1. รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงบประมาณ
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการสถานศึกษากลุ่มบริหารงบประมาณ โดยปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการศึกษา ในการบริหารกิจการของสถานศึกษา การวางแผนการปฏิบัติงาน การควบคุม กำกับ ดูแลเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณ และงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย ปฏิบัติหน้าที่รองจากผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยช่วยปฏิบัติราชการในเรื่องต่อไปนี้
๑. กำกับติดตามดูแล การบริหารงบประมาณ ตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของงานให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
๒. ควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินต่าง ๆ วิเคราะห์รายจ่าย และประเมินผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการของโรงเรียน
๓. กำกับดูแลการปฏิบัติงานของบุคลากรกลุ่มบริหารงบประมาณ ประเมินผลการปฏิบัติงานครู บุคลากรตามกรอบงานที่เกี่ยวข้าง ส่งเสริมและสนับสนุนครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีการพัฒนาด้านการบริหารงบประมาณอย่างต่อเนื่อง
๔. ประสานงานกับกลุ่มงานทุกกลุ่มงานของโรงเรียนและหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
๕. ประสานความร่วมมือกับชุมชนและท้องถิ่น ในการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาและให้บริการวิชาการแก่ชุมชน
๖. ประเมินผลปฏิบัติงานของข้าราชฝบการครูและบุคลากรตามกรอบงานที่เกี่ยวข้องและได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสถานศึกษา
๗. รายงานผลการดำเนินงานตามกรอบงานที่เกี่ยวข้องและได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสถานศึกษา
๘. ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
2. หัวหน้ากลุ่มบริหารงบประมาณ
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑. พัฒนาระบบบริหารงานของกลุ่มบริหารงบประมาณให้มีประสิทธิภาพโดยเน้นการมีส่วนร่วม
๒. จัดบุคลากรรับผิดชอบการดำเนินงานในงานต่าง ๆ ในกลุ่มบริหารงบประมาณ
๓. วางแผนและดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม ให้การดำเนินงานต่าง ๆ ของกลุ่มบริหารงบประมาณสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๔. ส่งเสริมสนับสนุนครูและบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในกลุ่มบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
๕. ช่วยประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ ช่วยแก้ไขปัญหา และเป็นที่ปรึกษาให้ครูและบุคลากรที่ปฏิบัติงานในกลุ่มบริหารงบประมาณ ให้สามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๖. สรุปประเมินผลการดำเนินงานของกลุ่มบริหารงบประมาณ และจัดเอกสารสรุปผลการดำเนินงานของกลุ่มบริหารงบประมาณเสนอผู้บริหาร
๗. ให้ข้อเสนอแนะงานกลุ่มบริหารงบประมาณให้รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงบประมาณหรือให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบและพิจารณา
๗. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
3. งานสำนักงานกลุ่มบริหารงบประมาณ
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑. กำกับดูแล จัดระบบและดำเนินการ รับ-ส่ง แจ้งเวียนหนังสือของกลุ่มบริหารงบประมาณ การจัดเก็บให้เป็นปัจจุบัน เป็นหมวดหมู่ และเป็นระเบียบเรียบร้อย
๒. จัดทำแบบฟอร์มเอกสารและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติงานสำนักงานด้านการบริหารงบประมาณ
๓. จัดเตรียมวาระการประชุมงานด้านการบริหารงบประมาณ บันทึกและเสนอรายงานการประชุมด้านการบริหารงบประมาณให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบและพิจารณา
๔. รวบรวมกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ แนวปฏิบัติ นโยบาย กลยุทธ์ หลักฐานเอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการบริหารงบประมาณ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบและถือปฏิบัติ
๕. จัดสำนักงานกลุ่มบริหารงบประมาณให้เป็นไปตามกิจกรรม ๕ ส และให้มีการบริการที่ดี
๖. จัดทำแผนปฏิบัติงาน/ปฏิทินงานด้านการบริหารงบประมาณและร่วมจัดแผนปฏิบัติงานโรงเรียน/ปฏิทินปฏิบัติงานของโรงเรียน
๗. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
4. งานนโยบายและแผน
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
1) การจัดทำแผนกลยุทธ์หรือแผนพัฒนาการศึกษา
1. วิเคราะห์ทิศทางและยุทธศาสตร์ของหน่วยงานเหนือสถานศึกษา ยุทธศาสตร์ระดับชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการ แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน แผนพัฒนาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
