รูปแบบของเว็บไซต์ มี 2 แบบ

รูปแบบของเว็บไซต์แบ่งได้เป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ

1. Static Website

หมายถึง เว็บไซต์ที่สร้างด้วยภาษา HTML ธรรมดา และบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .html เนื้อหาข้อความ รูปภาพในหน้าเว็บเพจนั้นจะเป็นไปตามที่เราเขียนกำหนดไว้

เมื่อมีผู้เรียกดูหน้าเว็บเพจนั้น Web Server ก็จะส่งไฟล์นั้นไปให้ยังเครื่องที่ร้องขอ และแสดงผลออกทางโปรแกรมเว็บเบราเซอร์บนเครื่องของผู้ชมนั้น

Static Website เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีขนาดไม่ใหญ่ จำนวนหน้าเว็บเพจไม่มาก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบ่อยๆ และไม่มีการติดต่อฐานข้อมูล

ถ้าเราจะสร้างเว็บรูปแบบนี้ สามารถทำได้ไม่ยาก โดยต้องศึกษาเรื่องการเขียนเว็บเพจด้วย HTML ก่อน

ข้อดีของเว็บรูปแบบนี้ คือ เราสามารถกำหนดรูปแบบการตกแต่ง และเนื้อหา ของแต่ละหน้าได้ตามต้องการ แต่ก็ควรควบคุมสไตล์ของแต่ละหน้าให้เหมือนกันด้วย อย่าให้หน้าใดโดดจนคิดว่าเป็นคนละเว็บไซต์กัน

ส่วนข้อเสีย ก็คือ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงยุ่งยาก จะต้องแก้ไขกับไฟล์หน้าเว็บเพจนั้นๆ เมื่อแก้ไขแล้ว ก็ต้อง Upload ไฟล์นั้นขึ้นไป Web Server ใหม่ทุกครั้ง และเว็บรูปแบบนี้จะไม่สามารถใช้งานฐานข้อมูลได้

.

2. Dynamic Website

หมายถึง เว็บไซต์ที่หน้าเว็บเพจสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลเองได้ โดยไม่ต้องเขียนแต่ละหน้าเว็บเพจเอง เช่น กระดานข่าว (Webboard), ระบบสืบค้นข้อมูล

สังเกตได้ว่า เมื่อมีผู้มาตั้งกระทู้ และตอบกระทู้ ก็จะเกิดหน้าเว็บเพจนั้นๆ ขึ้นได้เอง โดยที่เราไม่ได้เป็นคนสร้างหน้าเว็บเพจเหล่านั้นเอง

เว็บไซต์รูปแบบนี้จะถูกสร้างด้วยภาษา Script แบบ Server Side Script เช่น PHP, ASP, ASP.Net, JSP และอื่นๆ ไฟล์เอกสารที่ไ้ด้จะมีนามสกุล .php, .asp เป็นต้น

และมักจะมีการติดต่อกับฐานข้อมูลเพื่อบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล หรือนำข้อมูลจากฐานข้อมูลขึ้นมาแสดงผลเป็นหน้าเว็บเพจ

ส่วนการทำงานของเว็บไซต์รูปแบบนี้ จะต่างจากแบบ Static Website โดยเมื่อมีผู้ชมเรียกดูหน้าเว็บเพจ ไฟล์หน้าเว็บเพจนั้นจะถูกแปลและ execute คำสั่งโดยตัว Interpreter ที่ฝั่ง Server ใ้ห้อยู่ในรูปแบบเอกสาร HTML ก่อน จึงส่งกลับให้ Web Server เพื่อส่งต่อไปให้โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ของผู้ใช้งานต่อไป

การสร้างเว็บไซต์รูปแบบนี้ ต้องอาศัยความรู้ในการเขียนโปรแกรมมากกว่าแบบแรกมาก นอกจากจะต้องมีความรู้พื้นฐาน HTML แล้ว ยังต้องเขียนภาษา Server Side Script เป็นอย่างน้อย 1 ภาษา ต้องรู้เรื่องการจัดการฐานข้อมูล ต้องเขียน SQL เืพื่อจัดการกับข้อมูลในฐานข้อมูลได้ และถ้าอยากให้ระบบงานทำงานได้อย่างรวดเร็วไม่ต้อง Refresh หน้าจอบ่อยๆ ยังต้องรู้เรื่อง AJAX อีกด้วย

.

^ ถ้าอ่านข้อความข้างบนแล้วงง ก็ไม่ต้องซีเรียสนะคะ …

สำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้สนใจจะทำงานด้านนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การเขียนภาษา Script เหล่านี้ เอาเวลาไปเตรียมเนื้อหา และโปรโมทเว็บไซต์ให้ออกดอกออกผลดีกว่า

.

เพราะในปัจจุบันมีระบบที่จะช่วยให้เราจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก เรียกว่า Web CMS เพียงแค่เรียนรู้วิธีการใช้งาน ก็สามารถสร้างเว็บไซต์แบบ Dynamic ได้โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมอะไรเลย

(แต่สำหรับเว็บไซต์ที่ทำงานเฉพาะเจาะจง ก็ยังจำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเพื่อสร้าง Web Application สำหรับใช้งานเองอยู่ ซึ่งเราก็ปล่อยให้เป็นเหน้าที่ของเหล่าโปรแกรมเมอร์ต่อไปค่ะ)

เราสามารถที่จะสร้างเว็บไซต์โดยให้บางหน้าเว็บเพจเป็นแบบ Static ที่ใช้ HTML ธรรมดา เขียน และให้บางหน้าสร้างเป็นแบบ Dynamic โดยใช้ภาษา Script ก็ได้ค่ะ ตัวอย่างเช่น บทเรียนสอน HTML, CSS, XHTML ของ enjoyday จะใช้ HTML ธรรมดาๆ ส่วนหน้าอภิธานศัพท์ ผู้เขียนอยากจะเพิ่มหรือแก้ไขคำศัพท์ได้ง่ายๆ และให้มีระบบสืบค้นด้วย จึงใช้ PHP เขียน เป็นต้น

ข้