วัดป่าสัก (แหล่งท่องเที่ยว)

สถานที่ตั้ง

วัดป่าสัก ตั้งอยู่เลขที่ 139/1 หมู่ที่ 8 ตำบลมะต้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

ความเป็นมา

วัดป่าสัก ในปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ตั้งวัดขึ้นใหม่ เพราะแต่เดิมนั้นวัดป่าสัก ตั้งอยู่ที่บริเวณที่ธรณีสงฆ์บริเวณโรงเรียนวัดป่าสัก สันนิษฐานว่า เพราะเป็นที่ลุ่มอาจมีน้ำท่วมขัง จึงย้ายมาตั้งเป็นวัดที่อยู่ในปัจจุบันนี้ และเดิมก็เรียกกันว่า วัดเด่นกระต่าย คงเป็นเพราะว่า บริเวณนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของกระต่ายจำนวนมากก็ได้ ต่อมาเมื่อมีการย้ายมาตั้งที่อยู่แห่งใหม่ จึงเรียกกันว่า วัดป่าสัก เพราะมีต้นไม้สักขึ้นอยู่จำนวนมาก

ลักษณะโดยทั่วไป

วัดป่าสัก ตั้งขึ้นเป็นวัดราวปี พ.ศ. 2473 และได้รับการรับรองสภาพเป็นวัดจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมการศาสนา เมื่อปี พ.ศ. 2529 บริเวณวัดเป็นที่ราบลุ่ม ต่อมามีการถมที่ดินเพิ่มเติมให้พ้นจาการถูกน้ำท่วมขัง จึงมีสภาพดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

อาคารเสนาสนะ

วัดป่าสัก มีการก่อสร้างเสนาสนะขึ้นหลายครั้งหลายสมัย แต่เดิมคงเป็นอาคารเสนาสนะไม้เนื้อแข็งบ้าง ก่ออิฐถือปูนบ้าง มีการรื้อถอน ปรับปรุง ก่อสร้างมาเป็นลำดับ อาทิเช่น ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ เป็นต้น

ประวัติการก่อสร้างอุโบสถ

อุโบสถวัดป่าสัก แต่เดิมนั้นเป็นวิหารที่ประดิษฐานพระทศพล หรือหลวงพ่อทศพล มีขนาดกว้าง 14.75 เมตร ยาว 27 เมตร ลักษณะทรงไทยประยุกต์ โครงสร้างทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ย่อมุขหน้าบรรณสามชั้น ผนังเทคอนกรีตเสริมเหล็ก ประตูหน้าต่างทำด้วยไม้เนื้อแข็ง แกะสลักลวดลายไทย หลังคามุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเคลือบ

เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา มาถึงสมัยพระครูพิพิธพัฒโนดม เป็นเจ้าอาวาสจึงมีความดำริว่า ควรใช้วิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อทศพลเป็นอุโบสถในการประกอบสังฆกรรมของพระสงฆ์ได้ จึงทำการก่อสร้างปรับปรุงสภาพวิหารทั้งหมดและได้ดำเนินการขอพระราชทานวิสุงคามสีมา ต่อมาปี พ.ศ. 2545 สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานพระพุธศาสนาแห่งชาติ ได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานวิสุงคามสีมาแก่วัดป่าสัก ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่มที่ 119 ตอนที่ 80 ง และประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ ฉบับที่ 45

ทางวัดป่าสักและคณะกรรมการ จึงมีมติที่จะดำเนินการงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต เพื่อกำหนดเขตวิสุงคามสีมาประกอบสังฆกรรม ระหวางวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ถึงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2547 นี้ รวมระยะเวลา 7 วัน 7 คืน