ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ โดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
ครูผู้สอนได้สำรวจและวิเคราะห์เนื้อหาของรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22102 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยครูผู้สอนได้หาสาเหตุของปัญหาโดยการสอบถามและสัมภาษณ์นักเรียน พบว่าเนื้อหาที่นักเรียนมีปัญหามากที่สุดคือเรื่อง ความเท่ากันทุกประการ เพราะนักเรียนขาดการเชื่อมโยงจากทฤษฎีบท สูตร หรือบทนิยาม ให้เห็นเป็นรูปธรรม ขาดความเข้าใจกระบวนการ อีกทั้งขาดแคลนสื่อและแหล่งข้อมูลในการศึกษาหาความรู้ เช่น เอกสารประกอบการเรียน ใบความรู้ ใบงาน และแบบฝึกทักษะที่จะนำไปศึกษาด้วยตนเองทั้งในเวลาเรียนและศึกษาเพิ่มเติมนอกเวลาเรียน ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย ในการเรียนไม่ตั้งใจเรียน ขาดแรงจูงใจในการเรียน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าทาย โดยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ โดยการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563 ในเรื่องของ มาตรฐานการเรียน และตัวชี้วัด ของเนื้อหา เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ
2.2 จัดทำโครงร่างของเนื้อหา แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ พร้อมเฉลยตัวอย่าง กิจกรรม และแบบฝึกหัด
2.3 ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และสมาชิกในกลุ่ม PLC ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ในเนื้อหา การเฉลยของตัวอย่าง กิจกรรม และแบบฝึกหัด พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข
2.4 ครูผู้สอนนำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
2.5 นำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ไปทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เคยเรียนเนื้อหา เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ และให้นักเรียนเสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุง แก้ไข หรือนักเรียนมีความสับสนในข้อความใด ให้ดำเนินการปรับภาษาให้เข้าใจง่ายขึ้น
2.6 นำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการ ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ทั้งในรูปแบบ ONLINE หรือ ONSITE โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบท
2.7 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจากการกิจกรรมการเรียนรู้ ในโปรแกรม Microsoft Excel หรือ Google Sheet และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในเรื่องใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริมโดยใช้ GOOGLE MEET และทำการทดสอบใหม่ จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 49 คน
ได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22102 โดยมีคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด และนักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 49 คน
มีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความเท่ากันทุกประ และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผลการดำเนินการ
1) ได้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่สร้างและพัฒนาขึ้นมีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 80.05/81.36 และค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.66 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด สามารถนำไปพัฒนานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 3 ให้มีคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดและนักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความเท่ากันทุกประการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากขึ้นไป
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนมีค่าสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ส่งผลให้นักเรียนมีความคิดรวบยอดและสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อ