ประเด็นท้าทาย การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา เรื่อง โครโมโซมและการนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 2 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ประเด็นท้าทาย การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา เรื่อง โครโมโซมและการนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 2 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
วิธีการดำเนินการใช้บรรลุผล
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 นักเรียนจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในแนวคิดหลัก หลักการ กฎ และทฤษฎีต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ นักเรียนจึงควรได้รับการพัฒนาความคิดชั้นสูง (Higher – Ordered Thinking) พัฒนากระบวนการศึกษาหาความรู้ (Processes of Learning) เพื่อให้มีความสามารถในการแก้ปัญหา การสื่อสาร การตัดสินใจ มีจิตวิทยาศาสตร์ (Scientific Mind) และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในการจัดการเรียนรู้จึงต้องเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ นั่นคือให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ และให้การเรียนรู้เกิดขึ้นที่ตัวนักเรียน ครูผู้สอนจึงได้เล็งเห็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่เน้นให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้จากการทดลองทำ หรือจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการฝึกกระบวนการคิด ฝึกความคิดสร้างสรรค์ โดยให้นักเรียนได้ใช้ศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด ซึ่งนักเรียนจะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับนั้นไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีให้แก่ผู้อื่นได้ ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตนเอง
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผลสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
2.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารทางวิชาการหรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา
2.2 สร้างกลุ่ม PLC กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาชีววิทยา ที่พัฒนารูปแบบการเรียนรู้และส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
2.3 นำข้อมูลและข้อเสนอแนะที่ได้จากกระบวนการ PLC มาวิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
2.4 นำเสนอรูปแบบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ได้จัดทำขึ้น เสนอในกลุ่ม PLC อีกครั้ง เพื่อให้การออกแบบกิจกรรมมีความสมบูรณ์ที่สุด
2.5 นำเสนอรูปแบบหรือวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อผู้บริหาร เพื่อขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ที่มีสื่อการเรียนการสอนเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่หลากหลาย
2.6 จัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สังเกตพฤติกรรมผู้เรียน
2.7 วัดและประเมินผล จากผลงานนักเรียนในชั้นเรียน
จากวิธีการดำเนินการให้บรรลุผลดังกล่าวข้างต้นสามารถสรุปเป็นวงจร ได้ดังภาพ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
3.1 เชิงปริมาณ
- นักเรียนร้อยละ 70 ที่เรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีทักษะการแก้ปัญหา และผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น
- นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
- ได้รูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา เรื่อง โครโมโซมและการนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 2 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
นักเรียนใช้เทคโนโลยี สืบค้นข้อมูลและนำเสนอข่าวเรื่อง การนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างผลงานนักเรียน เรื่อง การนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาใช้ประโยชน์
ตัวอย่างผลงานนักเรียน เรื่อง การนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาใช้ประโยชน์
ตัวอย่างผลงานนักเรียน เรื่อง การนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาใช้ประโยชน์
ตัวอย่างผลงานนักเรียน เรื่อง การนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาใช้ประโยชน์
4. ระดับความสำเร็จในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าท้ายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AIเพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา เรื่อง โครโมโซมและการนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 2 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี จำนวนนักเรียน 39 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบ ดำเนินการวิจัยโดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ดังนี้ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ โครโมโซมและเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ จำนวน 3 แผน รวม 9 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง โครโมโซมและเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โครโมโซมและเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีผลต่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา เรื่อง โครโมโซมและการนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 2 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผลการศึกษาพบว่า
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยการสอนรูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านการแก้ปัญหา เรื่อง โครโมโซมและการนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 2 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 70
2.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีทักษะการแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ที่สูงขึ้น
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง งานและพลังงาน มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เท่ากับ 4.80