2. ทบทวนการดำเนินงานของสถานศึกษาและศึกษารายงานข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
3. วิเคราะห์สภาพแวดล้อมของสถานศึกษาที่มีผลกระทบต่อการจัดการศึกษา (SWOT Analysis) และประเมินสภานภาพของสถานศึกษา
4. กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ของสถานศึกษา
5. กำหนดกลยุทธ์ของสถานศึกษา
6. กำหนดผลผลิต ผลลัพธ์ และตัวชี้วัดความสำเร็จโดยจัดทำเป็นข้อมูลสารสนเทศ
7. กำหนดเป้าหมายระยะปานกลางของผลผลิตในเชิงปริมาณ คุณภาพ และผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับผลปฏิบัติงานของสถานศึกษา
8. จัดทำรายละเอียดโครงสร้าง แผนงาน งาน/โครงการ และกิจกรรมหลัก
9. จัดให้รับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงและนำเสนอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษา
10. เผยแพร่ประกาศต่อสาธารณชนและผู้เกี่ยวข้อง
2) การจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีของสถานศึกษา
1. ศึกษารายละเอียด เกณฑ์ วัตถุประสงค์ของงบประมาณที่ได้รับแจ้งการจัดสรร จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลปัจจุบันของสถานศึกษาประกอบการพิจารณาจัดสรร งบประมาณ และรายงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรณีที่งบประมาณมีความคลาดเคลื่อน
2. จัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานในสถานศึกษาโดยวิเคราะห์ภารกิจหลัก /ภารกิจเสริมการจัดการเรียนการสอน จัดลำดับแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมตามกรอบวงเงินที่ได้รับ
3. จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี/ประจำปีงบประมาณ ให้มีความเชื่อมโยงกับผลผลิตและผลลัพธ์ ตามตัวชี้วัดของสถานศึกษา โดยวิเคราะห์สาระสำคัญของกรอบทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน วัตถุประสงค์นโยบาย แผนปฏิบัติการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและความต้องการของสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. จัดทำแผนบริหารงบประมาณประจำปีหรือแผนการใช้จ่ายเงิน ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการประจำปี โดยแสดงงบประมาณทั้งหมดที่เป็นเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ แยกประเภทงบประมาณเป็นงบบุคลากร งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน งบเงินลงทุน และเงินนอกงบประมาณ
5. ขอความเห็นชอบแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
6. แจ้งจัดสรรวงเงินงบประมาณให้กลุ่มงานภายในสถานศึกษารับไปดำเนินการตามแผนปฏิบัติการประจำปี
3) การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณสถานศึกษา
1. วิเคราะห์สภาพแวดล้อมของสถานศึกษา (SWOT Analysis) โดยเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา กลยุทธ์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กลยุทธ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกลยุทธ์ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. จัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อจัดสรรงบประมาณประจำปีที่ได้รับให้กับหน่วยงานภายในสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. จัดทำข้อมูลสารสนเทศทางการเงินของสถานศึกษา ได้แก่ แผนการจัดชั้นเรียน ข้อมูลครูและบุคลากร ข้อมูลผู้เรียน ทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกของสถานศึกษา เพื่อใช้กำหนดเป้าหมาย ผลผลิต เป้าหมายกิจกรรมหลักและการสนับสนุน
4. ทบทวนประสิทธิภาพการใช้จ่ายตามแผนปฏิบัติการในปีที่ผ่านมา เพื่อจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายปีที่ขอตั้งงบประมาณและค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ๓ ปี ของงบบุคลากร งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน งบลงทุน และงบรายจ่ายอื่นที่สอดคล้องกับประเด็นกลยุทธ์ตามแผนพัฒนา
5. วิเคราะห์ผลการประกันคุณภาพภายใน ผลการประเมินคุณภาพภายนอกกลยุทธ์ของสถานศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อตรวจสอบทบทวนภารกิจ และจัดทำกรอบงบประมาณรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง(MTEF) เป็นรายละเอียดของแผนงบประมาณ
6. จัดทำคำขอรับงบประมาณของสถานศึกษา
7. ขอความเห็นชอบแผนงบประมาณต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นคำขอตั้งงบประมาณต่อเขตพื้นที่การศึกษา
4) การอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับจัดสรร
ผู้อำนวยการสถานศึกษาอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณตามงาน/โครงการที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
5) การขอโอนและขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณ
ตราจสอบรายละเอียดรายการงบประมาณที่จำเป็นต้องขอโอนและเปลี่ยนแปลงเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
6) การรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ
รายงานผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีและผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
7) การตรวจสอบ ติดตาม และรายงานการใช้งบประมาณ/
1. จัดทำแผนการติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณของสถานศึกษาให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการและแผนบริหารงบประมาณ
2. จัดระบบการตรวจสอบและติดตามให้กลุ่ม ฝ่าย งาน ในสถานศึกษา รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อสถานศึกษาจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงาน และผลการใช้จ่ายงบประมาณต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกไตรมาส ภายในระยะเวลาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด ดำเนินการรายงานในระบบรายงานผลการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปี (e-budget)
3. จัดทำรายงานประจำปีที่แสดงถึงความสำเร็จในการปฏิบัติงานทุกสิ้นปีงบประมาณ
8) การตรวจสอบติดตามและรายงานการใช้ผลผลิตจากงบประมาณ
1. ประเมินคุณภาพการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย
2. วางแผนประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการดำเนินงานของสถานศึกษา
3. วิเคราะห์และประเมินความมีประสิทธิภาพ ประหยัดและคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากรของหน่วยงานในสถานศึกษา
4. จัดทำเครื่องมือประเมินผลการใช้เงินและผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดความสำเร็จ
ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงผลการปฏิบัติงานของสถานศึกษา
9) การจัดระบบการควบคุมภายในหน่วยงาน
1. วิเคราะห์กำหนดมาตรการในการป้องกันความเสี่ยงในการดำเนินงานของสถานศึกษา
2. วางแผนการจัดระบบการควบคุมภายในสถานศึกษา
3. ดำเนินการควบคุมตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกำหนด
4. ติดตามและประเมินผลการควบคุมภายในและรายงานให้เขตพื้นที่การศึกษาทราบ
5. งานการเงินและบัญชี
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
1) การเบิกเงินจากคลัง
1. จัดทำและตรวจสอบเอกสารหลักฐานการขอเบิกเงินให้ถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
2) การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการจ่ายเงิน
1. ดำเนินการเกี่ยวกับการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการจ่ายเงิน ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด คือ ระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๕๑
3) การนำเงินส่งคลัง
1. การนำเงินส่งคลัง ให้นำส่งภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลังของส่วนราชการ พ.ศ.๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
2. ขั้นตอนและวิธีการนำเงินส่งคลังให้เป็นไปตามที่ระบบ GFMIS กำหนด
4) การจัดทำบัญชีการเงิน
1. จัดทำบัญชีการเงินให้บันทึกบัญชีและทะเบียนที่เกี่ยวข้องตามระบบบัญชีเกณฑ์คงค้าง และระบบ GFMIS ที่กระทรวงการคลังกำหนด
2. จัดทำรายงานทางการเงินและงบการเงินเป็นไปตามระบบบัญชีเกณฑ์คงค้างและระบบ GFMIS ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
5) การจัดทำรายงานทางการเงินและงบการเงิน
1. จัดทำรายงานการรับจ่ายเงินรายได้สถานศึกษา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด คือ ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยหลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
2. จัดทำและจัดหาแบบพิมพ์บัญชี ทะเบียน และแบบรายงาน โดยให้จัดทำตามระบบบัญชีเกณฑ์คงค้าง และระบบ GFMIS ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
6) การจัดทำบัญชีการเงิน
1. ตั้งยอดบัญชีระหว่างปีงบประมาณ ทั้งการตั้งยอดภายหลังการปิด บัญชีงบประมาณปีก่อนและการตั้งยอดก่อนเปิดบัญชีงบประมาณปีงบประมาณ
2. ปรับปรุงบัญชีเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ บัญชีทุนการศึกษา และบัญชีเงินบริจาค บัญชีรับฝากเงินประกันสัญญา ตั้งยอดบัญชีสินทรัพย์ที่เป็นบัญชีวัสดุ และบัญชีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน พร้อมทั้งจัดทำใบสำคัญการลงบัญชีทั่วไป
3. บันทึกบัญชีคงค้าง (พึงรับพึงจ่าย : Accrual Basis) โดยบันทึกรายการด้านเดบิต ในบัญชีแยกประเภท และบันทึกรายการด้านเครดิตในบัญชีแยกประเภท
4. บันทึกบัญชีประจำวัน ให้ครอบคลุมการรับเงินงบประมาณ การรับรายได้ จากการขายสินค้าหรือการให้บริการ การจ่ายเงินงบประมาณ การจ่ายเงินงบประมาณให้ยืม เงินนอก-งบประมาณให้ยืม การซื้อวัสดุ เงินทดรองจ่าย เงินมัดจำและค่าปรับ การรับเงินบริจาค การรับเงินรายได้แผ่นดิน การถอนเงินรายได้แผ่นดิน การเบิกเงินงบประมาณแทนกัน
5. สรุปรายการบันทึกบัญชีทุกวันทำการ สรุปการรายรับหรือจ่ายผ่านไปยังบัญชี แยกประเภทเงินสด เงินฝากธนาคาร และเงินฝากคลัง
