ผลการเรียนรู้
1. สามารถเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งภาษาคอมพิวเตอร์ได้
ผลการเรียนรู้
1. สามารถเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งภาษาคอมพิวเตอร์ได้
แอปพลิเคชัน (Application) หมายถึง ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งระบบคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลระดับสูง ระบบคอมพิวเตอร์ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล สมาร์ตโฟน สมาร์ตวอต์ช เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์นั้นทำงานตามคำสั่งตามที่ผู้ใช้ต้องการ โดยแอปพลิเคชันจะมีส่วนที่เรียกว่าส่วนติดต่อผู้ใช้ (User Interface) เพื่อทำให้ผู้ใช้งานเกิดความสะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชันนั้น ๆ
แอปพลิเคชัน
แอปพลิเคชันบนระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
(Desktop Application)
เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
ส่วนบุคคลหรืออาจจะเรียกว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็ได้ เช่น โปรแกรมแปลงสกุลเงินโปรแกรมผันเสียงวรรณยุกต์โปรแกรมจัดการเอกสาร โปรแกรมนำเสนอ เป็นต้น
แอปพลิเคชันสำหรับระบบ
สมองกลฝังตัว
(Microcontroller Application)
เป็นแอปพลิเคชัน ที่ถูกพัฒนาเพื่อทำงานเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งบนอุปกรณ์สมองกลฝังตัว เช่น ระบบรดนํ้าต้นไม้อัตโนมัติ ระบบตรวจจับแก๊สรั่วภายในบ้านระบบเตือนภัยต่างๆ
แอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Application)
เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงาน
บนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตเพื่ออำนวยความสะดวกหรือใช้งาน
ในด้านต่าง ๆ ตามที่ต้องการ
เว็บแอปพลิเคชัน
(Web Application)
เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ต้องแจกจ่ายหรือติดตั้งซอฟต์แวร์
ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
การพัฒนาแอปพลิเคชันควรจะต้องมีการวางแผนและออกแบบโปรแกรมไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การพัฒนาแอปพลิเคชันนั้นมีความสมบูรณ์และสามารถทำ งานได้ตามที่ต้องการ ซึ่งผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน สามารถใช้หลักการออกแบบโปรแกรมเรียกว่าวัฏจักรการพัฒนาระบบงาน (System Development Life Cycle: SDLC) ซึ่งมีกระบวนการทำงาน
เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ปัญหาไปจนถึงการนำ โปรแกรมไปใช้งาน และปรับปรุงพัฒนาระบบให้ดีขึ้นมีขั้นตอนของวัฏจักรการพัฒนาระบบงานดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ปัญหา (Problem Analysis)
เป็นขั้นตอนในการวิเคราะห์สภาพสถานการณ์ปัจจุบันและมองหาวิธีการหรือระบบที่จะนำมาช่วยในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น องค์กรพบปัญหาด้านการคำนวณและประมวลผล ยอดขาย จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านบัญชีและการขายสินค้า หรือโรงเรียนมีปัญหา ด้านการตรวจสอบรายชื่อการเข้าเรียนจึงต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับตรวจสอบรายชื่อการเข้าเรียน
ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบโปรแกรม (Program Design)
ขั้นตอนที่ผู้พัฒนาพูดคุยหาข้อสรุปและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการที่แท้จริง เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาออกแบบโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันให้มีความสามารถตามที่ต้องการ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันตรวจสอบรายชื่อการเข้าเรียน ต้องมีการพูดคุยกันระหว่างครูผู้ใช้งานกับผู้พัฒนาเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและได้ข้อมูลที่สำคัญ ไปใช้ในการออกแบบโปรแกรม
ขั้นตอนที่ 3 การเขียนโปรแกรม (Program Coding)
เป็นขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันโดยการนำ โปรแกรมที่ได้ออกแบบไว้แล้วมาเขียนเป็นรหัสต้นฉบับ ผู้พัฒนาควรเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมและพัฒนาโปรแกรมให้มีคุณสมบัติตามที่ได้กำหนดไว้สามารถทำงานได้ตามรูปแบบและบริบทที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันตรวจสอบรายชื่อการเข้าเรียน ควรอยู่ในรูปแบบของ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนที่สามารถทำงานได้บนระบบปฏิบัติการที่หลากหลายทั้ง iOS และ Android หรืออื่น ๆ
ขั้นตอนที่ 4 การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม
(Program Testing & Verification)
เมื่อเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันให้มีการทำงานตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้แล้ว ก่อนที่จะนำแอปพลิเคชันนี้ไปใช้งานจริงควร มีการทดสอบการทำงานของระบบในทุกมิติเสียก่อน เพื่อหาข้อผิดพลาดหรือการทำงานที่อาจจะไม่ถูกต้องและปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องนั้นให้สมบูรณ์หรือบางครั้งอาจจะไม่ใช่การทำงานที่ผิดพลาด แต่อาจมีการลำดับการทำงานของกระบวนการทำงานของระบบที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สะดวกต่อผู้ใช้งาน เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันตรวจสอบรายชื่อการเข้าเรียน ครูควรสามารถเลือกห้องที่ต้องการตรวจสอบ รายชื่อได้และรายชื่อนักเรียนควรเรียงลำดับตามเลขที่
