บริจาคร่างกาย 

คณะแพทศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

บริจาคร่างกายเป็น "อาจารย์ใหญ่"

ความตั้งใจที่จะมอบร่างกายเพื่อเป็นวิทยาทานหลังลมหายใจสุดท้ายเพื่อประโยชน์ต่อวงการแพทย์และได้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป

คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ทางการแพทย์ ทำให้นักศึกษาแพทย์และบุคลาการทางการแพทย์ได้มีโอกาสศึกษาร่างกายของมนุษย์ และมีประสบการณ์เชิงปฏิบัติในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและปลอดภัยก่อนให้การรักษาคนไข้จริงต่อไป

กรณีบริจาคด้วยตนเอง

กรณีผู้บริจาคร่างกายถึงแก่กรรมแล้ว และทายาทต้องการมอบร่างกายให้

ระเบียบการบริจาคร่างกาย

1. ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปี บริบูรณ์ และอายุไม่เกิน 80 ปี (นับถึงวันที่ทำพินัยกรรมบริจาคร่างกาย) หรือกรณีที่อายุน้อยกว่า 20 ปี บริบูรณ์ ต้องได้รับการยินยอมเป็น   ลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรม

2. ต้องไม่เป็นผู้พิการทางร่างกาย จนไม่เหมาะสมแก่การศึกษา เช่น ขา แขนขาด หรือพิการแต่กำเนิดทำให้ร่างกายผิดรูป

3. ต้องไม่เป็นโรคติดต่อ ได้แก่ โรคเอดส์ วัณโรค โรคเรื้อน โรคซิฟิลิส โรคไวรัสตับอักเสบบีหรือซี โรคติดต่อทางกระแสเลือด โรคโควิด-19 และโรคติดต่อร้ายแรงอื่น ๆ

ขั้นตอนการบริจาคร่างกาย

กรณีที่ 1 ติดต่อบริจาคร่างกายที่หน่วยงาน โดยตรง

1. เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง (กรณีที่อายุน้อยกว่า 20 ปี บริบูรณ์ ต้องมีสำเนาทะเบียนบ้านประกอบ พร้อมทั้งต้องได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร จากผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรม)

2. กรอกแบบฟอร์มบริจาคร่างกาย พร้อมมีพยานลงนาม

3. แนบรูปถ่ายขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว หรือขนาดใกล้เคียง หน้าตรง ไม่สวมหมวก จำนวน 1 รูป (เขียนชื่อ-สกุล ไว้ด้านหลังรูป)

กรณีที่ 2 ติดต่อบริจาคร่างกายผ่านการส่งเอกสารทางไปรษณีย์

1. สำเนาบัตรประชาชนตัวจริง (กรณีที่อายุน้อยกว่า 20 ปี บริบูรณ์ ต้องมีสำเนาทะเบียนบ้านประกอบ พร้อมทั้งต้องได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร

    จากผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรม)

2. ขอแบบฟอร์มหนังสือบริจาคร่างกาย โดยสามารถติดต่อได้ที่ Official Line ID: @361dgcvt (ศูนย์รับบริจาคร่างกาย วชิรพยาบาล) หรือโทร 02-2443000   ต่อ 5831 (ธุรการ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน) เพื่อนำไปกรอกรายละเอียดและวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคร่างกาย

3. กรอกแบบฟอร์มบริจาคร่างกาย พร้อมมีพยานลงนาม

4. แนบรูปถ่ายขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว หรือขนาดใกล้เคียง หน้าตรง ไม่สวมหมวก จำนวน 1 รูป (เขียนชื่อ-สกุล ไว้ด้านหลังรูป)

5. ส่งหลักฐานดังกล่าวทางไปรษณีย์ โดยจ่าหน้าซองพร้อมติดแสตมป์ มาที่

กรณีที่ 3 ติดต่อบริจาคร่างกายผ่านช่องทางออนไลน์

1. ติดต่อได้ที่ Official Line ID: @361dgcvt (ศูนย์รับบริจาคร่างกาย วชิรพยาบาล) เพื่อขอแบบฟอร์มหนังสือบริจาคร่างกาย เพื่อนำไปกรอกรายละเอียด

    และวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคร่างกาย

2. กรอกแบบฟอร์มบริจาคร่างกาย พร้อมมีพยานลงนาม

3. เตรียมไฟล์รูปถ่ายขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว หรือขนาดใกล้เคียง หน้าตรง ไม่สวมหมวก จำนวน 1 รูป

4. เตรียมไฟล์สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องอย่างใดอย่างหนึ่งของผู้บริจาคร่างกาย

5. แนบส่งไฟล์หลักฐานดังกล่าวได้ที่ Official Line ID: @361dgcvt

การปฏิบัติสำหรับญาติ เมื่อผู้บริจาคร่างกายถึงแก่กรรม

เมื่อผู้บริจาคร่างกายเสียชีวิตลง ให้ทายาทหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ปฏิบัติดังนี้

