Static Website : เว็บไซต์ที่ตอบสนองทางเดียว ไม่มีการติดต่อกับฐานข้อมูล และไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ เป็นการนำเสนอข้อมูลแบบทางเดียว
เหมือนกับการอ่านหนังสือ ซึ่งเว็บไซต์จะพัฒนาด้วย HTML หรือ DHTML เป็นหลัก และเนื่องจาก Static Website มีการนำเสนอข้อมูลแบบ
ตายตัวนี้เอง ไม่เป็นที่สนใจของผู้พบเห็น ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นเว็บไซต์ประเภทนี้มากนัก เนื่องจากไม่สามารถบริหารข้อมูลได้สะดวก จึงทำให้
เว็บไซต์ที่พัฒนาด้วยวิธีนี้ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ และปิดตัวเองไป หรือพัฒนาใหม่ในรูปแบบ Dynamic Website
Dynamic Website : เว็บไซต์ที่สามารถตอบสนองระหว่างผู้ใช้กับเว็บไซต์ได้ มีการติดต่อและเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูล ซึ่งเว็บไซต์จะพัฒนา
ด้วย Web Programming (ASP, PHP, ASP.net, อื่นๆ) อาจกล่าวได้ว่า Dynamic Website เป็นเว็บไซต์ที่มีระบบจัดการข้อมูล (ฺBackoffice)
สำหรับให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขข้อมูลได้โดยง่ายผ่านทาง Login ในหน้าเว็บไซต์ โดยผู้ใช้จะได้รับ Username และ Password ส่วนตัวสำหรับ
เข้าไปแก้ไขข้อมูล ในฐานะ Administrator รูปแบบของเว็บไซต์ประเภทนี้ มีตั้งแต่รูปแบบของ ร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce), เว็บข่าว
หรือแม้แต่ Corporate Website ที่เน้นการสร้างความน่าเชื่อถือ และให้ข้อมูลที่รวดเร็วแก่ลูกค้า เช่น ราคา โปรโมรชั่นต่างๆ
Dynamic Website ภาษาสคริปมี 2 ประเภท
1. ไคลเอนต์-ไซด์ สคริปต์
ไคลเอนต์-ไซด์ สคริปต์ (อังกฤษ: Client-side scripting) เป็นเทคโนโลยีที่สคริปต์ทำงานบนบนฝั่งไคลเอนต์ เช่น จาวาสคริปต์ โดยมากมักจะฝังอยู่ใน HTML และถูกประมวลผลโดยเว็บเบราว์เซอร์เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้อย่างทันที เช่น การแสดงข้อความเตือน การตรวจสอบข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน การปรับเปลี่ยนเนื้อหา รวมถึงการแสดงแอนิเมชัน ปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายในเทคนิค AJAX เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานให้กับเว็บไซต์
2. เซิร์ฟเวอร์-ไซด์ สคริปต์
เซิร์ฟเวอร์-ไซด์ สคริปต์ (อังกฤษ: Server-side scripting) เป็นเทคโนโลยีที่สคริปต์ทำงานบนบนฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งแตกต่างกับ Client-side scripting อย่างJavascriptที่ทำงานบนฝั่งclient และยังใช้สำหรับสร้างเว็บเพจแบบมีการตอบสนอง (dynamic) ซึ่งอยู่ในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งมีใช้อยู่แพร่หลายในปัจจุบัน เช่น Web-base อีเมล การทำรายการบัญชีออนไลน์ (online banking) รายงานข่าวพยากรณ์อากาศ หรือ Search Engine
ข้อดีของ Static Web Page
ข้อเสียของ Static Web Page