ขั้นตอนที่ 5 การจัดทำเอกสารและคู่มือการใช้งาน
(Program Documentation)
เมื่อพัฒนาโปรแกรมเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ผู้พัฒนาควรทำเอกสารประกอบการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อบอกคุณสมบัติองค์ประกอบและข้อจำกัดต่าง ๆ ในการใช้งานโปรแกรม พร้อมจัดทำคู่มือการใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้งานใหม่ทำความเข้าใจในการใช้งานโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด
ขั้นตอนที่ 6 การใช้งานจริง (Program Implement)
บริบทของการทดสอบโปรแกรมกับการใช้งานจริงอาจมีความแตกต่างกัน การนำระบบไปใช้งานจริงจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ผู้พัฒนาต้องติดตาม ตรวจสอบและให้ความสำคัญในระยะแรก ๆ เพราะอาจเกิดข้อผิดพลาดบางประการที่ตรวจสอบไม่พบใน ขั้นตอนของการทดสอบและแก้ไขโปรแกรม เมื่อมีการใช้งานจริงไปสักระยะหนึ่ง โดยไม่เกิดปัญหาใด ๆ จึงอาจสรุปได้ว่าโปรแกรมนั้นมีความสมบูรณ์และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง
ขั้นตอนที่ 7 การปรับปรุงและพัฒนาโปรแกรม
(Program Maintenance)
โปรแกรมทุกโปรแกรมที่ได้พัฒนาขึ้นนั้นไม่สามารถใช้งานได้ตลอดไปเนื่องด้วยโครงสร้างของระบบหรือซอฟต์แวร์ระบบมีการปรับเปลี่ยนทำ ให้โปรแกรมที่ใช้งานอยู่ทำงานไม่สมบูรณ์หรือมีข้อผิดพลาด ดังนั้น การปรับปรุงและพัฒนาโปรแกรมให้ทันสมัยอยู่เสมอจึงมีความสำคัญและควรทำอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเป็นการทำให้ระบบ มีความสมบูรณ์และทำงานได้เป็นปกติแล้ว ยังเป็นการป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การถูกโจมตีจากมัลแวร์หรือซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์
เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน
ในการพัฒนาแอปพลิเคชันมีเครื่องมือที่เหมาะสมและใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์และประเภทของแอปพลิเคชันนั้น เช่น การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันสามารถพัฒนาได้โดยใช้ภาษา HTMLร่วมกับภาษาสคริปต์ (PHP, ASP,Pythonฯลฯ) หรือการพัฒนาแอปพลิเคชันบน สมาร์ตโฟนสามารถใช้เครื่องมือพัฒนาที่หลากหลาย เช่น AndroidStudio,HTML5,Java หรือแม้กระทั่ง เครื่องมือหรือภาษาที่อยู่ในรูปแบบของบล็อกคำสั่ง เช่น AppInventor หรือ Thunkable ทั้งนี้ จะขอยกตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันอย่างง่ายสามารถพัฒนาแอปพลิเคชัน ได้ในระยะเวลาอันสั้นและเรียนรู้วิธีการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
1. MIT App Inventor เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างแอปพลิเคชันที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ
แอนดรอยด์ (Android) โดยผู้พัฒนาแอปพลิเคชันไม่ต้องเขียนภาษาโปรแกรมใด ๆ ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยตนเองได้รูปแบบของเครื่องมือจะมีองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ส่วน
ส่วนของการออกแบบ ส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (UI) ซึ่งสามารถออกแบบได้โดยการลากสิ่งที่ต้องการแสดงผลมาไว้บนหน้าจอแอปพลิเคชันและตกแต่งได้ตามต้องการ
ส่วนของการเขียนชุดคำสั่ง (ฺBlocks) คือ คำสั่งที่ผู้พัฒนาสามารถเขียนคำสั่ง ให้แอปพลิเคชันทำงานโดยคำสั่งที่ใช้อยู่ในรูปของบล็อกคำสั่งที่เชื่อมต่อกันไว้อย่างเป็นลำดับและมีระบบ
2. Thunkable เป็นเครื่องมือในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีรูปแบบเดียวกันกับ MIT App Inventor คือ มีส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ส่วนคือ
ส่วนของการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (UI)
ส่วนของการเขียน ชุดคำสั่ง (Blocks) ซึ่งโดยพื้นฐานการทำงานทั้ง 2 เครื่องมือนี้มีความแตกต่างกันไม่มาก สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันพื้นฐานที่ไม่มีความซับซ้อนได้
3. Kodular คือ เครื่องมือออนไลน์ หรือเว็บไซต์ที่เปิดให้ทุกคนสามารถสร้างแอปพลิเคชัน
เป็นของตัวเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเรียนรู้การเขียนโปรแกรม เพียงแค่ลาก-วางบล็อค มาต่อกันแบบจิ๊กซอว์ สามารถออกแบบและสร้างแอปพลิเคชันที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android ได้อย่างรวดเร็ว เราสามารถทำการทดสอบแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Kodular Companion
ชิ้นงาน :: การพัฒนาแอปพลิเคชันเครื่องคิดเลขโดยใช้ Kodular
วิดีโอการสอน :: การพัฒนาแอปพลิเคชันเครื่องคิดเลขโดยใช้ Kodular
การออกแบบหน้าหลัก
การออกแบบหน้าคำชี้แจง
การออกแบบเครื่องคิดเลข
การออกแบบหน้าผู้จัดทำ
การเขียนบล็อคคำสั่ง
การทดสอบแอปพลิเคชัน