Performance Agreement
Performance Agreement
ระดับความสำเร็จในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัมนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นท้าทาย เรื่องผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสื่อผสม ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาชีววิทยา ว31242 ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
จากการจัดการเรียนการสอนรายวิชาชีววิทยา เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีบทบาทสำคัญในด้านการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในด้านต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับทุกคนทั้งในชีวิตประจำวันและการงานอาชีพต่างๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และผลผลิตต่างๆ ที่มนุษย์ได้ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน วิทยาศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดที่เป็นเหตุผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ คิดวิจารณ์ ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์ เพื่อจะได้มีความรู้ ความเข้าใจในธรรมชาติและเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้น สามารถนำความรู้ไปใช้อย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) การจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและทำให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนและสามารถใช้ชีวิตอย่างประสบความสำเร็จในศตวรรษที่ 21 นั้น ครูต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสามารถสอนให้ผู้เรียนให้เกิดการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง (วิชัย เสวกงาม, 2557) โดยแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) กำหนดให้แต่ละสถานศึกษา มุ่งจัดการศึกษาให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสและความเสมอภาคในการศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ พัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงานและการพัฒนาประเทศ โดยครูผู้สอนสอนความรู้เนื้อหาผนวกกับการใช้สถานการณ์ที่จะช่วยให้ผู้เรียนวินิจฉัยและแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม
สำหรับปัญหาที่พบด้านนักเรียนคือนักเรียนจำนวนมาก ยังขาดความกระตือรือร้น ขาดทักษะในการแสวงหาความรู้ ทักษะการจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหา วิธีการหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนคือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยครูต้องเชื่อว่าความรู้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา ในการเรียนรู้นั้นผู้เรียนเป็นผู้กระทำ ผู้เรียนจะต้องแสดงการเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพของแต่ละบุคคลให้ปรากฏชัดเจน สอดคล้องกับสภาพสังคมไทยและสังคมโลกปัจจุบัน ร่วมใจกันปฏิรูปการเรียนรู้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน (สุวิทย์ มูลคำและคณะ, 2551)
จากสภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ดังกล่าว พบว่าปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การขาดสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสม และสอดคล้องกับยุคสมัยของเทคโนโลยี โดยเฉพาะการจัดการเรียนรู้เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม สื่อการสอนจึงจำเป็นในการจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียน เนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นนามธรรม เข้าใจยาก และมีคำศัพท์เฉพาะมาก เนื้อหาบางส่วนไม่สามารถทำการทดลองได้เนื่องจากอุปกรณ์มีไม่เพียงพอเนื่องจากการทดลองจะทำให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ได้ครบทุกด้าน โดยการใช้สื่อการสอนเป็นไปในรูปของสื่อผสม ซึ่งได้ผลดีกว่าการใช้สื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง (ชัยยงค์ พรหมวงศ์, 2538) โดยรูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสนใจคือรูปแบบการคือการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เนื่องจากการเรียนวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันมุ่งหวังให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้โดยผ่านกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ได้ตัวตนเอง เนื่องจากกิจกรรมการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ จนสามารถดึงหลักการ แนวคิดที่แฝงอยู่ออกมาเพื่อนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆ ต่อไป และพบว่ากระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้เป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้ที่นำมาใช้ได้ผลดีในวิชาวิทยาศาสตร์ (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , 2546 ) และทำให้นักเรียนมีความเข้าใจในแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ และมีความรู้ในคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ คุ้นเคยกับกระบวนการหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เข้าใจว่านักวิทยาศาสตร์ค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร และ ประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สู่ประเด็นทางสังคมและประเด็นเกี่ยวกับบุคคลได้ (National Research council [NRC] ,2000 ; Zion , Michalsky & Mevarech ,2005 ) ซึ่งสอดคล้องกับ ผดุงยศ ดวงมาลา (2530) และ ภพ เลาหไพบูลย์ (2534) ที่กล่าวถึงกระบวนการสอนแบบสืบเสาะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้จริง จากการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้เกิดความคิดมากกว่าความจำ และยังทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้นจากการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง วิธีการสอนแบบการสืบเสาะหาความรู้ จะกระตุ้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาความอยากรู้ การสืบเสาะ ความสามารถและทักษะการทำงานเป็นทีม วิธีการสืบเสาะจะช่วยเอื้อให้ผู้เรียนมีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในการแก้ปัญหามากกว่าแค่การใช้แนวคิดการจำในการทดลองแบบเดิมๆ (Rehorek,2004)
ดังนั้นครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าทาย เรื่องผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสื่อผสม ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาชีววิทยา ว31242 ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ตามหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ในเรื่องของมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด จัดทำคำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชาชีววิทยา และเนื้อหาเรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม
2.2 จัดทำชุดแบบฝึกกิจกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม
2.3 จัดทำแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม
2.4 จัดทำแบบสังเกต แบบประเมินทักษะกระบวนการ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
2.5 จัดทำแบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อผสม
2.6 นำชุดแผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกกิจกรรม แบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน แบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อผสม ไปให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้พิจารณาความเหมาะสม พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุงแก้ไข
2.6 ครูผู้สอนนำ แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดแบบฝึกกิจกรรม แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อผสม มาปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของคุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้
2.7 ครูผู้สอนนำแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกกิจกรรม และแบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อผสม ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
2.8 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 16 คน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม โดยใช้สื่อผสม แล้วมีคะแนนจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ร้อยละ 70
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 16 คน และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องโครโมโซมและสารพันธุกรรม ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ครูได้จัดขึ้นในระดับ มาก ขึ้นไป