วิธีการดำเนินการ

1. เริ่มจากการจัดทำหลักสูตรสะเต็มศึกษาขึ้น โดยมีจุดเด่นดังนี้

• 1. มีลักษณะมุ่งเน้นในการสร้างทักษะการเป็นนวัตกรให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมที่จะตอบโจทย์ความต้องการ workforce ของประเทศ

  2. จัดให้อยู่ในรูปของห้องเรียนสะเต็มศึกษาโดยเฉพาะเพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรมในกระบวนการจัดการเรียนการสอน

  3. จัดให้ห้องเรียนพิเศษอื่นๆ ของโรงเรียนมีการปรับหลักสูตรโดยนำแนวคิดของสะเต็มศึกษาไปปรับใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

หลักสูตรประกอบด้วยรายวิชาที่มีจุดมุ่งหมายหลัก คือ

1) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

• • • • ระดับชั้น ม.1 เน้นการสร้างความค้นเคยให้กับวิธีการสอนตามแนวทางสะเต็มศึกษา และสร้างทัศนคติที่ดีให้กับนักเรียนในการเรียนรู้ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่สนุกสนาน เรียนปนเล่น (Learn and Play) 

      • ระดับชั้น ม.2 เน้นการแก้ไขปัญหาโดยใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ที่กำหนด กระบวนการจัดการเรียนรู้ใช้วิธี PBL (Problem-based Learning) โดยจัดในรูปแบบของกิจกรรมที่จะมีการกำหนดสถานการณ์ปัญหาให้เป็นแบบ Active Learning

      • ระดับชั้น ม.3 เน้นการสร้างนวัตกรรมอย่างง่าย โดยใช้ทักษะในการแสวงหาความรู้ มาเพื่อแก้ปัญหาตามสถานการณ์ที่นักเรียนร่วมกันเลือกเป็นปัญหาสถานการณ์หลัก โดยเน้นปัญหาสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวันที่พบเจอ จัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้วิธี PBL (Project-based Learning) ให้นักเรียนกำหนดหัวข้อที่ต้องการศึกษาร่วมกันแล้วแตกเป็นประเด็นย่อยๆ แยกกันศึกษาในแต่ละกลุ่ม ทำการค้นคว้าหาความรู้ในการแก้ไขปัญหาเอง วางแผนการทำงาน ใช้กระบวนการออกแบบทางวิศวกรรมเป็นแนวทางในการดำเนินงาน จนได้เป็นนวัตกรรม จัดให้มีการแสดงผลงาน และนำเสนอสู่สถานะชน

      • รายวิชาที่กำหนดให้เป็นรายวิชาเพิ่มเติม มีดังนี้ 

        • • ว21211 สะเต็มศึกษา 1 ในระดับชั้น ม.1 เทอม 1

          • ว21212 สะเต็มศึกษา 2 ในระดับชั้น ม.1 เทอม 2

          • ว22211 สะเต็มศึกษา 3 ในระดับชั้น ม.2 เทอม 1

          • ว22212 สะเต็มศึกษา 4 ในระดับชั้น ม.2 เทอม 2

          • ว23211 สะเต็มศึกษา 5 ในระดับชั้น ม.3 เทอม 1

          • ว23212 สะเต็มศึกษา 6 ในระดับชั้น ม.3 เทอม 2

2) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

• • • • ระดับชั้น ม.4 เน้นการแก้ไขปัญหาโดยใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ที่กำหนด กระบวนการจัดการเรียนรู้ใช้วิธี PBL (Problem-based Learning) โดยจัดในรูปแบบของกิจกรรมที่จะมีการกำหนดสถานการณ์ปัญหาให้ และให้นักเรียนได้รวบรวมแนวคิด รวมรวมองค์ความรู้ผ่าน Lab การเรียนรู้ย่อยๆ เพื่อสังเคราะห์องค์ความรู้ทั้งหมด มาเพื่อแก้ปัญหาตามสถานการณ์หลัก โดยผ่านกระบวนการออกแบบสร้างเครื่องมือเพื่อแก้ไขปัญหานั้น

