จุดมุ่งหมายที่สำคัญในการจัดการเรียนรูในรายวิชาวิทยาศาสตร์ในกับผู้เรียนคือ การใหผูเรียนมีแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกตองเพื่อสามารถนําแนวคิดเหลานั้นไปใชประโยชนในชีวิตประจําวันและสามารถนำข้อมูลวิทยาศาสตร์เหล่านั้นไปสื่อสารกับผู้อื่นให้เข้าใจได้ การสื่อสารทางวิทยาศาสตร์จึงเป็นสิ่งที่ควรได้รับการพัฒนาและเสริมสร้างให้กับผู้เรียน เนื่องจากการสื่อสารข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายช่วยให้นักเรียนสามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น เช่น การเข้าใจแนวคิดทางฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และโลกวิทยาศาสตร์อื่นๆ การสื่อสารที่ดีช่วยให้เนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ไม่รู้สึกยากเกินไปและทำให้นักเรียนรู้สึกสนุกกับการเรียน นอกจากนี้สามารถช่วยให้นักเรียนฝึกฝนการคิดวิจารณญาณ เช่น การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง การตรวจสอบหลักฐาน และการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่มีการสื่อสารอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นทักษะที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันและในการเรียนรู้ที่สูงขึ้น และเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอนาคต การสื่อสารข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจและเตรียมตัวในการทำงานในสาขาเหล่านี้ ซึ่งจำเป็นต้องมีทักษะด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการเติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอีกทั้งยังช่วยให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะการสื่อสารของตนเอง เช่น การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย การถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นเข้าใจ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในอนาคต
อย่างไรก็ตามปัญหาการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ของผู้เรียนมีหลายประการที่อาจทำให้การเรียนรู้วิทยาศาสตร์เป็นไปได้ยากหรือไม่เต็มที่ โดยเฉพาะเมื่อการสื่อสารไม่สามารถถ่ายทอดข้อมูลหรือแนวคิดได้อย่างชัดเจนหรือเข้าใจง่าย นักเรียนบางคนอาจขาดทักษะในการอธิบายหรือสื่อสารข้อมูลวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนำเสนอผลงานในรูปแบบต่างๆ ทำให้ไม่สามารถแสดงออกถึงความเข้าใจในเนื้อหาได้อย่างเต็มที่ บางครั้งเนื้อหาวิทยาศาสตร์อาจดูห่างไกลจากชีวิตประจำวันของนักเรียน ทำให้ยากที่จะเชื่อมโยงและเห็นความสำคัญหรือประโยชน์ของวิทยาศาสตร์ในโลกจริง การขาดการเชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมทำให้การเรียนรู้ไม่น่าสนใจ การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น การใช้เทคโนโลยีและสื่อการสอนที่ช่วยในการอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อน หรือการฝึกฝนทักษะการสื่อสารวิทยาศาสตร์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าใจและแสดงออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากปัญหาข้างต้นทำให้ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องการใช้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและสื่อการสอนที่ช่วยในการอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อน หรือการฝึกฝนทักษะการสื่อสารวิทยาศาสตร์ในรูปแบบอินโฟกราฟิก ผ่านเว็บไซต์ app.napkin.ai ซึ่งสามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการสื่อสารข้อมูลวิทยาศาสตร์ โดยการทำให้การออกแบบและการนำเสนอข้อมูลได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ และนอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนที่สามารถจัดระเบียบข้อมูลที่มีซับซ้อนและยากต่อการเข้าใจให้อยู่ในรูปแบบที่มีความเข้าใจง่าย และช่วยให้นักเรียนหรือผู้เรียนเห็นภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งต้องอาศัยการคิดเชิงวิจารณญาณในการเลือกข้อมูลที่สำคัญ และการออกแบบให้สื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดระเบียบข้อมูลให้เข้าใจง่ายเป็นการฝึกทักษะการคิดอย่างมีระเบียบและการประมวลผลข้อมูลที่ถูกต้อง
ดังนั้นประเด็นท้าทายในครั้งนี้ข้าพเจ้าจึงมีความตระหนักถึงความสําคัญการประยุกต์การใช้ปัญญาประดิษฐ์(AI) ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการสื่อสารข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนในรูปแบบอินโฟกราฟิก ผ่านเว็บไซต์ app.napkin.ai เรื่อง ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์พิทยา