ต้นศตวรรษที่ 19 เริ่มมีการศึกษาภาษาในเชิงการเปรียบเทียบรากศัพท์ และความหมายของคำ
ตอนต้นศตวรรษที่ 20 มีการศึกษาไวยากรณ์โครงสร้าง โดยมีนักคิดที่สำคัญได้แก่ เดอ โซซูร์ (ในยุโรป) เอ็ดเวิร์ด ซะเพียร์ (อเมริกา) บลูมฟิลด์ (อเมริกา)
ทศวรรษที่ 1960 เกิดไวยากรณ์เพิ่มพูน ของโนม ชอมสกี ภาษาศาสตร์สังคม ของ วีลเลี่ยม เลอเบิฟ ภาษาศาสตร์หน้าที่สัมพันธ์ของ ไมเคิล ฮัลลิเดย์ และภาษาศาสตร์จิตวิทยา
ภาษาศาสตร์ทั่วไป เป็นการศึกษาเชิงทฤษฎี และศึกษาเฉพาะสมัยใดสมัยหนึ่ง ประกอบด้วยเรื่องสัทศาสตร์ สัทวิทยา หน่วยคำวิทยา วากยสัมพันธ์ อรรถสาสตร์ และวัจนปฏิบัติศาสตร์
ภาษาศาสตร์เชิงประวัติและเปรียบเทียบ เป็นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของภาษาจากสมัยหนึ่งไปสู่สมัยหนึ่ง
ภาษาศาสตร์ประยุกต์ เป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีภาษาศาสตร์กับศาสตร์ด้านอื่น ๆ ได้แก่
3.1 ภาษาศาสตร์การศึกษา ประยุกต์ใช้กับด้านการเรียนการสอน
3.2 ภาษาศาสตร์จิตวิทยา และภาษาศาสตร์ปริชาน ภาษากับความเข้าใจ ความจำ ความคิด และเชาว์ปัญญา
3.3 ภาษาศาสตร์สังคม การใช้ภาษาในสังคม
1.สัทศาสตร์ เป็นศึกษาการออกเสียงและการรับรู้เสียงต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกันในภาษาของมนุษย์ทุกภาษา ศึกษาด้านสรีระการออกเสียง คลื่นเสียง ความถี่ของเสียง
2. สัทวิทยา ศึกษาเสียงในภาษาอย่างเป็นระบบ
3. หน่วยคำวิทยา ศึกษาโครงสร้างภายในของคำ การเปลี่ยนรูปของคำ ความสัมพันธ์ของคำกับคำอื่น ๆ
4. วากยสัมพันธ์ เป็นการศึกษาการประกอบคำขึ้นเป็นประโยคที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
5. อรรถศาสตร์ ศึกษาความหมายของคำ และการประกอบคำขึ้นเป็นประโยคเพื่อการสื่อความ
6. วัจนปฏิบัติศาสตร์ เป็นการศึกษาวิธีการใช้ถ้อยความ เพื่อสื่อความหมายในการสื่อสารในบริบทต่าง ๆ
พิณทิพย์ ทวยเจริญ. 2543. ภาพรวมของการศึกษาภาษาและภาษาศาสตร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สันทนา สุธาดารัตน์. 2562. ภาษาศาสตร์สำหรับครู. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.