      • ระดับชั้น ม.5 เน้นการสร้างนวัตกรรม โดยใช้ทักษะในการแสวงหาความรู้ มาเพื่อแก้ปัญหาตามสถานการณ์ที่ตนเองเป็นผู้เลือก โดยเน้นปัญหาในชีวิตประจำวันที่พบเจอ จัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้วิธี PBL (Project-based Learning) ให้นักเรียนกำหนดหัวข้อที่ต้องการศึกษาเอง ทำการค้นคว้าหาความรู้ในการแก้ไขปัญหาเอง วางแผนการทำงาน ใช้กระบวนการออกแบบทางวิศวกรรมเป็นแนวทางในการดำเนินงาน จนได้เป็นนวัตกรรม จัดให้มีการแสดงผลงาน และนำเสนอสู่สถานะชน

      • รายวิชาที่กำหนดให้เป็นรายวิชาเพิ่มเติม มีดังนี้ 

        • วิชาเพิ่มเติม ม.4 เทอม 1

          • ว31287 สะเต็มศึกษา 1

          • ง30205 การเขียนแบบและออกแบบผลิตภัณฑ์

        • วิชาเพิ่มเติม ม.4 เทอม 2

          • ว31288 สะเต็มศึกษา 2

          • ง30206 การเขียนแบบด้วยโปรแกรม

        • วิชาเพิ่มเติม ม.5 เทอม 1

          • ว32287 โครงงานสะเต็ม 1

          • ว32297 ทักษะการสร้างและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 1

        • วิชาเพิ่มเติม ม.5 เทอม 2

          • ว32288 โครงงานสะเต็ม 2

          • ว32298 ทักษะการสร้างและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 2

2. นำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ 

โดยจัดให้เป็นห้องเรียนหลักสูตรสะเต็มศึกษาขึ้น ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 1 ห้องเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 3 ห้องเรียน (จำนวนห้องขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละปีการศึกษา) เริ่มต้นในปีการศึกษา 2558

3. ขยายผลสู่ห้องเรียนอื่นๆ

ด้วยการอบรมให้ความรู้เพื่อให้ผู้รับผิดชอบดูแลหลักสูตรห้องเรียนอื่นๆ ของโรงเรียนได้นำแนวคิดของสะเต็มศึกษาไปปรับให้เข้ากับหลักสูตรของห้องเรียน เช่น ห้องเรียนพิเศษ SMTE ห้องเรียนพิเศษ Gifted Math ห้องเรียนพิเศษ MEP โดยมีจุดเน้นให้นักเรียนมีทักษะการเป็นนักนวัตกร กำหนดให้นักเรียนได้สร้างนวัตกรรมที่อยู่ในรูปแบบของชิ้นงานโครงงานอย่างหลากหลาย ทั้งโครงงานด้านวิทยาศาสตร์ โครงงานคณิตศาสตร์ โครงงานด้านคอมพิวเตอร์ และโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์

4. โรงเรียนได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนสร้างนวัตกรรม 

โดยได้ดำเนินการในรูปของโครงการต่างๆ ดังนี้

1)  โครงการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนด้านสะเต็มศึกษา 

     โดยมีเป้าหมายหลักที่ต้องการให้การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านสะเต็มสามารถดำเนินการได้ สนับสนุนการจัดกิจกรรมในห้องเรียน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จัดค่ายเทคนิคปฏิบัติการทางสะเต็ม โดย เช่น ค่ายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยโปรแกรม เน้นการสร้างนวัตกรรมสมัยใหม่ เช่น การเขียนโปรแกรมควบคุมระบบสมองกลฝังตัว และนวัตกรรมด้าน IOT เป็นต้น กิจกรรกิจกรรมหลักดังต่อไปนี้ 

กิจกรรมที่ 1 เรียนรู้กับสะเต็ม มีเป้าหมายต้องการให้การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านสะเต็มสามารถดำเนินการได้ สนับสนุนการจัดกิจกรรมในห้องเรียน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการจัดกิจกรรม 

กิจกรรมที่ 2 ค่ายสัมพันธ์ชาวสะเต็ม มีเป้าหมายต้องการปลูกฝังแนวคิดและค่านิยมในการเป็นนักนวัตกร สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเรียน และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น

กิจกรรมที่ 3 พัฒนาทักษะเทคนิคปฏิบัติการ มีเป้านหมายต้องการจัดค่ายเสริมประสบการณ์ในด้านเทคนิคปฏิบัติการทางสะเต็มให้กับนักเรียน โดย เช่น ค่ายกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยโปรแกรม เน้นการสร้างนวัตกรรมสมัยใหม่ เช่น การเขียนโปรแกรมควบคุมระบบสมองกลฝังตัว และนวัตกรรมด้าน IOT เป็นต้น

