ความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัย พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญในการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชนและเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตในธุรกิจและอุตสาหกรรม พลังงานต้องมีราคาเหมาะสมและคุณภาพที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ประเทศไทยไม่มีแหล่งพลังงานเชิงพาณิชย์ ภายในประเทศเพียงพอกับความต้องการ ทำให้ต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศประมาณร้อยละ 60 ของความต้องการใช้เชิงพาณิชย์ทั้งหมด แนวทางการพัฒนาพลังงานของประเทศควรคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างจำกัดเพื่อการใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และพิจารณาการใช้เชื้อเพลิงราคาถูก มีปริมาณเพียงพอและแน่นอนมีการกระจายแหล่งที่มา เชื้อเพลิงหลายชนิด เพื่อกระจายความเสี่ยงและต้องเป็นเชื้อเพลิงที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม น้อยกว่าความเป็นจริง เกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงเพื่อประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท ยังคงชอบใช้ปืนและถ่านในการปรุงอาหาร แต่เนื่องจากทรัพยากรป่าไม้ของประเทศค่อยๆ ลดลง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ทำให้จำเป็นต้องพิจารณานำวัสดุเหลือใช้มาผลิตถ่านให้เพียงพอต่อการใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคต ถ่านจะหายากและหายากขึ้น
ปัจจุบันความต้องการถ่านในการปรุงอาหารเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในร้านอาหารเนื้อย่าง และร้านอาหารปิ้งย่างต่างๆ พวกเขายังประสบปัญหาการใช้ถ่านเพราะถ่านมีน้อย ถ่านที่ได้รับนั้นมีคุณภาพต่ำและไม่ให้ความร้อนสูงมากนัก ควันไฟที่เผาไหม้มากเกินไป การเผาไหม้ไม่นาน แตกร้าว ปัญหาเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มหาวัตถุดิบมาทดแทน ของเสียมีหลายประเภท แต่วัสดุที่จะใช้ในการผลิตถ่าน มีเพียงบางชนิดเท่านั้นที่ให้ คุณภาพของถ่านออกมาดี ของเสียที่เหมาะสมที่จะใช้ในการผลิตถ่านคือซังข้าวโพดซึ่งมีปริมาณมากและเป็นของเสียจากการเกษตร โรงงานแปรรูปข้าวโพดแต่ละวัน ปริมาณข้าวโพดบนซังจะมีขนาดใหญ่ใช้ไม่ได้อีกต่อไป และเป็นปัญหาสำหรับการจัดเก็บและยังเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ทีมวิจัยจึงมีความคิดที่จะนำซังข้าวโพด เพื่อใช้ประโยชน์ใหม่โดยใช้ซังข้าวโพดผลิตถ่านอัดแท่งทดแทนถ่านในอนาคตที่กำลังจะหมดลง และยังสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตได้อีกด้วย
1.เพื่อออกแบบและสร้างเครื่องอัดแท่งถ่านที่ได้จากแกนข้าวโพด
2.เพื่อหาค่าคุณลักษณะทางความร้อนของเชื้อเพลิงที่ได้จากแกนข้าวโพด เปรียบเทียบกับ กะลามะพร้าว, เหง้ามันสำปะหลัง และถ่านไม้ทั่วไปที่มีขายในท้องตลาด
3.เพื่อหาค่าคุณลักษณะทางกายภาพของเชื้อเพลิงที่ได้จากแกนข้าวโพด เปรียบเทียบกับ กะลามะพร้าว, เหง้ามันสำปะหลัง และถ่านไม้ทั่วไปที่มีขายในท้องตลาด
นำซังข้าวโพดที่ได้มาเผาให้เป็นถ่านแล้วนำมาผสมกับตัวประสาน ตามอัตราส่วน ถ่าน : น้ำ : แป้งมันสำปะหลัง โดยน้ำหนัก ดังนี้ 70 70:25:5, 65:25: 10, 60: 25:15, 55: 25:20 50 : 25 : 25 เพื่อนำค่าที่ได้มาเปรียบเทียบคุณสมบัติทางความร้อน และกายภาพของถ่านที่ผลิตได้ สำหรับเครื่องอัดแท่งถ่านที่สร้างขึ้นที่จะใช้ไฟ 220 โวลท์ เป็นระบบไฟฟ้าที่ใช้ได้ทั่วไป เครื่องอัด ชนนิดนี้ทำงานด้วยการอัด หรือแรงงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 1.5 แรงม้า ที่ไปหมุนสกรูหรือ เกลียว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องเพื่อให้มีความทนทานต่อการสึกกร่อน โดยอัดเชื้อเพลิงให้ แน่นเป็นแท่ง แล้วรีดออกมาจากกระบอกรีด หาค่าความร้อนของเชื้อเพลิงที่ได้จากแกนข้าวโพด เปรียบเทียบกับ กะลามะพร้าว, เหง้ามันสำปะหลัง และถ่านไม้ทั่วไปที่มีขายในท้องตลาด
1.ได้เครื่องต้นแบบที่สามารถอัดแท่งถ่านที่ได้จากแกนข้าวโพด
2.ทราบถึงค่าความร้อนของเชื้อเพลิงที่ได้จากแกนข้าวโพด เปรียบเทียบกับ นไม้ทั่วไปที่มีขายในท้องตลาด กะลามะพร้าว, เหง้ามันสำปะหลัง และถ่านไม้ทั่วไปที่มีขาย
3.ทราบถึงคุณลักษณะทางกายภาพของเชื้อเพลิงที่ได้จากแกนข้าวโพด เปรียบเทียบกับ กะลามะพร้าว, เหง้ามันสำปะหลัง และถ่านไม้ทั่วไปที่มีขายในท้องตลาด
4.เพื่อที่จะนำวัสดุสิ่งที่เหลือใช้ทางการเกษตรในท้องถิ่นมาทำให้เกิดประโยชน์ ทางด้านเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น