ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อทางเดินหายใจ ผู้ป่วยมักมีอาการ มีไข้สูง ปวดเมื่อย ไอ อยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งมักพบบ่อยในฤดูฝนและฤดูหนาว หากปล่อยไว้แล้วมีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจเสี่ยงติดเชื้อในปอดและทำให้เสียชีวิตได้
ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก เกิดจากไวรัสที่เรียกว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus) ที่ติดต่อได้ง่ายผ่านการหายใจหรือการสัมผัสกับผู้ป่วย สามารถพบได้ทุกช่วงอายุ ซึ่งเด็กเอง ก็จะมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กเล็ก
สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่
คนทั่วไปอาจสัมผัสเชื้อไวรัสจากละอองฝอยในอากาศ เมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูดคุย คนทั่วไปอาจสูดรับเชื้อโรคทางลมหายใจหรือสัมผัสเชื้อที่ติดอยู่บนพื้นผิวของวัตถุ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือคีย์บอร์ด ผู้ป่วยจะสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนแสดงอาการ และยังสามารถแพร่เชื้อได้ต่อไปอีก 5 วันหลังแสดงอาการ ผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องจะสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่า มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา หากได้รับวัคซีนหรือป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มาก่อน ร่างกายมักมีภูมิต้านทานโรค หากเชื้อไวรัสตัวใหม่นั้นมีความใกล้เคียงกับเชื้อตัวเก่าที่เคยเป็น ร่างกายจะมีแอนติบอดีป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไประดับแอนติบอดีในร่างกายจะลดลง หากสัมผัสกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ร่างกายไม่เคยรู้จักมาก่อน แอนติบอดีที่มีอยู่เดิมจะไม่สามารถสู้กับและป้องกันการติดเชื้อได้
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถลดความรุนแรงของอาการและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาการของโรคไข้หวัดใหญ่และ COVID-19 มีความคล้ายคลึงกัน การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถลดและป้องกันความสับสนระหว่างโรคทั้งสองนี้ การรับวัคซีนทั้ง COVID-19 และไข้หวัดใหญ่ในเวลาเดียวกันนั้นทำได้ สําหรับผู้ที่มีอาการแพ้ไข่ขาวสามารถรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้
ภก.อ.ดร.วิรัตน์ ทองรอด กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ (Influenza, flu) เป็น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัส influenza ซึ่งมีการ แพร่กระจายอยู่ทั่วโลก ติดต่อด้วยการหายใจเอาละอองฝอยในอากาศที่มีอนุภาคของไวรัสเข้าสู่ทางเดิน หายใจจากจมูก สู่คอ และถึงปอดในที่สุด ท าให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่ในระดับต่างๆ ตั้งแต่เล็กๆ น้อยๆ หรือ มี ภาวะแทรกซ้อนรุ่นแรง ซึ่งในบางรายจะถึงแก่ชีวิตได้
แพทย์หญิงกนกพร รังสิตเสถียร และ อาจารย์แพทย์หญิงวรรษมน จันทรเบญจกุล กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม) และฤดูหนาว (มกราคม-มีนาคม) ของทุกปี อาการของโรคจะมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการที่รุนแรงและเสียชีวิตได้
จากความหมายของ โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (Influenza virus) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์และสามารถทำให้เกิดการระบาดทั่วโลกในช่วงฤดูหนาว มีลักษณะอาการที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้สูง, เจ็บคอ, ปวดกล้ามเนื้อ, ไอแห้ง และอ่อนเพลีย ไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม และการสัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อ สามารถพบได้ทุกช่วงวัยโดยเฉพาะเด็กเล็ก
โรคไข้หวัด (หรือที่เรียกว่าไข้หวัดใหญ่) เป็นโรคที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเด็กในปฐมวัย (เด็กเล็กอายุประมาณ 1-6 ปี) มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไข้หวัด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขายังไม่พัฒนาเต็มที่ นอกจากนี้ เด็กในช่วงปฐมวัยมักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการติดต่อทางสังคมสูง เช่น โรงเรียนอนุบาล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ง่าย
อาการของไข้หวัดในเด็กมักจะรวมถึงไอ, จาม, มีน้ำมูก, และบางครั้งอาจมีไข้สูง การดูแลที่เหมาะสมและการป้องกันการติดเชื้อ เช่น การรักษาความสะอาด การล้างมือบ่อย ๆ และการฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาอาการของไข้หวัดได้
🐞ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
Robert Webster เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีบทบาทสำคัญในการศึกษาความหลากหลายและกลไกการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza).