กิจกรรมที่ 4 เพิ่มพูนประสบการณ์นอกสถานศึกษา มีเป้าหมายต้องการให้นักเรียนได้มีโอกาสรับประสบการณ์นอกเนื่องจากในชั้นเรียน เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม นิทรรศการ ที่จัดโดยหน่วยงานนอกโรงเรียน โดยเน้นที่ประสบการณ์หรืองานที่เกี่ยวข้องกับทักษะด้านสะเต็มเป็นหลัก

กิจกรรมที่ 5 จัดนิทรรศการผลงาน STEM Open House มีเป้าหมายต้องการให้นักเรียนได้มีเวทีในการนำเสนอผลงานการสร้างนวัตกรรมของนักเรียน ในรูปแบบนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการ จัดให้มีการนำเสนอผลงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การนำเสนอแบบโปสเตอร์ การนำเสนอแบบบรรยาย โดยจัดให้มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสะเต็มศึกษาจากหน่วยงานภายนอกร่วมเป็นกรรมการวิพากษ์ผลงาน

2)  โครงการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนและบุคลากรให้เข้าร่วมกิจกรรมและการแข่งขันกับหน่วยงานภายในและภายนอก

กิจกรรมที่ 1 แข่งขันทักษะสะเต็ม มีเป้าหมายต้องการส่งเสริมให้นักเรียนได้มีโอกาสนำผลงานที่ได้ทำส่งเข้าประกวดหรือร่วมนำเสนอในเวทีต่างๆ ที่จัดขึ้น ร่วมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ทักษะที่มีในการเข้าร่วมประกวดแข่งขัน เป็นการเสริมประสบการณ์ให้กับนักเรียนเพิ่มมากขึ้น 

กิจกรรมที่ 2 ส่งเสริมครูเข้าร่วมแข่งขันครูสะเต็มศึกษาดีเด่น มีเป้าหมายต้องการส่งเสริมให้ครูมีโอกาสได้รับการพัฒนา และนำผลของการพัฒนา เช่น การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แนวทางสะเต็มศึกษา การนำผลงานต่างๆ ที่โดดเด่น การพัฒนางานร่วมกับนักเรียน หรือการเป็นที่ปรึกษาโครงงานต่างๆ เข้าร่วมเผยแพร่ ร่วมนำเสนอในเวทีต่างๆ อีกทั้งจะได้เป็นตัวอย่างให้กับครูท่านอื่นๆ ได้เห็นแนวทางในการทำงานที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

3)  โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา

กิจกรรมที่ 1 วารสารเผยแพร่กิจกรรมสะเต็มศึกษา มีเป้าหมายต้องการเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสะเต็มศึกษา ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดหลักเกี่ยวกับสะเต็มศึกษาของโรงเรียน กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมเสริมทักษะ ค่ายการเรียนรู้ และผลงานของนักเรียนและครู เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเป็นการขยายผลต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป

กิจกรรมที่ 2 ส่งเสริมทักษะด้านภาษาอังกฤษ มีเป้าหมายต้องการเสริมทักษะทางด้านภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่สำคัญ นักเรียนควรได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับการเรียนรู้ในด้านวิชาการ

กิจกรรมที่ 3 พัฒนาห้องเรียนสะเต็ม มีเป้าหมายต้องการจัดสภาพแวดล้อมให้มีความเหมาะสมกับการจัดกิจกรรมต่างๆ ในห้องเรียน จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม เช่น ห้อง ICT Resource Center เป็นห้องที่เน้นการสืบค้น และเอื้อต่อการทำโครงงานของนักเรียน ห้อง Fabrication Laboratory หรือห้อง FabLab ที่มีวัสดุอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกในการทำโครงงาน เช่น เครื่องตัด Laser เครื่องพิมพ์ 3 มิติ เครื่องช่าง และอุปกรณ์อิเล็กทรอเน็ตต่างๆ ห้องศูนย์การเรียนรู้สะเต็มศึกษาเป็นห้องอเนกประสงค์ เป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงผลงานโครงงานของนักเรียน สามารถประยุกต์ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ได้หลายรูปแบบ