หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นพรพระราชทานจากพระราชา ซึ่งประกอบด้วย 3 ห่วง 2 เงื่อนไข โดย 3 ห่วง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และ 2 เงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้ ซึ่งประกอบ ความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง และเงื่อนไขคุณธรรม ซึ่งประกอบด้วย ความซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน สติปัญญา และแบ่งปัน) หากมีคุณสมบัติครบตามนี้แล้วจะทำให้ชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมมีการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นบุคคลแรกที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนามนุษย์” (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) จากโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จากพระราชกรณียกิจ ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายมาโดยตลอด ผ่านโครงการในพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการ เพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาทรัพยากรและคุณภาพที่ดีขึ้นของชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยรางวัลดังกล่าวถือเป็นตัวแทนของความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ทั้งในระดับชาติ ภูมิภาค และสากล
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เป็นกรอบวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกระหว่างปี พ.ศ. 2558-2573 โดยผู้นำของประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้ให้การรับรองเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558 ระหว่างการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN Summit for the Adoption of the Post-2015 Development Agenda) โดยเป็นเป้าหมายที่พัฒนาต่อจาก เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals: MDGs) ที่สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2558 เป้าหมายดังกล่าวประกอบด้วย 17 เป้าหมาย ได้แก่
• GOAL 1. ขจัดความยากจน : No Poverty
• GOAL 2. ขจัดความหิวโหย : Zero Hunger
• GOAL 3. มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี : Good Health and Well-being
• GOAL 4. การศึกษาที่เท่าเทียม : Quality Education
• GOAL 5. ความเท่าเทียมทางเพศ : Gender Equality
• GOAL 6. การจัดการน้ำและสุขาภิบาล : Clean Water and Sanitation
• GOAL 7. พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ : Affordable and Clean Energy
• GOAL 8. การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ : Decent Work and Economic Growth
• GOAL 9. อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน : Industry, Innovation and Infrastructure
• GOAL 10. ลดความเหลื่อมล้ำ : Reduced Inequality
• GOAL 11. เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน : Sustainable Cities and Communities
• GOAL 12. แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน : Responsible Consumption and Production
• GOAL 13. การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : Climate Action
• GOAL 14. การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล : Life Below Water
• GOAL 15. การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบก : Life on Land
• GOAL 16. สังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก : Peace and Justice Strong Institutions
• GOAL 17. ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน : Partnerships to achieve the Goal
สำหรับการบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน (SGDs) โดยใช้แนวทางตามหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) นั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2559 ให้ส่วนราชการรัฐต่างๆ ดำเนินการตามเป้าหมายที่มีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทาง สรุปย่อได้ ดังนี้
1. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) เพื่อจัดทำชุดความรู้เกี่ยวกับ SEP for SDGs เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งต่างประเทศ มีความรู้ความเข้าใจและสามารถนำ SEP ไปปฏิบัติจนเกิดผลสำเร็จอย่างแท้จริง รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัด SEP for SDGs ที่มีมาตรฐานเดียวกัน และมอบหมายให้ สศช. จัดทำรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตาม SDGs
2. ให้กระทรวงศึกษาธิการกำหนดเนื้อหา/เครื่องมือเผยแพร่ SEP for SDGs ในหลักสูตรการเรียนการสอนและกิจกรรมนอกหลักสูตร
3. การมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยมีกลไกการขับเคลื่อน SEP for SDGs ในระดับพื้นที่ (area based) โดยทำงานในลักษณะประชารัฐร่วมกับภาคเอกชน ภาควิชาการ ท้องถิ่น และประชาสังคม
4. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการสร้าง SEP for SDGs Partnership และ SEP for SDGs Youth Partnership ผ่านการจัดฝึกอบรม ดูงาน หรือโครงการพัฒนาไปยังประเทศต่างๆ และการจัดทำรายงาน Voluntary National Review (VNR) เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสหประชาชาติ
5. ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อน SGDs ตามแนวทาง SEP ของหน่วยงานต่างๆ
ทั้งนี้ ยังให้ทุกส่วนราชการดำเนินการตามแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่นยืน พ.ศ. 2573 โดยยึดหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทาง ให้สอดคล้องกับแผนงานในภารกิจหลักของหน่วยงานระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) แผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี และ 1 ปี และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีได้รับมอบตำแหน่งประธานกลุ่ม 77 (G77) วาระปี พ.ศ. 2559 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก โดยในปีดังกล่าว ไทยได้ผลักดันปฏิญญาระดับรัฐนตรีกลุ่ม 77 ซึ่งระบุเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งข้อริเริ่มในการสร้างหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาจนเป็นผลสำเร็จ
นอกจากนี้ ไทยยังได้กิจกรรมต่างๆภายในประเทศภายใต้กรอบ G77 เพื่อเผยแพร่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายระดับ รวมถึงระดับเยาวชน โดยได้จัดโครงการเสริมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือกลุ่ม 77 เพื่อเผยแพร่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SEP for SDGs Youth Partnership การจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา การเสริมสร้างความเข้าใจและการรับรู้เกี่ยวกับ SEP for SDGs ให้แก่เยาวชน การสอดแทรกความเชื่อมโยงระหว่าง SEP กับ SDGs ในโครงการและกิจกรรมต่างๆ โดยดำเนินโครงการที่มุ่งบรรลุ SDGs ที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ การเน้นการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน รวมถึงการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการ (http://www.yavf.or.th/th/activities/122/2332/)
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy: SEP) มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) อย่างกลมกลืน เพราะมีเป้าหมายปลายทางที่สอดคล้องกัน กล่าวคือ ทั้ง SEP และ SDGs ต่างมุ่งพัฒนาและสร้างความสมดุลในมิติสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ส่วนที่เหลื่อมกันอยู่แต่ไม่ขัดกันก็คือ SEP เน้นมิติวัฒนธรรมด้วย ขณะที่ใน SDGs มิติวัฒนธรรมแฝงอยู่ในหลายเป้าหมาย และมีส่วนของสันติภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเพิ่มเข้ามา
ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาก็มีปรากฏอยู่ในการประยุกต์ใช้ SEP ในภาคเกษตร คือ เกษตรทฤษฎีใหม่ ในระยะที่ 3 หลังจากชุมชนมีความเข้มแข็งแล้วจึงขยายความร่วมมือมายังองค์กรภายนอกชุมชน ซึ่งในส่วนนี้ SDGs จะมีความชัดเจนกว่า SEP ในแง่ที่ว่า SDGs ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างชัดเจนในรายละเอียดของเป้าหมาย (Goals) 17 ประการ และเป้าประสงค์ (Targets) 169 ประการ
นอกจากนี้ SEP ยังช่วยเสริม SDGs ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นไปอีกเพราะ SEP ให้หลักการในการดำเนินการเพื่อการบรรลุ SDGs ด้วย โดย SEP ให้หลักในการดำเนินการเอาไว้ว่า
(1) การดำเนินการใด ๆ เพื่อบรรลุ SDGs ต้องอาศัยองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง และคำนึงมิให้มีผลกระทบทางลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (เงื่อนไขความรู้ และคุณธรรม)
(2) การดำเนินการต้องพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ให้รอบด้าน เห็นเหตุ เห็นผลผลิต ผลลัพธ์และผลกระทบของแต่ละทางเลือก (หลักความมีเหตุผล)
(3) การดำเนินการควรใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพให้พอดีกับการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ไม่เกิดของเหลือ เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในครัวเรือนหรือในชุมชนอยู่ก่อนที่จะขยายไปพึ่งพาภายนอก (หลักความพอประมาณ)
(4) การดำเนินการควรเตรียมการเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ (หลักภูมิคุ้มกัน)
(5) การดำเนินการจะบรรลุผลได้หากเริ่มจากการระเบิดจากข้างใน เริ่มจากท้องถิ่นซึ่งในการเริ่มดำเนินการจากท้องถิ่นได้นั้นจะต้องไม่ละเลยมิติวัฒนธรรมท้องถิ่นที่จะช่วยเชื่อมโยงคนในท้องถิ่นกับการพัฒนาได้
ยิ่งไปกว่านั้น SEP ยังช่วยกำหนดเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาที่ยั่งยืนไว้ด้วย คือ การพัฒนาที่สุดท้ายต้องมุ่ง “ความสุข” และ “ประโยชน์สุข” ของสังคม ซึ่งหลักคิดนี้จะช่วยให้การพัฒนาที่เกิดขึ้นมิได้เกิดขึ้นแบบเพียงแค่ให้มี แต่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความสุขและประโยชน์สุขของสังคมด้วย
(ที่มา : อ้างอิง SDG Move)