6. ปรับปรุงบัญชีเมื่อสิ้นปีงบประมาณ โดยปรับรายการบัญชีรายได้จากงบประมาณ
7. ค้างรับ ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย/รับที่ได้รับล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า/รายได้ค้างรับ วัสดุที่ใช้ไประหว่างงวดบัญชี ค่าเสื่อมราคา/ค่าตัดจำหน่าย
8. ปิดบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายเพื่อบันทึกบัญชีรายได้สูงกว่า/ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีและปิดรายการได้สูงกว่า/ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายงวดบัญชี เข้าบัญชีรายได้สูงกว่า/ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายสะสม และให้โอนบัญชีรายได้แผ่นดินนำส่งคลัง เข้าบัญชีรายได้แผ่นดิน หากมียอดคงเหลือให้โอนเข้าบัญชีรายได้แผ่นดินรอนำส่งคลัง
9. ตรวจสอบความถูกต้องของตัวเงินสดและเงินฝากธนาคารตามรายงานคงเหลือประจำวันและงบพิสูจน์ยอดฝากธนาคาร และตรวจสอบความถูกต้องบัญชีทุกประเภท
10. แก้ไขข้อผิดพลาดจากการบันทึกบัญชี โดยการขีดฆ่าข้อความหรือตัวเลขผิด ลงลายมือชื่อ ย่อ กำกับพร้อม วัน เดือน ปี แล้วเขียนข้อความหรือตัวเลขที่ถูกต้อง
11. จัดทำและจัดหาแบบพิมพ์ใช้เอง เว้นแต่เป็นแบบพิมพ์กลางที่เขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงานต้นสังกัดหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำขึ้นเพื่อจำหน่ายจ่ายแจก
7) การจัดทำและจัดหาแบบพิมพ์บัญชี ทะเบียน และรายงาน
1. จัดทำรายงานประจำเดือนส่งหน่วยงานต้นสังกัด สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และกรมบัญชีกลาง ภายในวันที่ ๑๕ ของเดือนถัดไป โดยจัดทำรายงานรายได้แผ่นดิน รายงานรายได้และค่าใช้จ่าย รายงานเงินประจำงวด
2. จัดทำรายงานประจำปี โดยจัดทำงบแสดงฐานะการเงิน จัดทำงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน งบกระแสเงินสดจัดทำโดยวิธีตรง จัดทำหมายเหตุประกอบงบการเงิน เสนอรายงานต่อผู้บังคับบัญชา และการจัดส่งรายงานประจำปีให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานผ่านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
6. งานพัสดุและสินทรัพย์
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑) การวางแผนพัสดุ
1. รวบรวมกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ แนวปฏิบัติ นโยบาย กลยุทธ์ หลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานพัสดุ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเผยแพร่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบและถือปฏิบัติ
2. วางแผนพัสดุล่วงหน้า ๓ ปี ให้ดำเนินการตามกระบวนการของการวางแผนงบประมาณ
3. การจัดทำแผนการจัดหาพัสดุ ให้ฝ่ายทำหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างเป็นผู้ดำเนินการโดยให้ฝ่ายที่ต้องการใช้พัสดุจัดทำรายละเอียดพัสดุที่ต้องการ คือรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณ ราคา คุณลักษณะเฉพาะ หรือแบบรูปรายการและระยะเวลาที่ต้องการใช้พัสดุ (ทั้งนี้รายละเอียดพัสดุที่ต้องการต้องเป็นไปตามแผนปฏิบัติงานประจำปี (แผนปฏิบัติงาน) และตามที่ระบุไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ส่งให้ฝ่ายที่ทำหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างเพื่อจัดทำแผนการจัดหาพัสดุ)
๒) การกำหนดรูปแบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์ หรือสิ่งก่อสร้างที่ใช้เงินงบประมาณเพื่อเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
1. กำหนดรูปแบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะ เพื่อประกอบการขอตั้งงบประมาณส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. กรณีที่เป็นการจัดหาจากเงินนอกงบประมาณให้กำหนดรูปแบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะได้โดยให้พิจารณาจากแบบมาตรฐานก่อน หากไม่เหมาะสมก็ให้กำหนดตามความต้องการโดยยึดหลักความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นประโยชน์กับทางราชการ
๓) การพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการจัดทำและจัดหาพัสดุ
1. พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการจัดทำและจัดหาพัสดุ การจัดทำบัญชีผู้ขายหรือผู้รับจ้าง เพื่อสำหรับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการประเมินผลผู้ขาย และผู้จ้าง
4) การจัดหาพัสดุ
1. จัดหาพัสดุโดยถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุของส่วนราชการและคำสั่งมอบอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2. จัดทำพัสดุถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการให้สถานศึกษา รับจัดทำ รับบริการ รับจ้าง ผลิตเพื่อจำหน่าย พ.ศ.๒๕๓๓
