ปัญหา/แนวทางแก้ปัญหา JHCIS/MySQL

ลอกเขามาทั้งนั้นแหละไม่มีปัญญาคิดเองหรอก ของอาจารย์ท่านใดมั่ง จำไม่ได้ ไม่ว่ากันนะครับ ผิดมั่ง ถูกมั่ง เก็บไว้กันลืม


ปัญหาไม่สามารถเชื่อมโยง jhcis เครื่องหลัก กับลูกข่ายได้

__Grant_Root___jhcis__Lan.docx


แก้ปัญหา A Java Exception has occurred


วิธีแก้ไข jhcis...............is not commonly downloaded and could harm your computerwin7 เหรอครับ มัน d/l มาเป็น exe ครับ ไม่ผ่าน ระบบความปลอดภัยของ win7 ให้โหลดไว้เฉยๆก่อน ไม่ต้องทำตามคำสั่งมัน ประมาณว่า ignor มันก็จะไม่ลบ

วิธีตรวจสอบ/แก้ไข:

1) หายใจลึกๆ

2) ตรวจสอบว่า เครื่องแม่ข่าย เครื่องลูกข่าย ทุกเครื่อง เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อยู่หรือไม่ คาดหมายว่า ในหน่วยบริการของคุณ เปิดให้เชื่อมต่ออนเตอร์เน็ตได้ทุกเครื่อง วิธีนีเป็นการตรวจสอบว่า อุปกรณ์เครือข่าย การ์ดแลน สาย router เสียหายหรือไม่ ขอคำตอบนะครับ

2) หากข้อ 1) ผ่าน ก็มาดูเรื่อง Firewall เครื่องแม่ข่ายว่า ปิดพอร์ต 3333 ไว้หรือไม่ ดูที่ Windows Firewall และ ซอพท์แวร์ Anti Virus ด้วย เนื่องจาก ซอพท์แวร์ Anti Virus จะมี Personal Firewall ติดมาเป็นส่วนมากซะด้วย และมีหลากหลายยี่ห้อ บอกวิธีได้ไม่หมด หาวิธีปิด firewall เพื่อทดสอบเชื่อมต่อ JHCIS ดูก่อนก็ได้

3) หาก 1) และ 2) ช่วยไม่ได้ ลองมาดูว่า เครื่องลูกข่าย ระบุชื่อเครื่องแม่ข่ายเป็น ชื่อเครื่อง เช่น JHCIS-SERVER หรือ หมายเลข IP (IP Address) เช่น 192.168.1.2 หากเป็นอย่างแรก ขอแนะนำให้กำหนดเป็นแบบที่สอง คือ IP Address

เนื่องจากแบบระบุชื่อเครื่อง วันดีคืนดีจะไม่ได้มาเฉยๆ ก็มี คำตอบก็หาไม่ได้ ใช้ IP Address แน่นอนกว่า

4) หาก 1), 2), 3) ช่วยไม่ได้ โทรมาคุยดีกว่าครับ หมายเลข ศูนย์ แปด ห้า หก หก หนึ่ง เจ็ด หนึ่ง แปด หนึ่ง

กระทู้เก่าที่ไม่ได้คัดแยกหมวด รวมไว้ที่นี่

โปรแกรม My SQL _JHCIS / My SQL Administrator , มีปัญหา ไม่สามารถ Back up database ของ JHCIS ได้ Run ไปได้สักพักก็ฟ้อง My SQL Error ใครทราบวิธีแก้ไขบ้าง ช่วยกรุณาแนะนำด้วยครับ Backup ข้อมูลไม่ได้ถ้าเครื่องเป็นอะไรไป คงต้องแย่แน่ๆเลยครับ

ท่าน backup ก่อนหน้านี้ไว้หรือเปล่า

หากทำแล้วก็save ไว้ที่อื่น

ลงmySQL ADminใหม่ หรือจะใช้

navicat ก็ได้

แล้ว restore ข้อมูลใหม่

ผมก็มือใหม่ ลองดูนะครับ ผมก็ดูๆในwebbord นี่แหละ

ขอให้มีความสุขกับการทำงานครับ

การแก้ไขปัญหาและกู้คืนเมื่อฐานข้อมูล jhcisdb เสีย

เริ่มมากันแล้ว ปัญหาฐานข้อมูล jhcisdb เสีย

อ้างอิง: http://dev.mysql.com/doc/refman/5.0/en/ ... overy.html

1. เปิดไฟล์คอนฟิกของ MySQL ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ ด้วยโปรแกรม Notepad หรือ Wordpad

