กรอบแนวคิด
* เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนในทางที่ดีควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤตเพื่อความมั่นคง และความยั่งยืนของการพัฒนา
* เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตน (economic life gliding principles) ในทางที่ควรจะเป็น (Secularised normative prescription) โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย (Positive aspect) และตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมาได้มีผลการทดลองดำเนินโครงการพัฒนาที่หลากหลายตามแนวพระราชดำริเพื่อหาแนวทางและรูปแบบการพัฒนาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งภายในและภายนอกประเทศ
* เป็นปรัชญาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลาทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคต (Timely timeless) กล่าวคือได้มีพระราชดำรัสมาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 และสามารถใช้เป็นแนวทางการพัฒนาเพื่อก้าวออกจากวิกฤตและพัฒนาในอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์
* เป็นปรัชญาที่มองโลกเชิงระบบที่มีลักษณะพลวัต dynamic กล่าวคือมองว่าสถานการณ์ในโลกนั้นมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา (Uncertainties) เนื่องจากความเชื่อมโยง (connectivity) ของปัจจัยต่างๆภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์
* ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm shift) ลักษณะหนึ่งโดยมองว่าชุมชนและประเทศต่างๆมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีต่อวัฒนธรรมและค่านิยมทางสังคม
คุณลักษณะ
* เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับโดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลางและการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน
* เป็นปรัชญาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ (Scalable) ทั้งระดับครอบครัว ระดับชุมชน และระดับรัฐ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ได้กับคนทุกระดับทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี นักธุรกิจ
* แนวคิด ทางสายกลาง (Middle path) หัวใจสำคัญ (Keyworld) ของหลักปรัชญาที่นำมาใช้ในการบริหารและพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกแห่งความเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ กล่าวคือ
- ไม่ใช่การปิดประเทศอย่างสิ้นเชิงหรือเปิดเสรีอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการเตรียมความพร้อมของคนและสังคมในการเข้าสู่กลไกตลาด
- ไม่ใช่กันอยู่อย่างโดดเดี่ยว (Independence) หรือพึ่งพิงภายนอกหรือคนอื่นทั้งหมด (Dependence) แต่เน้นแนวความคิดและการกระทำที่จะพึ่งตัวเองเป็นหลัก (Self-reliance) ก่อนที่จะไปพึ่งคนอื่น