท้จริงของคุณเดินออกมาจากจิตใจ นี่คือสิ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นน่าสนใจ และมีความสุข
"เปลี่ยนเบอร์มือถือเปลี่ยนชีวิต ตอนพระคุณพ่อแม่" เล่มนี้ ได้เน้นเรื่องความหมายของตัวเลขที่เหมาะสม และไม่เหมาะสมสำหรับการเลือกเบอร์มือถือให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ เบอร์ไหนไม่ดีใช้แล้วทุกข์ หาความสุขไม่ได้ แถมยิ่งใช้ยิ่งสุขภาพย่ำแย่ รู้แล้วรีบหลีกหนีให้ไกล หากคุณพ่อคุณแม่ใครใช้อยู่รีบเปลี่ยนให้ด่วน ส่วนเลขไหนดี ใช้แล้วสุขภาพแข็งแรง ชีวิตมีแต่ความสุข ครอบครัวอบอุ่น ใช้แล้วเป็นที่รัก ชีวิตดี๊ดี รู้แล้วก็อย่ารอช้า รีบไปหาเบอร์มือถือที่มีเลขเหล่านี้ให้คุณพ่อคุณแม่ใช่ด่วน!
ลองทลายกำแพง "ความไม่เชื่อ" ของคุณลง แล้วคุณจะได้เห็นประตูที่เชื่อมโยงความฝันของคุณกับความจริงได้ชัดเจนขึ้น คุณจะเห็นว่ามัน "เป็นไปได้" คุณแค่ก้าวออกไปจากประตูนั้น แล้วเริ่มลงมือทำตามความฝันอย่างจริง ๆ จัง ๆ สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ในหนังสือเล่มนี้คือ 50 กำแพง ที่กีดขวางคุณจากความสำเร็จที่คุณต้องการในชีวิต ซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้ตัวว่า มันคือกำแพงที่คุณสร้างขึ้นกีดขวางตัวเอง มันไม่ใช่อุปสรรคของจริง มันแค่อุปสรรคในความคิด ซึ่งย่อมแก้ได้ที่การ "เปลี่ยนแปลงความคิด" ของคุณเสียใหม่ และเริ่มคิดอย่างคนสำเร็จว่า "ทุกกำแพงคือประตู" ที่จะพาคุณไปสู่ความฝันที่เป็นจริง
"วะบิ ซะบิ" คือปรัชญาเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับปรัชญาอื่นๆ อย่าง "อิคิไก" และ "คินสึงิ" ซึ่งฝังร่างลึกอยู่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมายาวนาน ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างกว้างขวาง แต่หากถามคนญี่ปุ่นว่า "วะบิ ซะบิ" คืออะไร ก็แทบไม่มีคนญี่ปุ่นคนไหนตอบได้ตรง ๆ ทุกคนจะบอกว่ามันลอยอยู่ในสายลม เร่าร้อนอยู่ในแสงแดด สดชื่นอยู่ในซากุระบานและตรึงใจอยู่ในใบเมเปิ้ลเหี่ยว ทั้งในความสุขและในความทุกข์ ในรูปและในนาม และอาจกล่าวได้ว่าทุกสรรพสิ่งล้วน "ไม่เที่ยง, ไม่สมบูรณ์ และ ไม่เสร็จสิ้น" เรื่องราวของ "วะบิ ซะบิ" จึงเปรียบได้กับการเฉลิมฉลองให้ความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิตคนเรา
การทำให้คนอื่นชื่นชอบถือเป็นคนฉลาดและความสามารถอย่างหนึ่ง หากบอกว่าความรู้และทักษะมากมายที่พวกเราร่ำเรียนในโรงเรียนถือเป็น "ความรู้จากหนังสือ" ถ้าอย่างนั้น "การทำให้คนชอบ" ซึ่งเป็นหนทางอยู่รอดที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนก่อนจะตกผลึกออกมาได้ก็เป็น "ความรู้จากความรู้สึก"
บางคนมีความรู้ แต่ไม่ได้เติบโตเท่าที่ควร นั่นไม่ใช่เพราะเขาขาด "ความรู้จากหนังสือ" แต่ขาด "ความรู้จากความรู้สึก" ต่างหาก หากมีความรู้ความสามารถ แต่ไม่รู้จักควบคุมความรู้สึกของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไร ไม่รู้วิธีเข้าหาคน ไม่รู้ว่าจะทำให้อีกฝ่ายไว้วางใจได้อย่างไร ถ้าเป็นอย่างนี้เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
หนังสือ "120 วิธีทำให้คนอื่นชอบ" เล่มนี้รวบรวมกุญแจความสำเร็จในการทำให้ผู้อื่นชอบกว่า 100 วิธีจากการเข้าสังคมและจากผูกสัมพันธ์ระหว่างคน หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองในการเข้าสังคมและทำให้คุณกลายเป็นที่รักของผู้อื่นมากยิ่งขึ้นได้
ความฝันของคุณที่เคยบอกกับเพื่อนเอาไว้ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณได้ทำมันให้กลายเป็นจริงแล้วหรือยัง คำสัญญาที่คุณให้ไว้กับตัวเองว่าอีก 10 ปีหลังจากนี้คุณจะทำมันได้หรือเปล่า คุณอาจจะเคยผ่านช่วงเวลาที่มืดมนในชีวิตถูกคนอื่นหัวเราะเยอะดูถูกและเหยียดหยาม แต่ก็มีเพียงคุณเท่านั้น ที่จะสามารถพาตัวเองฝ่าฟันอุปสรรคและขวากหนามไปพบกับท้องฟ้าที่สดใสสวยงามได้
หนังสือเล่มนี้ได้คัดสรรเรื่องราวไว้กว่า 90 เรื่องเพื่อให้คุณได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้อย่างละเอียด ค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศและรสชาติที่จะทำให้คุณหลงรักและดื่มด่ำกับการใช้ชีวิต และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะนำหนังสือเล่มนี้วางไว้ข้างหมอน ในเวลาที่คุณรู้สึกลังเล ทุกข์ใจ หรือแม้แต่ยามว่าง ขอให้คุณลองพลิกหนังสือเล่มนี้อ่านดู บางทีมันอาจมีคำตอบให้กับคุณ ให้พลังคุณทำให้คุณสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางชีวิตได้ และพาคุณไปสู่จุดที่คุณจะไม่มีวันพ่ายแพ้