C:\Program Files\JHCIS\MySQL\my.ini

ค้นหา [mysqld] แล้วแทรกบรรทัด innodb_force_recovery = 4 ลงไป

บันทีกการแก้ไข

[mysqld]

innodb_force_recovery = 4

2. รีสตาร์ตเซอร์วิสของ MySQL ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์

คลิก Start > All Programs > MySQL-JHCIS > MySQL Service Stop

คลิก Start > All Programs > MySQL-JHCIS > MySQL Service Start

3. หากเซอร์วิสของ MySQL ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ ทำงานได้ปกติ ก็จะสามารถติดต่อฐานข้อมูลได้ ให้ทำการสำรองข้อมูล (Backup)ออกมาด้วยโปรแกรม MySQL Administrator จะได้ไฟล์ jhcisdb.sql

4. นำไฟล์ jhcisdb.sql ที่ได้จากการสำรองข้อมูล (Backup) ไปทดสอบนำเข้า (Restore) ที่เครื่องคอมพิวเตอร์อื่น (ต้องหามา) เพื่อให้มั่นใจว่า ไฟล์สำรองข้อมูลนั้นใช้ได้

5. หากมั่นใจว่าไฟล์สำรองข้อมูลที่ทำมาใช้การได้ ให้ทำการลบฐานข้อมูล jhcisdb เดิม ทิ้งไป

คลิก Start > All Programs > MySQL-JHCIS > MySQL Administrator คลิกเมนู Catalogs คลิกเม้าส์ปุ่มขวาที่รายการ jhcisdb แล้วเลือกเมนู Drop Schema

6. นำไฟล์ jhcisdb.sql ที่ได้จากการสำรองข้อมูล (Backup) มานำเข้า (Restore) กลับเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บฐานข้อมูลระบบงาน JHCIS

7. เปิดไฟล์คอนฟิกของ MySQL ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ ด้วยโปรแกรม Notepad หรือ Wordpad

C:\Program Files\JHCIS\MySQL\my.ini

ค้นหา [mysqld] แล้วลบบรรทัด innodb_force_recovery = 4 ออกจากไฟล์

บันทีกการแก้ไข

8. รีสตาร์ตเซอร์วิสของ MySQL ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์

คลิก Start > All Programs > MySQL-JHCIS > MySQL Service Stop

คลิก Start > All Programs > MySQL-JHCIS > MySQL Service Start

เสร็จสิ้นขั้นตอน ก็คาดหวังว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ พร้อมกับ ฐานข้อมูล jhcisdb จะสามารถใช้งานได้ปกติ

แจ้งปัญหาข้อผิดพลาดในการทำงานของ JHCIS หรือ ขอความช่วยเหลือการทำงานต่างๆในเครื่องคุณยังไม่มีฟังก์ชั่นgetofficeครับ วิธีสร้างฟังชั่นนี้copy คำสั่งจากข้างล่างไว้

DELIMITER $$

DROP FUNCTION IF EXISTS `jhcisdb`.`getOffice` $$

CREATE DEFINER=`root`@`localhost` FUNCTION `getOffice`(arg VARCHAR(5)) RETURNS varchar(255) CHARSET utf8

BEGIN DECLARE ret VARCHAR(255) ; SELECT hosname INTO ret FROM chospital WHERE hoscode = arg; IF ret is NULL THEN RETURN '-'; END IF; RETURN (ret); END $$

DELIMITER ;

จากนั้นเปิดmysql query brower ขึ้นมา ถ้ายังไม่ติดต่อฐานข้อมูลก็ให้ติดต่อฐานข้อมูลก่อนนะครับ ที่หน้าresultset1 ให้คลิ๊กขวาแล้วเลือก add new script tab แล้ววางคำสั่งนี้ลงไป กดexcute

แค่นี้ก็เกิดฟังก์ชั่นget office แล้วครับ

errorนี้ไม่ซีเรียสค่ะเพิ่งแค่ว่าตอน restoreมันสร้างฟังก์ชั่นนี้ไม่ได้ปล่อยผ่านไปได้ค่ะ เดี๋ยวตอนออกรายงานมันจะสร้างใหม่ให้เอง

กระทู้เก่าที่ไม่ได้คัดแยกหมวด รวมไว้ที่นี่

1. ฐานข้อมูล อยู่ ไดรฟ์ D

2. ลง J serv ไว้ ไดรฟ์ C

ที่มาของปัญหา

ครั้งแรก ลงโปรแกรมพร้อมกัน โดยกำหนดในขั้นตอนการลง mysql ให้ติดตั้งที่ D ส่วน Java (J) ไม่กำหนดที่อยู่ ( อัตโนมัติC:\programs file\jhcis) ผล ใช้งานได้

