โหมดสี

โหมดสีแบบ Bitmap เป็นโหมดสี ที่มีเพียงสีขาวและสีดำเท่านั้น ไม่สามารถไล่เฉดสีได้เหมาะสมที่จะใช้งานประเภทวาดภาพหรืองานที่เป็นลายเส้น ไม่ต้องการรายละเอียดของสีอื่นๆ ภาพที่ได้จะมีความละเอียดน้อยมาก และก็จะขนาดของไฟล์ที่เล็กมากตามไปด้วย(จะใช้โหมดนี้ได้ต้องเปลี่ยนเป็นโหมด Grayscale ก่อน)

โหมดสีแบบ Grayscale คือ เป็นโหมดสีสำหรับภาพขาวดำที่มรการไล่เฉดสีของสีเทา จากเท่าอ่อนไปจนถึงสีเทาแก่ได้ถึง 256 สี ภาพที่จากโหมดนี้เหมาะสำหรับภาพนำไปตกแต่งไปใช้งานกับเครื่องพิมพ์แบบ ขาว – ดำ ภาพในโหมด Grayscale จะได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็ก มีความคมชัดมากกว่าโหมด Bitmap

โหมดสีแบบ Duotone เป็นโหมดสีที่มีการกำหนดโทนสีที่จะใช้งานได้ตั้งแต่ 1-4 โทนสี จะคล้ายกับรูปภาพในโหมด Grayscale แต่จะแตกต่างกันตรงที่จะใช้งานในรูปภาพได้เอง สามารถใช้โทนสีอื่นได้ เข้ามาเสริมในสีดำ ทำให้ภาพน่าสนใจมากขึ้น(จะใช้โหมดนี้ได้ต้องเปลี่ยนเป็นโหมด Grayscale ก่อน)

โหมดสีแบบ indexed Color เป็นโหมดสีที่เป็นภาพที่แก้ไขเสร็จแล้วพร้อมจะนำไปใช้งาน มักจะใช้กับภาพที่จะนำขึ้นเว็บไซต์ สามารถที่จะกำหนดจำนวนสีที่จะใช้งานำได้ด้วยตนเองตั้งแต่ 1-256 สีไฟล์ภาพมีขนาดเล็กหรือใหญ่ได้ตามความเหมาะสม

โหมดสีแบบ RGB Color เป็นโหมดสีแบบเดียวกันที่ใช้งานอยู่บนจอมอนิเตอร์จะแบ่งเป็น3 สี คือ แดง เขียว และน้ำเงิน สีที่ได้มีความละเอียดสมจริงมากพอสมควร

6.โหมดสีแบบ CMYK Color

โหมดสีแบบ CMYK Color เป็นโหมดสีที่แบ่งออกเป็น 4 Channel คือฟ้า บานเย็น เหลือง และดำ โดยในแต่ละสีจะมีค่า 8 Bit ทำให้แต่ละ Pixels จะเก็บค่าถึง 32 Bit เป็นการแก้ไข้จุดบกพร่อง ของโหมดสี RGB

โหมดสีแบบ Lab Color เป็นโหมดสีที่ให้สีได้เหมือนกันจริงมากที่สุดโดยมีค่า l (Lighten) แทนความสว่าง ค่า aแทนสีขาวถึงสีแดง และค่า b แทนสีน้ำเงิน นิยมใช้กันในการบันทึกภาพเพื่อใช้งานข้ามระบบ เช่น จาก Windows ไปยัง Mac

โหมดสีแบบ Multichannel เป็นโหมดสีที่ใช้เพื่อการพิมพ์ในกรณีพิเศษส่วนมากจะใช้สำหรับการพิมพ์งานที่มีความละเอียดมากที่สุด การเปลี่ยนโหมดเป็น Multichannel จากแต่ละโหมดจะให้ผลที่ แตกต่างออกไป เช่น ถ้าเปลี่ยนจกโหมด CMYK ก็จะได้ Channel ที่เป็นสีฟ้า บานเย็น เหลือง และดำ เท่านั้น