เรื่องที่ 006 พระวักกลิบวชเพราะต้องการเห็นความสวยของพระพุทธเจ้า แต่ไม่สนใจปฏิบัติธรรม พระพุทธเจ้าทรงขับแล้วเป็นพระอรหันต์

วันที่โพสต์: 26 ก.ย. 2011, 13:45:02

พระวักกลิเถระ

"...ในวันที่พระพุทธเจ้าไปเทศน์ในหมู่บ้านของ ท่านวักกลิ ท่านเห็นพระพุทธเจ้าสวย มีฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการ ปรากฎออกรอบพระวรกาย ท่านเลยติดใจในความสวยสดงดงามของพระพุทธเจ้าจึงขอบวช เวลาบวชแล้วก็ไม่ต้องการทำอะไร ฉันข้าวเสร็จก็มานั่งใกล้ ๆ พระพุทธเจ้า เวลาพระพุทธเจ้าเทศน์ก็มานั่งดูแบบนั้นจนกว่าพระพุทธเจ้าจะกลับเข้าพระวิหาร พอตอนเช้าท่านก็ทำอย่างนั้น บำเพ็ญบารมีอย่างนี้มาเป็นเวลา ๓ ปี แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่ว่าเพราะท่านติดใจในรูปก็ฟังเสียงเทศน์มา ๓ ปีถึงแม้ว่าจะไม่สนใจก็ตาม เปรียบเหมือนเขาบังคับให้เรากินข้าว เรากิบ้างไม่กินบ้างกินวันละน้อย ๆ มันก็มาก หรือน้ำฝนที่ตกลงมาในตุ่มทีละหยด ๆ มันไม่มาก แต่พอนาน ๆ เข้าน้ำก็เต็มตุ่มได้เหมือนกัน

เมื่อเวลาผ่านไป ๓ ปี องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงเห็นว่า พระวักกลิควรจะเป็นพระอรหันต์แล้ว แสดงว่าพระองค์ทรงสอนให้พระวักกลิปฏิบัติธรรมในด้านวิปัสสนาญาณแล้วไม่มีผล แต่พระวักกลิก็ยังติดอยู่ในพระรูปพระโฉมของพระองค์คือยังติดในร่างกายของพระองค์ ฉะนั้นจะช่วยให้พระวักกลิเป็นพระอรหันต์ได้ง่าย องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสขับไล่พระวักกลิออกจากสำนัก ถือว่าเธอเป็นโมฆบุรุษ เป็นบุรุษผู้ไม่ได้หวังความดีอะไร จงออกไปจากสำนักของตถาคตเดี๋ยวนี้

พระวักกลิเมื่อถูกพระพุทธเจ้าทรงขับก็เสียใจ จะกลับบ้านก็อายเพื่อนบ้าน จะอยู่ที่นี่ก็อยู่ไม่ได้เพราะพระพุทธเจ้าทรงขับ จึงตัดสินใจเราตายดีกว่า จึงขึ้นไปที่เงื้อมผาปรารถนาจะกระโดดเขาให้ตาย พอจะกระโดดเขา พระพุทธเจ้าก็ทรงเปล่งฉัพพรรณรังสีพุ่งไปปรากฎเฉพาะหน้าเหมือนพระองค์นั่งอยู่ข้างหน้าพระวักกลิ ทรงกล่าววาจาว่า

"วักกลิ บุคคลใดเห็นธรรม บุคคลนั้นชื่อว่าเห็นตถาคต"

เพียงเท่านี้ พระวักกลิก็สำเร็จพระอรหันต์

การที่พระวักกลิตัดสินใจกระโดดเขาให้ตาย ก็แสดงว่าท่านไม่ห่วงใยในร่างกายแล้ว คนที่จะเป็นพระอรหันต์นั้น เป็นที่ไม่ห่วงในร่างกายนั่นเอง ถ้าเราตัดสักกายทิฏฐิได้ตัวเดียว เราก็เป็นพระอรหันต์ได้..."