จุดประสงค์การเรียนรู้
เลือกข้อมูลและออกแบบวิธีการ การรวบรวมข้อมูล
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
ประมวลผลข้อมูล ออกแบบทางเลือก และประเมินทางเลือกในการแก้ปัญหา หรือตัดสินใจ
ใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการกับข้อมูล และนำเสนอข้อมูลได้อย่างเหมาะสม
ข้อมูล (data) หมายถึง ความจริงที่อยู่ในรูปของตัวเลข ข้อความ ภาพ เสียง ข้อสังเกตที่รวบรวมมาจากเหตุการณ์หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้นิยามคำว่า “ข้อมูล” คือ ข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่ถือ หรือยอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริง สำหรับใช้เป็นหลักอนุมานหาความจริงหรือการคำนวณ
ข้อมูล ประกอบด้วย
1. ข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative data) อยู่ในรูปของตัวเลข เช่น จำนวนเสือโคร่งในประเทศไทย จำนวนคนร่วมชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook ปริมาณน้ำฝนรายเดือน
2. ข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative data) อยู่ในรูปข้อความ อธิบายความหมาย บรรยายความคิดเห็น ความรู้สึก บทสัมภาษณ์ เช่น สถานที่ทัศนศึกษาที่นักเรียนแต่ละคนในห้อง ม.1/1 สนใจ ความรู้สึกที่มีต่อการชมภาพยนตร์ การบรรยายลักษณะนิสัยของบุคคล
แหล่งข้อมูล เป็นแหล่งกำเนิดของข้อมูล หรือเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล เช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เหตุการณ์
ข้อมูลแบ่งตามลักษณะของการได้มา ดังนี้
1. ข้อมูลปฐมภูมิ (primary data) คือ ข้อมูลที่ได้จากแหล่งกำเนิดข้อมูลหรือจุดเริ่มต้นของข้อมูล เช่น ข้อมูลที่ได้จากการทดลอง การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ข้อมูลความสำเร็จ ภูมิปัญญา ข้อมูลสถานการณ์ทางการเมือง ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
2. ข้อมูลทุติยภูมิ (secondary data) คือ ข้อมูลที่ไม่ได้มาจากแหล่งกำเนิดโดยตรง แต่ได้มาจากการอ้างอิงถึงข้อมูลปฐมภูมิ หรือนำข้อมูลปฐมภูมิ มาวิเคราะห์ ประมวลผล ซึ่งอาจอยู่ในรูปสถิติ บทวิจารณ์ บทความ เอกสารต่าง ๆ เป็นต้น
การรวบรวมข้อมูลมีหลายวิธีการที่แตกต่างกันไป ซึ่งข้อมูลและแหล่งข้อมูลเป็นสิ่งที่กำหนดวิธีการรวบรวมข้อมูล เพื่อให้เก็บข้อมูลได้ตรงตามความต้องการ
1. การสัมภาษณ์ (interview)
เป็นการสัมภาษณ์โดยตรงหรืออาจใช้ช่องทางสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ Line , Facebook ผู้เก็บข้อมูลต้องใช้คำถามที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์นักเรียนให้ห้องเรียนเพื่อรับฟังความคิดเห็นที่มีต่อครูประจำชั้น เป็นต้น
2. การสำรวจ (survey)
คือการกำหนดคำถามเพื่อค้นหาข้อมูล หรือความต้องการ เรียกว่าแบบสำรวจ เช่น การสำรวจความพึงพอใจในการใช้ห้องสมุดของนักเรียนโรงเรียนผึ้งน้อย
3. การสังเกต (observe)
คือการรวบรวมข้อมูลจากการเฝ้าดู เหตุการณ์ หรือพฤติกรรม เช่น การสังเกตการแบ่งตัวของเซล์พืช
4. การทดลอง (experiment)
เป็นการรวบรวมข้อมูลจากการทดลอง หรือทดสอบ เพื่อให้ทราบข้อมูลที่ต้องการ เช่นการทดลองปลูกถั่วงอกโดยใช้กระดาษชำระ
5. การทบทวนเอกสาร (document/literature review)
คือการรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร รายงาน บทความ หนังสือ ตำรา งานวิจัย หรือแบบฟอร์มสำหรับเก็บข้อมูล เช่น รายงานผลการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
6. การสำมะโน(census) เป็นการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากที่ดำเนินการเป็นประจำ เช่น สำนักงานสถิติแห่งชาติได้มีการสำมะโนประชากรและเคหะ ซึ่งดำเนินการเป็นประจำทุก 10 ปี
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการรวบรวมข้อมูล
1. ความถูกต้อง (accuracy) ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพต้องมีความถูกต้อง เช่น ข้อมูลคะแนนสอบเพื่อประเมินผลการเรียนต้องมีความถูกต้อง
2. ความทันสมัย (timeliness) ข้อมูลจะใช้งานได้ต้องอยู่บนพื้นฐานของช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การใช้ประโยชน์จากข้อมูล เช่น ข้อมูลน้ำหนักและส่วนสูงของนักเรียนเมื่อ 2 ปีที่แล้วไม่สามารถนำมาประมวลผลพิจารณาการเติบโตของนักเรียนในปัจจุบันได้
3. ความเกี่ยวข้อง (relevance) ข้อมูลต้องมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ข้อมูลที่จะใช้ในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวอาจประกอบด้วย แหล่งท่องเที่ยว เวลาเปิด – ปิด ระยะทาง วิธีการเดินทาง เป็นต้น
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล เช่น แบบสำรวจ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม แบบสังเกต ในปัจจุบันการเก็บรวบรวมข้อมูลอาจใช้แอปพลิเคชันหรือสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อลดภาระในการจัดเก็บข้อมูล ลดข้อมูลผิดพลาด และช่วยทำให้สะดวกรวดเร็ว
นอกจากนี้ในการสำรวจอาจมีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น โทรศัพท์ อุปกรณ์บันทึกเสียงและภาพ เครื่องนับจำนวน (clickers) เครื่องอ่านบาร์โค้ด (barcode reader)
การรวบรวมข้อมูลจะต้องมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง เพื่อยืนยันว่า ข้อมูลมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหรือไม่และเป็นมารยาทที่ เหมาะสมในการแสดงคำขอบคุณต่อแหล่งข้อมูลที่เรานำข้อมูลมาใช้ประโยชน์
การประมวลผลข้อมูล
การประมวลผล (Processing)
หมายถึง กระบวนการคิด หรือ การจัดระเบียบแบบแผนของข้อมูล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งทำได้โดยการคำนวณ เคลื่อนย้ายข้อมูล การจัดเรียง การเปรียบเทียบ และการวิเคราะห์ข้อมูล หรืออาจใช้สูตร ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สามารถแบ่งลักษณะการประมวลผลได้ ดังนี้
1.การประมวลผลด้วยมือ ใช้กระดาษ ปากกา และแรงคนในการดำเนินการ
2.การประมวลผลด้วยเครื่องมือ ใช้เครื่องมือช่วยทุ่นเเรง เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เครื่องนับจำนวน เครื่องนับธนบัตร รูปแบบการประมวลผลข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เป็นการประมูลผลด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน
ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
1. การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นการเก็บข้อมูลโดยใช้วิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ ได้แก่ การสังเกต การสัมภาษณ์ การทดสอบ การทดลอง หรือในทางโปรแกรมอาจเป็นการรับข้อมูลจากผู้ใช้ เป็นต้น