ต่อมา มีเหตุต้องลงวินโดวส์ใน c:\ ใหม่ โดยฐานอยู่ที่ D เหมือนเดิม (ฐานเก่า) เมื่อลงวินโดวส์เสร็จ ผมลงJava (J) ไม่กำหนดที่อยู่ ( อัตโนมัติ C:\programs file\jhcis) ผลคือ มันไม่มองหา mysql ใน ไดรฟ์ D ให้

จึงเรียนถามผู้ว่า จะแก้ไข config ของ my.ini อย่างไรหรือ ต้องทำอย่างไรครับ

ไม่เอา stop service วางทับ start service น่ะครับ ต้องการให้ data อยู่ที่ D เหมือนเดิม เพราะเบื่อไวรัส จะ freeze ไดรฟ์ C

Java Runtime Environment (JRE)

ท่านที่อัพเดต JHCIS เวอร์ชั่นใหม่ๆ แล้วมีปัญหาติดๆขัดๆ อืดๆ หรือบางฟังก์ชั่นไม่ทำงาน หรือท่านที่ติดตั้งบนเครื่อง Win7 จำเป็นต้องดาวน์โหลด Java Runtime Environment (JRE) ไปอัพเดต จึงจะหาย

หลังใช้แล้ว...ลื่นไหลดีครับ อาการที่เป็นอยู่หายไป แต่ลงข้อมูลได้ 3-4 คน เครื่องแฮ็งค์ครับ...ทำไงดีครับ

แชร์ แรม ใน Java ยัง -Xms800m -Xmx1000m สำหรับแรม 2 Ghz ขึ้นไป

ลืมถาม ว่า คอมฯ cpu ไร เท่าไร ram เท่าไร ระบบปฏิบัติการไร

หมายเหตุ สำหรับ หน่วยงานที่มีประชากรมาก ฐานข้อมูลใหญ่ แนะนำให้ใช้คอมพิวเตอร์เสปค สูงๆ หน่อย อาจจะเป็น cup intel core I5 - I7 แรม 4 - 8 Ghz ใช้ windows 64 bit และก็ อัพ เวอร์ชั่น j ให้เป็นปัจจุบัน

อาการเหล่านั้นหายแน่นอน ฟันธง

วิธีแก้ error number 1045

สามารถแก้ไขได้ 2 วิธีคือ

ตอนที่เข้าใช้โปรแกรมไม่ต้องใส่ password หรือ ติดตั้งโปรแกรมใหม่ โดยก่อนติดตั้งให้ปิด firewall และ ปิดโปรแกรม anti virus ให้หมดทุกตัวก่อน

1. ตรวจสอบว่า service MYSQL_JHCIS start แล้วหรือยัง ที่ start>>Administrative Tools>>services แล้วค้นหาservice ชื่อMYSQL_JHCIS ที่บรรทัดเดียวกัน ดูที่column status ว่า started หรือยัง ถ้าเป็น started แล้วก็ok แต่ถ้าเป็น stop ต้องทำให้ startโดยคลิกขวาที่บรรทัดนี้ แล้วเลือก start ถ้ายังstartไม่ได้ ให้ปิด anti-virusและ firewall ที่ติดตั้งไว้ทั้งหมดแล้วติดตั้งใหม่อีกทีค่ะ

2.เมื่อ service MYSQL_JHCIS started แล้ว ดูข้อ 3 ค่ะ

3.ลบ ไฟล์ C:\Program Files\JHCIS\database.properties

4. เปิดโปรแกรม JHCIS โปรแกรมจะแสดงหน้าต่าง ให้ใส่รายละเอียดในการติดต่อฐานข้อมูล ให้ลบข้อมูลในช่องรหัสผ่านออกให้หมด

แล้วกดปุ่ม ok

ถ้าแก้ด้วยวิธีข้างบนแล้วยังไม่ได้ มีความจำเป็นต้อง uninstall antivirus ออกไปก่อนค่ะ แล้วจากนั้น uninstall JHCIS ออกให้หมด แล้วให้ติดตั้งใหม่อีกรอบ คราวนี้ไม่น่าจะมีปัญหา

