ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลทุ่งเตา
ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลทุ่งเตา
ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งในไร่ ตำบลทุ่งเตา
อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี รหัสไปรษณีย์ 84120
ลักษณะอาคาร เป็นศาลาเอนกประสงค์ เป็นอาคารปูนคอนกรีต
ห้องจัดกิจกรรม ขนาดใหญ่เป็นห้องโถง ๑ ห้องห้องเก็บของ ๑ ห้อง
มีห้องน้ำ ๓ ห้อง มีไฟฟ้าเพียงพอทั้งภายในและด้านนอก
มีระบบน้ำประปาหมู่บ้าน มีบริเวณรอบๆ อาคารเป็นสนามปูน
มีต้นไม้ยืนต้น พืชผักสวนครัว เช่น มะนาว มะละกอ
ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบลทุ่งเตา ได้รับความอนุเคราะห์ โดยให้ใช้อาคารอเนกประสงค์ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากงบ SML นำมารปรับปรุงต่อเติมให้เป็นอาคารเรียน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ ของบ้านทุ่งในไร่ เพื่อใช้จัดการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาขั้นพื้นฐานและให้บริการสำหรับประชาชนทั่วไป โดยตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านทุ่งในไร่ หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งเตา อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากตัวอำเภอบ้านนาสาร ไปตามเส้นทางสุราษฎร์ธานี-นาสาร ระยะทาง 15 กิโลเมตร สามารถให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปและได้จัดตั้งให้เป็น ศกร.ระดับตำบลทุ่งเตา โดยมี นางสาวจารุวรรณ แก้วแจ่มจันทร์ ปฏิบัติหน้าที่ ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดกิจกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง การศึกษาตามอัธยาศัย และงานภาคีเครือข่าย เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชาวตำบลทุ่งเตา
ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
ที่ตั้ง ตำบลทุ่งเตา อยู่ในเขตอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากอำเภอบ้านนาสาร ประมาณ 15 กิโลเมตร และห่างจากศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 27 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 39.03 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 24,393.75 ไร่
ทิศเหนือ ติดต่อ ตำบลทุ่งเตาใหม่ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทิศใต้ ติดต่อ ตำบลควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทิศตะวันออก ติดต่อ ตำบลลำพูน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทิศตะวันตก ติดต่อ ตำบลนาใต้ อำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สภาพชุมชน
ตำบล ทุ่งเตา แบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 5 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ 1 บ้านหัวถนน
หมู่ที่ 2 บ้านไสใหญ่
หมู่ที่ 3 บ้านไร่เหนือ
หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งในไร่
หมู่ที่ 5 บ้านคลองขนุน
จำนวนประชากร ตำบล
มีประชากรทั้งสิ้น .......... 2,961................... คน
ประชากรชาย.....................1,444................. คน
ประชากรหญิง................... 1,517................. คน
ด้านการศึกษา
สถานการณ์การศึกษาตำบล
ข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ/ลืมหนังสือ จำนวน ........19........... คน
ข้อมูลประชาชน อายุ 15-18 ปี ที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับ จำนวน ........37........... คน
ข้อมูลประชาชน อายุ 19-60 ปี ที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับ จำนวน ......119............. คน
ข้อมูลผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ชาย.......189.... คน หญิง....592... คน รวมจำนวน ....781..... คน
ประวัติ
ยุคที่1 กองการศึกษาผู้ใหญ่
การศึกษาผู้ใหญ่ เริ่มมีอย่างเป็นทางการในปี 2483 โดยรัฐบาลในขณะนั้น ได้ให้มีการจัดตั้ง "กองการศึกษาผู้ใหญ่" สังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรับผิดชอบงานการศึกษาผู้ใหญ่โดยตรง และได้ริเริ่มโครงการรณรงค์การรู้หนังสือทั่วประเทศ พร้อมกับประกาศใช้กฎหมายบังคับให้ประชาชนผู้ไม่รู้หนังสือที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 45 ปี เสียค่าเล่าเรียนเป็นรายปี จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้รู้หนังสือแล้ว ซึ่งโครงการรณรงค์ดังกล่าวประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ต้องหยุดชะงักไปเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ยุคที่2 กรมการศึกษานอกโรงเรียน
ต่อมา ได้มีการขยายโอกาสการศึกษาผู้ใหญ่อย่างกว้างขวางในช่วงปี 2513-2523 รัฐบาลจึงได้ยกฐานะกองการศึกษาผู้ใหญ่ ขึ้นเป็น "กรมการศึกษานอกโรงเรียน" ขึ้น เพื่อจัดการศึกษานอกโรงเรียนสำหรับประชาชนในวันที่ 24 มีนาคม 2522
ยุคที่3 สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 ได้มีการปฏิรูประบบราชการ และมีการยุบรวมกรมต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการจากเดิม 14 กรม เหลือเพียง 5 สำนักงาน ทำให้ กรมการศึกษานอกโรงเรียน ถูกยุบรวมเป็นสำนักงานบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551 สำนักฯ จึงปรับภารกิจเป็น "สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย" (อังกฤษ: Office of the Non-Formal and Informal Education : NFE)
ยุคปัจจุบัน กรมส่งเสริมการเรียนรู้
กระทั่งวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 โดยมีสาระสำคัญคือการยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 และยกฐานะ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็น "กรมส่งเสริมการเรียนรู้" โดยให้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นไป 60 วันหรือตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566