3. การจัดหาพัสดุด้วยเงินงบประมาณต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยกำหนดให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานหรือองค์กรอื่นมีส่วนร่วมในการจัดหา โดยประเภทของพัสดุที่จัดหาต้องเป็นไปตามหลักจำแนกประเภทรายจ่ายงบประมาณและคำสั่งมอบอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4. การจัดหาพัสดุด้วยเงินนอกงบประมาณ จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานว่าด้วยการบริหารจัดการเกี่ยวกับเงินรายได้ สถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคลในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ.๒๕๔๙ และประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยหลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคลในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา
5) การควบคุมดูแล บำรุงรักษา และจำหน่ายพัสดุ
1. จัดทำทะเบียนคุมบัญชีทรัพย์สินและบัญชีวัสดุ ไม่ว่าจะได้มาด้วยการจัดหาหรือการรับบริจาค
2. จัดทำระบบฐานข้อมูลทรัพย์สินของสถานศึกษา โดยใช้โปรแกรมระบบทะเบียนคุมทรัพย์สิน โปรแกรมระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารการศึกษา(EMIS) และโปรแกรมระบบจัดเก็บข้อมูลสิ่งก่อสร้าง (B-OBEC) หรือโปรแกรมอื่นที่กำหนด
3. ควบคุมพัสดุให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
4. ตรวจสอบพัสดุประจำปี และให้มีการจำหน่ายพัสดุที่ชำรุดเสื่อมสภาพหรือไม่ใช้ในราชการอีกต่อไป
5. ขึ้นทะเบียนพัสดุที่เป็นที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างกรณีที่ได้มาด้วยเงินงบประมาณเป็นที่ราชพัสดุ กรณีที่ได้มาจากการรับบริจาคหรือจากเงินรายได้สถานศึกษาให้ขึ้นทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของสถานศึกษา
6. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
7. งานจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิน
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
1. จัดทำแนวปฏิบัติหรือระเบียบของสถานศึกษาในการดำเนินการหารายได้ โดยไม่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
2. จัดหาผลประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ และอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในครอบครองของสถานศึกษาภายในวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา และต้องไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบาย วัตถุประสงค์ และภารกิจของสถานศึกษา เงินรายได้ที่เกิดขั้นถือเป็นเงินนอกงบประมาณประเภทเงินรายได้สถานศึกษา
3. เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของสถานศึกษา
4. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
8. งานระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
1. ประสานและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแหล่งทรัพยากรที่สนับสนุนการจัดการศึกษาทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในท้องถิ่นให้เป็นระบบ
2. ศึกษาแนวทางหรือระเบียบที่จะขอรับการสนับสนุนจากแหล่งทรัพยากรทุกประเภทตลอดจนเงื่อนไขการขอับการสนับสนุน
3. วางแผน รณรงค์ ส่งเสริมการระดมทุนการศึกษา และทุนเพื่อการพัฒนาสถานศึกษา
4. จัดทำข้อมูลสารสนเทศและระบบการรับจ่ายทุนการศึกษา และทุนเพื่อการพัฒนาการศึกษาให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล คุ้มค่า และมีความโปร่งใส
5. การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยให้เป็นไปตามความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
6. ให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น ระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาโดยเป็นผู้จัดและมีส่วนร่วมในการจัดการ บริจาคทรัพย์สินหรือทรัพยากรให้แก่สถานศึกษาและมีส่วนร่วมกับภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาตามความเหมาะสมและความจำเป็น
7. จัดทำแผนงาน/โครงการ ระดมทรัพยากร เพื่อเสนอความเห็นชอบจากฝ่ายบริหารและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
8. จัดทำแผนการบริหารและจัดการทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยความเห็นชอบของฝ่ายบริหารและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
9. ประเมินผลการดำเนินงาน/โครงการ การบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการศึกษา พร้อมทั้งสรุปรายงานให้แก่ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบ
10. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
9. งานกองทุนเพื่อการศึกษา
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑. จัดทำแบบฟอร์มเอกสารและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติงานกองทุนเพื่อการศึกษา
๒. สำรวจความต้องการของนักเรียนและงานร่วมรูปแบบองค์คณะคัดเลือกผู้เสนอกู้ยืมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