Could not start mysql _Jhcis sever on local computer

Error 1067 : The process terminated unexpertectedly

ปกติแล้วก็จะเป็นปัญหาเรื่อง service แต่อาการ error 1067 เกิดขึ้นตอนรัน service มันก็ขึ้นว่า Could not start the MySQL service on Local Computer Error 1067: The process thrminated unexpectedly อะไรประมาณนี้

สาเหตุอาจเป็นเพราะเคยถอนการติดตั้ง JHCIS แล้วถอนออกไม่สมบูรณ์ บางครั้งตอนถอนอาจจะรัน service ไว้(แต่ฟลุ๊กถอนได้) เลยถอนออกไม่หมด

ปัญหาการ Error คำว่า the network path was not found

ปัญหาการ Error คำว่า the network path was not found เวลาค้นหาเลือกชื่อผู้เข้ารับบริการในเครื่องลูก ร่วมทั้งการเข้าแก้ไขข้อมูลผู้มารับบริการย้อนหลังด้วย ครับ ผู้รู้ตอบให้ด้วยครับ

เข้า USER ADM

แล้วเข้าไปที่ ระบบข้อมูลสถานีอนามัย

เลือก กำหนดค่าเริ่มต้นในระบบ

แล้วเลือก การแสดงรูปบนเครื่องลูกข่าย ตอนแรกจะถูกตั้งเป็นให้แสดงรูป ปิดมัน แล้วออก ก็จะไม่ฟ้องแล้ว

error:1146 error:1146 ไม่พบตาราง jhcisdb._tmpicd_9_proced

มันเป็นตารางที่ เอาไว้สำหรับให้โปรแกรม JHCIS ตรวจสอบ ICD9 ในขณะที่ปรับปรุงโครงสร้างว่า ใน ฐานของเรามี ICD9 ครบหรือไม่ และนำเข้าหรือยังประมาณนี้ หาดูในโปรแกรม c:\program files\jhcis ..เมนู all_files_for_import น่าจะมีแล้วนำเข้า

I...เมื่อเข้าไปบันทึกข้อมูลการจ่ายยาฯ ในโปรแกรม jhcis แล้วพบ Error แจ้งว่า รายการหัตถการบางรายการไม่ถูกต้องฯ ให้ดำเนินการแก้ปัญหาตามขั้นตอน

ดังต่อไปนี้

1. ปิดโปรแกรม jhcis

2. นำไฟล์ all-files-for-import.exe ไปวาง(paste) ไว้บนเครื่องแม่ข่าย( Server) โดยจะอยู่ในโฟลเดอร์ใดก็ได้ แต่ต้องบนเครื่อ่งแม่ข่ายเท่านั้น

3. Double Click ที่ไฟล์ all-files-for-import.exe / จะปรากฏ Dialog / ให้คลิ้กฯ ที่ปุ่ม upzip บน Dialog ดังกล่าว (โดยที่กล่องUnzip to folder จะอยู่ที่

C:\Program Files\JHCIS\all_files_for_import ให้ใช้ค่านี้ อย่าเปลี่ยนเป็นโฟลเดอร์อื่น) / ปิด Dialog เมื่อ unziped successfully ...

4. จากนั้นให้ไปที่โฟลเดอร์ C:\Program Files\jhcis\all_files_for_import แล้ว Double ที่ไฟล์ insert_icd9_by_sql_insert.bat / เคาะ Enter เมื่อปรากฏบรรทัด Press any key to continue ...

5. เปิดเข้าใช้งานโปรแกรม jhcis ตามปกติ

__________________________________________________________________

II...เมื่อเข้าโปรแกรม jhcis แล้วพบ Error แจ้งว่า ...ยังไม่ได้นำเข้า icd10 tm v4 .... ให้ดำเนินการนำเข้า icd10 tm v4 ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ปิดโปรแกรม jhcis

2. นำไฟล์ all-files-for-import.exe ไปวาง(paste) ไว้บนเครื่องแม่ข่าย( Server) โดยจะอยู่ในโฟลเดอร์ใดก็ได้ แต่ต้องบนเครื่อ่งแม่ข่ายเท่านั้น

3. Double Click ที่ไฟล์ all-files-for-import.exe / จะปรากฏ Dialog / ให้คลิ้กฯ ที่ปุ่ม upzip บน Dialog ดังกล่าว (โดยที่กล่องUnzip to folder จะอยู่ที่

C:\Program Files\JHCIS\all_files_for_import ให้ใช้ค่านี้ อย่าเปลี่ยนเป็นโฟลเดอร์อื่น) / ปิด Dialog เมื่อ unziped successfully ...