1. ติดต่อขอทราบรายละเอียดในการดำเนินการจาก เจ้าหน้าที่รับร่างฯ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน ภายใน 3 ชั่วโมง หลังเสียชีวิต โดยสามารถติดต่อได้ที่     Official Line ID: @361dgcvt(ศูนย์รับบริจาคร่างกาย วชิรพยาบาล) (สามารถกดโทรออกแบบออนไลน์ได้) หรือโทร 081-5098829(เจ้าหน้าที่รับร่างฯ) ทุกวัน

    เวลา 08.00-20.00 น. หรือโทร 02-2443000 ต่อ 5831 (ธุรการ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน) ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-16.00 น.หากไม่สามารถ

    ติดต่อได้หรือเสียชีวิตนอกเวลาดังกล่าว กรุณาติดต่ออีกครั้งในเวลา 08.00 น. ของวันถัดไป

2. ห้ามฉีดน้ำยารักษาสภาพศพก่อนที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่รับร่างฯ ซึ่งจะเป็นผู้แนะนำวิธีรักษาสภาพศพ และหากญาติต้องการทำพิธีบำเพ็ญกุศล ญาติสามารถตัดเส้นผม    และ เล็บเก็บไว้เพื่อเป็นตัวแทนของผู้บริจาคร่างกายในการทำพิธีได้

3. ให้นำศพเข้าแช่ในโลงเย็น, ห้องเย็นเก็บศพ ฯลฯ หรือมีข้อจำกัดในการใช้โลงเย็น สามารถใช้ถุงบรรจุน้ำแข็งวางให้ทั่วบริเวณร่างของผู้บริจาคร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณ

     อกและท้อง จากนั้นคลุมด้วยผ้าห่มบาง ๆ

4. กรณีเสียชีวิตที่สถานพยาบาลให้ญาติดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่สถานพยาบาล เพื่อออกหนังสือรับรองการตาย กรณีเสียชีวิตที่ที่พักอาศัย ให้ญาติดำเนินการแจ้ง

     นายทะเบียนท้องที่ เพื่อออกใบมรณะบัตร *** การระบุข้อความในใบมรณะบัตร ***

6. นำสำเนาใบมรณะบัตร 1 ฉบับ มอบให้แก่เจ้าหน้าที่รับร่างฯ เพื่อเป็นหลักฐานในการเคลื่อนย้ายศพออกจากพื้นที่ (ในกรณีตรงกับวันหยุดราชการ ไม่สามารถออก

ใบมรณะบัตรได้ ให้ใช้สำเนาใบรับรองการตายแทน และให้ส่งสำเนาใบมรณะบัตรให้แก่เจ้าหน้าที่รับร่างฯ ในวันเปิดทำการ)

7. การดำเนินการรับร่างของผู้บริจาคร่างกาย ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับศพ ดังต่อไปนี้

1. ศพที่เสียชีวิตด้วยโรคตามระเบียบปฏิบัติสำหรับผู้บริจาคร่างกาย ข้อ 3

2. ศพที่เสียชีวิตนานเกิน 6 ชั่วโมง (นับถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่รับร่างฯ เดินทางไปรับร่าง) ยกเว้น กรณีที่ได้ฝากศพไว้ในห้องเย็นของโรงพยาบาล หรือแช่ในโลงเย็น

3. ศพที่สภาพไม่เหมาะสมแก่การนำมาศึกษา เช่น ศพเน่าเปื่อย อวัยวะขาดหาย สูงอายุมากเกินไปอ้วนหรือผอมมากเกินไป ผ่านการผ่าตัดใหญ่ ฯลฯ ทั้งนี้ รายละเอียดอื่น ๆ 

    ให้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รับร่างฯ

4. ศพที่เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ เช่น มีคดีหรือเกี่ยวข้องกับคดีหรือที่ต้องผ่าพิสูจน์ หรืออุบัติเหตุ

5. ศพที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในช่องอกและช่องท้องในระยะลุกลาม

6. ศพของผู้บริจาคร่างกายที่เสียชีวิตนอกระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร จากคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ยกเว้น ญาติ 

    (หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย) จะดำเนินการนำส่งเอง

7. เหตุสุดวิสัยอื่น ๆ เช่น สถานที่เก็บศพเต็ม ไม่มีรถรับส่งศพ ฯลฯ ทั้งนี้ รายละเอียดอื่น ๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รับร่างฯ

*** คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ขออภัยล่วงหน้าสำหรับศพที่ไม่สามารถรับได้ตามกรณีดังกล่าวข้างต้น ***

การบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่แบบถาวร

1. อาจารย์ใหญ่แบบถาวร คือ การบริจาคร่างกายเพื่อทําโครงกระดูก การเก็บชิ้นส่วนอวัยวะร่างกายแยกส่วน โดยรักษาสภาพอวัยวะด้วยวิธีกําซาบด้วยสารพลาสติก     (plastination) หรือเทคนิคการรักษาสภาพพิเศษอื่น ๆ จะทําให้สามารถคงสภาพ ได้นาน 5 – 10 ปี หรือระยะเวลามากกว่านั้นขึ้นกับสภาพความสมบูรณ์

2. เมื่อผู้ประสงค์บริจาคร่างกายเป็น “อาจารย์ใหญ่แบบถาวร” เสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่รับร่างฯ จะประเมินสภาพร่างกายว่าเหมาะสมที่จะทําเป็น “อาจารย์ใหญ่แบบถาวร”

    หรือไม่ ทั้งนี้ หากสภาพร่างกายไม่เหมาะสม หรือจํานวนร่างอาจารย์ใหญ่แบบถาวร มีจํานวนเพียงพอต่อการศึกษาแล้ว คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลจะดําเนินการ

     รักษาสภาพร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ด้วยวิธีปกติ

3. คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล จะจัดให้มีการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ)แก่ “อาจารย์ใหญ่แบบถาวร” หากพิจารณาเห็นว่ามีความเสื่อมสภาพ

     ไปตามกาลเวลา

รายละเอียดเพิ่มเติม

1. เมื่อทายาทของผู้บริจาคร่างกายมอบร่างของผู้บริจาคร่างกายให้แก่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลแล้ว จะถือว่าร่างของผู้บริจาคร่างกายนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของ

     คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

2. หากผู้บริจาคร่างกายประสงค์จะยกเลิกพินัยกรรมการบริจาคร่างกาย สามารถทำได้โดยแจ้งให้ธุรการหรือเจ้าหน้าที่รับร่างฯ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน 

     คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ทราบความประสงค์ในการยกเลิกเจตนา

3. เจ้าหน้าที่รับร่างฯ จะดำเนินการฉีดน้ำยารักษาสภาพศพต่อเมื่อมีใบมรณะบัตรแล้วเท่านั้น ทั้งนี้การส่งมอบร่างกายต้องยื่นเอกสารสำเนาใบมรณะบัตรของผู้บริจาค

    ร่างกาย พร้อมทั้งสำเนาบัตรประชาชนของทายาทผู้ส่งมอบร่างกายให้แก่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลด้วย

4. เมื่อเจ้าหน้าที่รับร่างฯ ได้ดำเนินการฉีดน้ำยารักษาสภาพศพแล้ว ไม่อนุญาตให้เปิดเผยร่างกายของผู้บริจาคร่างกายต่อทายาทรวมทั้งบุคคลอื่นทุกกรณี เพื่อคงสภาพ

     ร่างกายและป้องกันการสัมผัสสารเคมีอันตราย

5. คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล จะจัดให้มีคณะกรรมการดำเนินการจัดงานพิธีทำบุญอาจารย์ใหญ่ในทุกปีการศึกษา

6. คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล จะจัดให้มีคณะกรรมการดำเนินการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) เมื่อดำเนินการศึกษาและวิจัยในร่างกายของ

     ผู้บริจาคร่างกาย แล้วเสร็จ

7. ทายาทที่ต้องการนำร่างกลับไปประกอบพิธีฌาปณกิจด้วยตนเอง สามารถดำเนินการได้ภายใต้ข้อแนะนำและแนวทางปฏิบัติของคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

     อย่างเคร่งครัด

ข้อแนะนำและแนวทางปฏิบัติสำหรับการนำร่างไปประกอบพิธีฌาปณกิจด้วยตนเอง

ข้อแนะนำและแนวทางปฏิบัติสำหรับการนำร่างไปประกอบพิธีฌาปณกิจด้วยตนเอง

1. ทายาทต้องดำเนินการลงนามยินยอมรับร่างไปประกอบพิธีฌาปณกิจ โดยไม่มีการเรียกร้องค่าดำเนินการใด ๆ จากคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

2. ทายาทไม่สามารถเปิดร่างดูได้ เนื่องจากร่างได้ผ่านการเรียนการสอนแล้ว อาจมีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพื่อเป็นการรักษาเกียรติของผู้บริจาคร่างกาย 

และป้องกันการเผยแพร่ภาพสู่สาธารณะ

3. คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล จะเป็นผู้ดำเนินการบรรจุร่างของผู้บริจาคร่างกายลงโลง และดำเนินการส่งร่างให้ทายาท โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่

สาขาวิชากายวิภาคศาสตร์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน

คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

โทร. 02-244-3000 ต่อ 5831 , 081-509-8829

Official Line ID : @361dgcvt