ด้านที่ 1 การจัดการเรียนรู้

1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร

             ข้าพเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ และตัวชี้วัดของสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นำมาสังเคราะห์เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับนักเรียน โดยคำนึงถึงบริบทของโรงเรียนและผู้เรียน ดังนี้

             - โรงเรียนสตรีศึกษาเป็นโรงเรียนสหศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ตั้งอยู่ในที่ชุมชน แวดล้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชน ทำให้มีจุดแข็งด้านปัจจัยภายนอกที่จะช่วยให้ผู้เรียนแสวงหาข้อมูลต่าง ๆ   ที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

                - ผู้เรียนมีพื้นฐานต่างกัน ทั้งฐานะและสภาพแวดล้อมครอบครัว ทำให้มีข้อจำกัดด้านการเรียนรู้ต่างกัน นอกจากนี้ ผู้เรียนยังมีพื้นฐานความรู้ต่างกันด้วย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาศักยภาพและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  จากบริบทดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงสร้างหลักสูตรและเนื้อหาการเรียนการสอนที่แตกต่างไปตามบริบทของผู้เรียน

1.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้ 

ข้าพเจ้าออกแบบการเรียนรู้โดยยึดความแตกต่างของผู้เรียนเป็นหลัก เช่น ห้องเรียนที่ผู้เรียนมีผลการเรียนดีนั้น ข้าพเจ้าจัดเนื้อหาการเรียนเข้มข้นมากกว่าห้องเรียนที่ผู้เรียนมีผลการเรียนต่ำ โดยมีหลักสำคัญให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามศักยภาพของตนเอง

1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้

ข้าพเจ้าจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างหลากหลายโดยเน้นกระบวนการ เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้น ๆ เช่น กิจกรรมกลุ่มรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น หากเป็นกิจกรรมเดี่ยวก็เน้นกิจกรรมที่ผู้เรียนใช้ศักยภาพของตนปฏิบัติได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะสอดคล้องกับการออกแบบการเรียนรู้ข้อ 1.2

1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้     

ข้าพเจ้าสร้างสื่อและนวัตกรรมการเรียนการสอนโดยอาศัยผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนเป็นแนวทาง แม้ว่าจะเป็นเนื้อหาเดียวกันแต่ความยากง่ายไม่เท่ากัน สื่อและนวัตกรรมที่ข้าพเจ้าสร้างมีทั้งสื่อประเภทเอกสารประกอบการเรียนและสื่อประเภทมัลติมีเดีย ทั้งนี้ จากการเรียนการสอนพบว่า ผู้เรียนสนใจและมีผลตอบสนองต่อสื่อแต่ละประเภทต่างกัน   

1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้

ข้าพเจ้าประเมินผลการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียน ไม่นำศักยภาพของ   ผู้เรียนมาเปรียบเทียบเนื่องจากจะทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกเชิงลบ ซึ่งอาจมีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ รูปแบบการประเมินผลที่ข้าพเจ้านำมาใช้ เช่น ประเมินแบบ  ร้อยละ ประเมินแบบสังเกต ประเมินแบบรายข้อ ประเมินแบบความกลมกลืน ซึ่งวิธี  ประเมินแบบควาสกลมกลืนนั้นใช้ได้เฉพาะกิจกรรมที่เน้นให้ผู้เรียนเขียน เช่น เรียงความ สารคดี

                การประเมินด้วยรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ไม่ต่างกันมากนัก และเป็นธรรมต่อผู้เรียน เนื่องจากผู้เรียนแต่ละคนมีความถนัดต่างกัน

1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้

จากการดำเนินการตั้งแต่การศึกษาหลักสูตรจนถึงการวัดผลทำให้ข้าพเจ้าทราบปัญหาต่าง ๆ  และนำปัญหาเหล่านั้นมาปรับปรุง พัฒนา นำไปใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น เช่น พัฒนา/แก้ไขสื่อประกอบการเรียนการสอน รูปแบบการวัดผล เป็นต้น

1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน

ข้าพเจ้าจัดบรรยากาศการเรียนรู้ด้วยการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสดงออก มีกิจกรรมใช้พลังความคิด และสร้างสรรค์ผลงานของตนเองตามความถนัด เนื้อหาการเรียนการสอนที่สามารถเน้นให้ผู้เรียนแสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ได้แก่เนื้อหาการเขียนสารคดีต่าง ๆ  นอกจากนี้ ข้าพเจ้าส่งเสริมให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนจากเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีประสบการณ์กว้างไกลมากขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาตนเองได้

1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน

ข้าพเจ้าใช้เวลาต้นคาบเรียนหรือท้ายคาบเรียนแนะนำสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสมเกี่ยวกับความประพฤติ เช่น การวางตัวระหว่างชายหญิง การปฏิบัติตนในคาบเรียน ความซื่อตรง เป็นต้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกฝังให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมดี ปฏิบัติตามระเบียบโรงเรียนและกติกาของสังคม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างสงบสุข