2. การตรวจสอบข้อมูล เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ว่าถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
3. การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ มี 3 ขั้นตอนคือ นำเข้าข้อมูล (Input) ประมวลผลข้อมูล (Process) และส่งออกข้อมูล (Output) เป็นสารสนเทศ แล้วอาจนำไปจัดเก็บเพื่อสามารถนำไปใช้งานได้โดยง่าย
การประมวลผลมีหลายวิธี เช่น
สารสนเทศ
สารสนเทศ (Information)
หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงที่ผ่านการประมวลผลในรูปแบบต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์และช่วยในการตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
ให้นักเรียนสำรวจข้อมูลเพื่อน ได้แก่ ชื่อเพื่อน , วัน เดือน ปี เกิด , น้ำหนัก และส่วนสูง แล้วบันทึกในตารางบันทึกข้อมูลเพื่อน
ให้นักเรียนประมวลผลข้อมูล โดย เรียงลำดับคนที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดไปหาคนที่มีน้ำหนักมากที่สุด
ให้นักเรียนประมวลผลข้อมูล โดย เรียงลำดับคนที่มีส่วนสูงน้อยที่สุดไปหาคนที่มีส่วนสูงมากที่สุด
ให้นักเรียนประมวลผลข้อมูล โดย คำนวณหาอายุเพื่อนจาก วัน เดือน ปี เกิด
ให้นักเรียนประมวลผลข้อมูล โดย เรียงลำดับคนที่มีอายุน้อยที่สุดไปหาคนที่มีอายุมากที่สุด
ตารางบันทึกข้อมูลเพื่อน
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บนคลาวด์ (cloud-based service) เราสามารถใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับข้อมูล ตั้งแต่การรวบรวม ประมวผล และนำเสนอข้อมูล เช่น
1. ซอฟต์แวร์ประมวลคำ (word processor) ใช้สำหรับสร้าง แก้ไข และจัดรูปแบบเอกสาร เช่น Google Docs, Microsoft Words
2.ซอฟต์แวร์สร้างฟอร์ม (form) สำหรับสร้างแบบสำรวจ/แบบสอบถาม เช่น Google Forms
3. ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน (spreadsheet) ใช้สำหรับสร้างและแก้ไขตารางทำงาน รวมทั้งการประมวลผลข้อมูลในตาราง เช่น Google Sheets, Microsoft Excel
4. ซอฟต์แวร์นำเสนองาน (presentation) ใช้สร้าง แก้ไข ตกแต่งแฟ้มนำเสนองาน ใส่ตารางข้อมูล แผนภูมิ รูปภาพ รูปวาด วิดีทัศน์ เช่น Google Slides, Microsoft PowerPoint
5. ซอฟต์แวร์สร้างผังความคิด (concept map) ใช้สร้าง แก้ไข ตกแต่ง ผังความคิด เช่น Mindmup.com เก็บไว้ใน Google Drive
การดำเนินชีวิต ทุกคนมีการรวบรวมข้อมูลอัตโนมัติตลอดเวลา เมื่อต้องตัดสินใจ จะมีการนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ เช่น ขณะขับรถจักรยานอยู่บนถนน สังเกตสิ่งต่าง ๆ เป็นการวบรวมข้อมูล และนำข้อมูลนั้นมาตัดสินใจเพื่อเกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น เมื่อมีหลุม ตัดสินใจหลบ หยุดรถ หรือขี่ลงไปในหลุมหากไม่ลึกมาก
การตัดสินใจจะเกิดขึ้นมีหลายทางเลือก แต่ละทางเลือกนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกัน ขั้นตอนตัดสินใจ มีดังนี้
กำหนดเป้าหมายของการตัดสินใจ
รวบรวมข้อมูลและความรู้ที่เกี่ยวข้องที่เพียงพอต่อการตัดสินใจ
กำหนดทางเลือกทั้งหมดที่เป็นไปได้
ประเมินทุกทางเลือก โดยวิเคราะห์เชิงตรรกะเชื่อมโยงระหว่างทางเลือกและผลลัพธ์ สอดคล้องกับเป้าหมาย
ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
สื่อการเรียนรู้เพิ่มเติม