(*** ขั้นตอนที่ 2. และ 3. นี้ไม่ต้องดำเนินการอีก หากได้ดำเนินการไปแล้ว ในข้อ I. )

4. จากนั้นให้ไปที่โฟลเดอร์ C:\Program Files\jhcis\all_files_for_import แล้ว Double ที่ไฟล์ insert_icd10tm_by_sql_insert.bat / เคาะ Enter เมื่อปรากฏบรรทัด Press any key to continue ...

5. เปิดเข้าใช้งานโปรแกรม jhcis ตามปกติ

คำนำหน้าชื่อไม่ขึ้นครับ

คำนำชื่อ ไม่ขึ้น เนื่องจาก ctitle ไม่มีในฐาน jhcisdb ให้นำเข้าก่อนนะครับไฟล์อยู่ที่ C:\Program Files\JHCIS\all_files_for_importชื่อ jhcis_ctitle.sql วิธีการนำเข้า ใช้ Mysql Query browers ก็ได้

ฐานข้อมูลมีตาราง ctitle อยู่ครับ ถ้าไม่มี ctitle คงกรอกข้อมูลไม่ได้ ความจำเป็นที่ต้องนำเข้า ctitle คือมีการปรับรหัสใหม่

เชื่อมโยงClientไปที่Server ไม่ได้

ได้ติดตั้งโปรแกรมJHCIS ตามขั้นตอนทุกอย่างทั้งเครื่องSERVERและCLIENT

1. เครื่องSERVER ใช้งานได้ปกติ

2. เปิด Port 3333 ใน ไฟล์วอลล์

3. ตั้งชื่อเครื่องแม่ข่ายเป็น JHCIS-SERVER

4. ตั้งชื่อเครื่องลูกข่ายเป็น CLIENT-1

5. Workgroup JHCIS

6. กลุ่ม IP Adress เดียวกัน 192.168.1...... ตามลำดับ

7. มองเห็นทุกเครื่อง ใน WORKGROUP

แต่ปรากฎว่า เครื่องลูกข่ายไ่ม่สามารถติดต่อกับเครื่องแม่ข่ายได้ มี บล๊อกฟ้องว่า ชื่อและรหัสผ่านไม่ถูกต้อง

ไม่ทราบว่าต้องแก้ไขตรงไหนบ้างครับ

ลองทำอีกวิธีหนึ่งนะครับ

1. เข้าไปที่ start > setting > control panel > windows firewall > Exceptions

-add programs > แล้ว Browse หาไฟล์ ที่ C:\Program Files\JHCIS\MySQL\bin ชื่อไฟล์คือ mysqld-nt.exe

-ทำการเพิ่ม เข้ามาใน exceptions list

2. ลอง คอนเนค จากเครื่อง client ใหม่ครับ

ต้องใช้computer name ตัวเดิม ถ้าจำไม่ได้ ลองไปตั้งBack up อัติโนมัติ ในMysql Administrater

ในเครื่อง Server ดูใหม่ พอสั่ง Back up จะขึ้นบล็อก ชื่อเครื่อง Server ให้ใช้ชื่อนี้ไปตั้งใน client

ถ้าไม่ได้ ลองลบชื่อในUser Accountตัวเดิม แล้วเพิ่มชื่อ ตัวใหม่ดู ขอให้สำเร็จครับ

ทำไงดี service mysql ไม่ยอม star

ทบทวนขั้นตอนหน่อยนะครับ


- แตกไฟล์ทั้งหมด แล้ว copy ไปที่ c:\mysql

- เข้า command prompt แล้วไปที่ c:\mysql\bin

- พิมพ์คำสั่ง mysqld-nt --install เพื่อติดตั้งเป็น service

- พิมพ์คำสั่ง mysql start เพื่อให้ sevice เริ่มทำงาน

(หรือจะไปสั่งใน admin tool ก็ได้เหมือนกัน)


ตามนี้หรือเปล่า?

ถ้า services mysql ไม่ start ลองเช็ค

Run > services.msc > หา mysql แล้ว start มัน

เนื่องจากรายงานหลายตัวที่มีปัญหากับ windows7 โปรแกรมจึงได้ทำการตรวจสอบว่าเครื่องที่ใช้ windows 7 เวลาออกรายงานจะถูกปรับ font ให้เป็น sansrif(ไม่แน่ใจพิมพ์ถูกป่ะ) เพราะฉะนั้นเคื่องที่ใช้ windows 7 ทำให้ไม่ว่าจะปรับยังไงถ้าเอามา run ใน jhcis ก็จะได้ผลเหมือนเดิม