วงเครื่องสาย เป็นวงดนตรีที่มีเครื่องดีด และเครื่องสีเป็นหลัก มีเครื่องเป่าและเครื่องตีที่ ได้เลือกว่ามีเสียงเหมาะสมกันผสม ดังนี้
เครื่องสายวงเล็ก มีเครื่องดนตรีผสมในวง และมีหน้าที่ต่างๆ กันคือ
๑. ซอด้วง สีเป็นทำนองเพลงมีถี่บ้าง โหยหวนเป็นเสียงยาวบ้าง มีหน้าที่เป็นผู้นำวง และ เป็นหลักในการดำเนินเนื้อเพลง
๒. ซออู้ สีหยอกล้อยั่วเย้าไปกับทำนองเพลง
๓. จะเข้ ดีดเก็บถี่ๆ บ้าง ห่างๆ บ้าง สอดแทรกทำนองให้เกิดความไพเราะ
๔. ขลุ่ยเพียงออ เป่าเก็บถี่ๆ บ้าง โหยหวนเป็นเสียงยาวบ้าง ดำเนินทำนองเพลง
๕. โทน ตีให้สอดสลับกับรำมะนา กำกับจังหวะหน้าทับ
๖. รำมะนา ตีให้สอดสลับกับโทน กำกับจังหวะหน้าทับ โทนกับรำมะนานี้ ต้องตีให้สอดคล้องกัน เหมือนเครื่องดนตรีอย่างเดียว เพราะฉะนั้นบางที จึงใช้คนเดียวตีทั้งสองอย่าง
๗. ฉิ่ง (วิธีตีและหน้าที่เหมือนในวงปี่พาทย์)
วงเครื่องสายเครื่องคู่ มีเครื่องดนตรีผสมอยู่ในวงและมีหน้าที่ดังนี้
๑. ซอด้วง ๒ คัน การสีเหมือนในเครื่องสายวงเล็ก แต่มีหน้าที่การนำวงมีเพียงคันเดียว อีก คันหนึ่งเพียงช่วยเป็นหลักในการดำเนินเนื้อเพลง
๒. ซออู้ ๒ คัน (การสีและหน้าที่เหมือนในเครื่องสายวงเล็ก)
๓. จะเข้ ๒ ตัว (การดีดและหน้าที่เหมือนในเครื่องสายวงเล็ก)
๔. ขลุ่ยเพียงออ (วิธีเป่าและหน้าที่เหมือนในเครื่องสายวงเล็ก)
๕. ขลุ่ยหลิบ วิธีเป่าเหมือนกับขลุ่ยเพียงออ แต่มีหน้าที่สอดแทรกทำนองไปในทางเสียงสูง
๖. โทน (วิธีตีและหน้าที่เหมือนในเครื่องสายวงเล็ก)
๗. รำมะนา (วิธีตีและหน้าที่เหมือนในเครื่องสายวงเล็ก)
๘. ฉิ่ง (วิธีตีและหน้าที่เหมือนในวงปี่พาทย์เครื่องห้า)
เกิดจากวงเครื่องสายประสมกับวงกลองแขก เกิดขึ้นในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวลักษณะของวงเครื่องสายผสมปี่ชวามีดังนี้
การบรรเลงเครื่องสายปี่ชวานั้น นักดนตรีต้องมีไหวพริบปฏิภาณดี โดยเฉพาะคนตีฉิ่งต้องมีสมาธิดีที่สุด จึงจะบรรเลงได้อย่างไพเราะ ในปัจจุบันหาดูได้ยากมาก.
เป็นวงเครื่องสายที่นำเอาเครื่องดนตรีต่างชาติเข้ามาร่วมบรรเลงกับเครื่องสายไทย การเรียกชื่อวงเครื่องสายผสมนั้นนิยมเรียกตามชื่อของเครื่องดนตรีต่างชาติที่นำเข้ามาร่วมบรรเลงในวง เช่น นำเอาขิมมาร่วมบรรเลงกับซอด้วง ซออู้ ขลุ่ยและเครื่องกำกับจังหวะต่างๆ แทนจะเข้ ก็เรียกว่า “วงเครื่องสายผสมขิม” หรือนำเอาออร์แกนหรือไวโอลินมาร่วมบรรเลงด้วยก็เรียกว่า “วงเครื่องสายผสมออร์แกน” หรือ “วงเครื่องสายผสมไวโอลิน” เครื่องดนตรีต่างชาติที่นิยมนำมาบรรเลงเป็นวงเครื่องสายผสมนั้นมีมากมายหลายชนิด เช่น ขิม ไวโอลิน ออร์แกน เปียโน แอกคอร์เดียน กู่เจิง เป็นต้น