ในชีวิตเรา “การมองคน” เป็นวิชาชีวิตที่สำคัญมาก เพราะพวกเราต้องพบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา เพื่อไม่ให้ผู้อื่นหลอกใช้ความรู้สึกและผลประโยชน์จากเรา พวกเราต้องแยกแยะผู้คนที่อยู่ข้างตัวเราให้ออก อย่าให้คนหลอกลวงแสร้งทำตัวเป็นเพื่อนเรา และอย่าให้เพื่อนเราถูกใส่ความจนกลายเป็นศัตรู การไม่ระมัดระวังจนมองคนผิด จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดและเสียใจภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเจ็บปวดทางจิตใจ แค่มองคนผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจต้องตกอยู่ในคุกแห่งความเจ็บปวดตลอดชีวิต ไม่อาจหลุดออกมาได้ แม้จะรู้ว่าตัวเองมองคนผิดไปแล้วก็ตาม...
ทักษะการเข้าสังคมคือบทเรียน มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเวลาที่เราต้องการสื่อสารกับคนอื่่น เราจำเป็นต้องเรียนการพูดคุยกับคนอื่นอย่างไรให้ได้ผล เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้สึกและความคิดต่างๆ กับคนอื่น เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะใส่ใจคนอื่น คิดเพื่อคนอื่น เราต้องรู้จักให้อภัย เราต้องให้ความสำคัญกับการแต่งตัวของเราการกระทำของเรา พยายามสร้างความประทับใจ แล้วเราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับผู้อื่นได้
ทักษะการเข้าสังคมเป็นศิลปะในเชิงปฏิบัติ เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากประสบการณ์และสะสมเทคนิคต่างๆ หนังสือเล่มนี้นำข้อมูลมาจากหนังสือของ คุณเดล คาร์เนกี ให้คุณคิดว่าหนังสือเล่มนี้คือกล่องเครื่องมือ เวลาที่คุณเจอปัญหาในการสื่อสาร คุณสามารถเปิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาแล้วหาคำตอบจากมันได้ บางทีมันอาจจะช่วยคุณได้
อารมณ์ความรู้สึกก็เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตที่ขาดไม่ได้ ครอบครัว ความรัก มิตรภาพ สามารถเติมเต็มความหมายที่แท้จริงของชีวิตของบุคคลๆ หนึ่งได้ สามารถก่อให้เกิดกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยเหตุนี้ ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการจัดการด้านอารมณ์ความรู้สึกจึงมักจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความก้าวหน้าและความล้มเหลวของงาน
คนที่มี EQ สูงไม่เพียงแต่จะเก่งด้านการแยกแยะและควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ แต่ยังจะมีอิทธิพลในการปรับเปลี่ยนอารมณ์ของคนอื่นได้อีกด้วย ยิ่งจัดการกับปัญหาทางอารมณ์ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทำให้ทุกเรื่องที่ตนเองและคนรอบข้างไม่หันไปสู่ทิศทางที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเอง ในที่สุดก็จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและมีความสุขกับชีวิต
การอ่อนน้อมถ่อมตัวไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนอ่อนแอ และไม่ได้หมายความว่าคุณกลัว มันแสดงให้เห็นถึงสติปัญญาที่ดีของคุณ การอ่อนน้อมถ่อมตัวในการใช้ชีวิต จะทำให้คุณสงบสุขและสามารถเผชิญทุกสิ่งอย่างในชีวิตได้ ถ้าคุณชอบโอ้อวดตัวเองทำให้คนอื่นเสียหน้าโดยที่ไม่รู้ตัว คนอื่นๆ ก็จะไม่ชอบคุณ แล้วก็จะพูดถึงคุณไม่ดีลับหลังหรือไม่ก็จะหาทางทำร้ายคุณ แล้วคุณก็ต้องเจอเรื่องยากลำบากมากขึ้น ถ้าหากว่าคุณชอบที่จะโอ้อวดผู้อื่น คุณจะต้องหยุดพฤติกรรมนั้นซะ
การที่เราใช้ชีวิตด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตัว จะทำให้ชีวิตของคุณสวยงามและประสบความสำเร็จ เราสามารถเห็นได้จากคำพูดโบราณของชาวจีนและเรื่องราวต่างๆ ที่พูดถึงเกี่ยวกับแนวคิดนี้ การที่เรามีความอ่อนน้อมถ่อมตัวในการใช้ชีวิตมันจะทำให้เราทำทุกอย่างได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นได้และทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ในที่สุด