1.บทบาทของ Webster
การศึกษาไวรัสไข้หวัดใหญ่ Webster เป็นที่รู้จักในด้านการศึกษาเกี่ยวกับไวรัสไข้หวัดใหญ่และการศึกษาลักษณะทางพันธุกรรมของมัน
การกลายพันธุ์ เขาได้ศึกษาว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถกลายพันธุ์และเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้การฉีดวัคซีนประจำปีอาจมีความจำเป็น เพราะไวรัสอาจปรับตัวให้แตกต่างออกไปจากที่เคยพบในปีที่แล้ว
2.ทฤษฎีการกลายพันธุ์ของไวรัส
Antigenic Drift Webster ได้ช่วยให้เข้าใจถึงกระบวนการนี้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในโครงสร้างของโปรตีนที่อยู่บนพื้นผิวของไวรัส ทำให้ภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ไม่สามารถรับรู้และป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Antigenic Shift เขายังศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของไวรัสที่เกิดจากการรวมกันของเชื้อไวรัสจากสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การระบาดใหญ่หรือการระบาดของสายพันธุ์ใหม่
3.การนำไปใช้
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ การเข้าใจการกลายพันธุ์ของไวรัสช่วยในการพัฒนาวัคซีนที่สามารถตอบสนองต่อสายพันธุ์ที่แตกต่างกันได้
การเฝ้าระวัง การศึกษาของ Webster ช่วยในการติดตามและทำนายการเปลี่ยนแปลงของไวรัสที่อาจก่อให้เกิดการระบาดใหม่
การวิจัยของ Robert Webster เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาแนวทางการป้องกันและการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ โดยการทำความเข้าใจกลไกการกลายพันธุ์และวิวัฒนาการของไวรัสไข้หวัดใหญ่
🐠แนวทางในการจัดกิจกรรมโรคไข้หวัดใหญ่
การจัดกิจกรรมเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สำหรับเด็กปฐมวัยควรมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้และส่งเสริมสุขอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ต่อไปนี้เป็นแนวทางที่สามารถใช้
1. การศึกษาและการเรียนรู้
- จัดกิจกรรมให้เด็กเข้าใจถึงไข้หวัดใหญ่ เช่น การเล่าเรื่องหรือการอ่านหนังสือนิทานเกี่ยวกับสุขภาพ
- ใช้สื่อการสอนที่เข้าใจง่าย เช่น ภาพประกอบ หรือการ์ตูน เพื่ออธิบายถึงการแพร่กระจายของไวรัส
2. การส่งเสริมสุขอนามัย
- สอนเด็กให้ล้างมืออย่างถูกวิธีและบ่อยครั้ง
- สอนวิธีการปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม โดยใช้ทิชชู่หรือแขนเสื้อ
- จัดกิจกรรมที่เน้นการใช้ทิชชู่และการทิ้งทิชชู่ในถังขยะอย่างถูกต้อง
3. การจัดกิจกรรมทางกาย
- จัดเกมที่เน้นการเคลื่อนไหว เช่น การเดินหรือวิ่งเล่นที่กระตุ้นให้เด็กมีสุขภาพดี
- ใช้กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
4. การจัดวัคซีน
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่และความสำคัญของการฉีดวัคซีน
- อาจมีการจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานสุขภาพเพื่อให้ข้อมูลและการฉีดวัคซีนแก่เด็ก
5. การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง
- ให้ข้อมูลแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่และความสำคัญของการฉีดวัคซีน
- ส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีบทบาทในการสอนเด็กเกี่ยวกับสุขอนามัยที่บ้าน
จัดการสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ การป้องกัน และการรักษา อาจเชิญแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญมาพูดคุยและตอบคำถาม
จัดกิจกรรมวิ่งหรือเดินเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันไข้หวัดใหญ่
เช่น การเขียนเรียงความหรือการประกวดภาพวาดที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในโรงเรียนหรือชุมชน