1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

      สภาพปัญหาของนักเรียนวิชาเทเบิลเทนนิส ยังพบปัญหาอย่างมากในการเดาะลูกหน้ามือและหลังมือเนื่องจากนักเรียนไม่เคยเรียนและบางคนไม่รู้จักกีฬาเทเบิลเทนนิสมาก่อน จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อนักเรียน ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายทําให้เวลาเรียนภาคปฏิบัติ จึงปฏิบัติทักษะเบื้องต้นของกีฬาเทเบิลเทนนิส ได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะการเคลื่อนที่ ในทิศทางต่างๆ การเสิร์ฟมือบน และการเล่นลูกสองมือบน เป็นต้น

         2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

             2.1 ศึกษา วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนถิ่นโอภาสวิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

           2.2 ศึกษาเอกสารและแนวคิดที่เกี่ยวกับการสอน 

    2.3 จัดทำการออกแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนวิชาเทเบิลเทนนิสระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 5 ขั้นตอน

           2.4 ตรวจสอบความถูกต้อง แลกเปลี่ยนความรู้ ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่ออการออกแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไขและพัฒนา

           2.5 นำการออกแบการจัดการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนวิชาเทเบิลเทนนิสระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำ

           2.6 นำการออกแบบการจัดการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้ ไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาเทเบิลเทนนิสระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมตามบริบท

           2.7 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการจัดการเรียนรู้ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้จัดกิจกรรมเรียนซ่อมเสริมและใช้ระบบเพื่อนช่วยเพื่อนฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ จนนักเรียนมีผลการเรียนที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

           2.8 นักเรียนประเมินการสอนวิชาเทเบิลเทนนิส จากนั้นครูผู้สอนนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ

         3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

           3.1 เชิงปริมาณ

           นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนถิ่นโอภาสวิทยา ร้อยละ 80 ที่เรียนในรายวิชาเทเบิลเทนนิสได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ในระดับผลการเรียน 3.5 ขึ้นไป โดยใช้รูปแบบการฝึกการเดาะหน้ามือและหลังมือที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

            3.2 เชิงคุณภาพ

           นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะการเดาะลูกหน้ามือและหลังมือ รู้และเข้าใจ รูปแบบและวิธีการฝึกอย่างถูกต้อง ตรงตามสมรรถนะของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 สามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวันและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาพลศึกษาเพื่อใช้ในการตัดสินใจในการเล่นกีฬาได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข