ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anacardium accidentale L.
วงศ์ : acardiaceae
พันธุ์ : Anacardium
กลุ่ม : Occidentale
ชื่อพื้นเมือง : Cashew, Cashew Apple, Cajueiro, Cashu, Acajoiba, Acaju, Cajou, Jocote, Maranon Pomme Cajou
ลักษณะทั่วไป
มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของอเมริกา เขตแล้งชายฝั่งทะเลตอนกลางและตอนเหนือของบราซิล มะม่วงหิมพานต์เผยแพร่ไปยังส่วนต่างๆ ของโลกโดยนัดเดินเรือชาวสเปน เข้าสู่ประเทศไทยพร้อมๆกับยางพารา ในราว พ.ศ. 2444 พระยารัชฎานุประดิษฐ์เราใช้ส่วนของผลหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเมล็ดรับประทาน ปรุงอาหาร น้ำจากก้านผลใช้เป็นยาแก้เจ็บคอ ขับปัสสาวะ ใช้ผลิตไวน์ และช่วยกระตุ้นสมองให้จำได้ดีขึ้น ใบอ่อนใช้แก้โรคท้องร่วง โรคบิด ใบแก่ใช้บดพอกแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ยางของมะม่วงหิมพานต์ใช้เป็นยากันปลวก ใช้ทำกาว
ประโยชน์ของมะม่วงหิมพานต์
ผล ใช้รับประทานเป็นอาหาร ทำแยม น้ำส้มสายชู เครื่องดื่ม และไวน์ น้ำของผลมะม่วงหิมพานต์ ใช้เป็นยาแก้โรคกระเพาะ แก้อาเจียน เจ็บคอ ขับปัสสาวะ และขับเหงื่อ
เปลือกหุ้มเมล็ด นำมาสกัดได้กรดน้ำมัน ซึ่งมีประโยชน์ทางอุตสาหกรรมใช้ทำผ้าเบรค แผ่นคลัช หมึกพิมพ์ กระเบื้องยางปูพื้น สีทาบ้าน และอื่น ๆ ไม่น้อยกว่า 400 ชนิด นอกจากนี้ยังทำเป็นยาแก้โรคเหน็บชา โรคเลือดคั่ง และโรคผิวหนัง
เยื่อหุ้มเมล็ดใน ใช้เป็นอาหารสัตว์
เมล็ดใน ใช้รับประทานมีคุณค่าทางอาหารสูง ใกล้เคียงไข่ นม เนื้อ ไม่เพิ่มไขมันในเส้นเลือดและตับ เป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายที่สุดดีกว่าพืชตระกูลถั่วทั่ว ๆ ไป
ใบและยอดอ่อน รับประทานบรรเทาโรคท้องร่วง บิด ริดสีดวง
ใบแก่ นำมาลดให้ละเอียด ใช้พอกแผลที่เกิดจากไฟไหม้ หรือนำมาขยี้และใช้สีฟังทำให้ฟันสะอาด
ลำต้น ทำหีบใส่ของ ลังไม้ เรือ แอก ดุมล้อเกวียน
ยางจากเปลือกลำต้น ทำหมึกประทับตราผ้า น้ำมันขัดเงา เคลือบหนังสือ น้ำประสานในการบัดกรีโลหะ และใช้ทำกาว
เปลือกลำต้น แก้ปวดฟัน ต้มกินแก้โรคท้องร่วง และผิวหนังพุพอง
ราก เป็นยาฝาดสมานแผล และแก้โรคท้องร่วง