๓. ประสานการกู้ยืมเพื่อการศึกษากับหน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
๔. สร้างความตระหนักแก่ผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา
๕. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อการศึกษา
๖. รายงานผลปฏิบัติงานและหรือรายงานผลการวิจัยงานกองทุนเพื่อการศึกษา ตามบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย ก่อนการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโรงเรียน เพื่อใช้ประกอบการประเมินฯ และรายงานให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
๗. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
10. งานบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการศึกษา
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
1. จัดทะเบียนรายการทรัพยากรเพื่อเป็นสารสนเทศ ได้แก่ อาคาร สถานที่ วัสดุถาวร ครุภัณฑ์ทางการศึกษา ทรัพย์สินราชการ ตลอดจนทะเบียนที่ราชพัสดุ แหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้ในทั้งถิ่นทั้งที่เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติและภูมิปัญญา แหล่งเรียนรู้ที่เป็นสถานประกอบการ เพื่อการรับรู้ของบุคลากรในสถานศึกษา ผู้เรียน และบุคลากรทั่วไปจะได้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันในการจัดการศึกษา
2. วางระบบหรือกำหนดแนวปฏิบัติการใช้ทรัพยากรร่วมกันกับบุคคลและหน่วยงานรัฐบาลและเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. กระตุ้นให้บุคคลในสถานศึกษาร่วมใช้ทรัพยากรภายในและภายนอก รวมทั้งให้บริการการใช้ทรัพยากรภายในเพื่อประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และส่งเสริมการศึกษาในชุมชน
4. ปฏิบัติงานประสานความร่วมมือกับผู้รับผิดชอบแหล่งทรัพยากรภายในและภายนอกทั้งทรัพยากรและธรรมชาติ ทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้น ทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพให้การสนับสนุนการจัดการศึกษา
5. เชิดชูเกียรติบุคคลและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สนับสนุนการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อการศึกษาของสถานศึกษา
6. งานอื่น ๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
11. งานสวัสดิการ
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑. ศึกษาระเบียบเกี่ยวกับแนวทางการงานสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล/ค่าการศึกษาบุตร/ค่าเช่าบ้านและอื่น ๆ
๒. จัดทำแบบฟอร์มสำหรับงานสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล/ค่าการศึกษาบุตร/ค่าเช่าบ้านและอื่น ๆ
๓. ดำเนินการเบิกจ่ายและตรวจสอบการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมาย
๔. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
12. งานสหกรณ์ร้านค้าโรงเรียน
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑. ดำเนินงานกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้าโรงเรียนตามนโยบายของสถานศึกษา
๒. จัดทำระเบียบและข้อบังคับกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้าโรงเรียน
๓. ควบคุมดูแลการดำเนินงานของกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้าให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ
๔. สรุปผลการดำเนินงานให้ผู้อำนวยการทราบ
๕. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
13. งานร้านอาหารเช้า
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑. ดำเนินงานร้านอาหารเช้าตามนโยบายของสถานศึกษา
๒. ควบคุมดูแลการดำเนินงานของร้านอาหารเช้าให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ
๓. สรุปผลการดำเนินงานให้ผู้อำนวยการทราบ
๔. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
14. งานโครงการเสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษา (ITA)
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ
๑. ประชุมวางแผนกำหนดนโยบายส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใส่ในการเนินงานของสถานศึกษา
๒. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการโครงการเสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษา (ITA)
๓. กำหนดมาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษา
๔. ดำเนินกิจกรรมการประกาศเจตจำนงการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
๕. สร้างสื่อประชาสัมพันธ์กระตุ้นครูและบุคลากรร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านทุจริต
๖. ดำเนินการประเมินโครงการเสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใส่ในการดำเนินงานของสถานศึกษา (ITA)
๗. สรุปผลการดำเนินงานให้ผู้อำนวยการทราบ
๘. งานอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย